พิจิตร - ปศุสัตว์จังหวัดพิจิตรลงพื้นที่สอบสวนโรค เก็บตัวอย่างซากไก่พันธุ์พื้นเมืองส่งตรวจหาเชื้อไข้หวัดนกทางห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ พร้อมเร่งควบคุมสถานการณ์เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้ออีก ทั้งยังเป็นการตัดวงจรของเชื้อไข้หวัดนกดังกล่าว
วันนี้ (30 ก.ค.) นายพิษณุ ตุลยวณิชย์ ปศุสัตว์จังหวัดพิจิตรพร้อมเจ้าหน้าที่ทีมสัตว์แพทย์ลงพื้นที่หมู่ที่ 9 หมู่ที่ 18 ตำบลเนินปอและหมู่ที่ 2 ของตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม หลังพบไก่พันธุ์พื้นเมืองของเกษตรกรล้มตายลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ อีกทั้งยังพบผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดนก เพิ่มเป็นจำนวน 5 ราย
รายแรกเป็นเด็กชาย อายุ 6 ปี รายที่ 2 เด็กหญิงอายุ 10 ปี รายที่ 3 ผู้หญิงอายุ 62 ปี ทั้งสามรายอยู่ในหมู่ที่ 9 และหมู่ที่ 18 ของตำบลเนินปอ ส่วนรายที่ 4 ผู้หญิงอายุ 70 ปี ส่วนรายที่ 5 เป็นเด็กชายวัย 5 ปีอยู่ในหมู่ที่ 2 ตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม นอนรักษาตัวเฝ้าสังเกตอาการ อยู่ในห้องปลอดเชื้อของโรงพยาบาลอำเภอสามง่าม ซึ่งผลตรวจเบื้องต้นพบว่า โรคไข้หวัดใหญ่ชนิด H 3
ปศุสัตว์จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า บ้านของนางทับทิม พรมศรี หมู่ที่ 18 ตำบลเนินปอ เลี้ยงไก่พันธุ์พื้นเมืองจำนวน 35 ตัวและได้ทยอยล้มตายอย่างไม่ทราบสาเหตุจำนวน 33 ตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้เก็บตัวอย่างซากไก่พันธุ์พื้นเมือง ส่งไปตรวจหาเชื้อไข้หวัดนกทางห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตว์แพทย์ภาคเหนือตอนล่าง จังหวัดพิษณุโลก จะทราบผลว่าไก่ที่ล้มตายดังกล่าวติดเชื้อไข้หวัดนกหรือไม่ภายใน 10 วันนี้
พร้อมกันนี้ยังได้ทำลายไก่พันธุ์พื้นเมืองที่เหลืออยู่ เพื่อตัดวงจรการระบาดของเชื้อโรค รวมทั้งฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคบริเวณโดยรอบเล้าไก่ ฟาร์มเลี้ยงไก่ของเกษตรกรที่พบว่ามีสัตว์ปีกป่วยตายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ปศุสัตว์จังหวัดพิจิตรยังได้ให้คำแนะนำกับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีก โดยเฉพาะการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคไข้หวัดนกบริเวณเล้าไก่ หรือฟาร์มเกษตรกร ต้องฉีดพ่นโดยรอบฟาร์มหรือเล้าไก่เท่านั้น ห้ามฉีดพ่นไปโนตัวไก่หรือสัตว์ปีก เนื่องจากไก่เป็นสัตว์ปีกที่ร่างกายเล็ก ลิ้นสั้นเมื่อได้รับน้ำยาจะทำให้น้ำยาเข้าสู่ปอดของไก่ ซึ่งจะทำให้ไก่ที่เลี้ยงไว้เกิดภาวะช็อกและตายได้ในที่สุด
นอกจากนี้ ถ้าหากพบสัตว์ปีกป่วยตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เข้าควบคุมสถานการณ์ เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อไข้หวัดนก รวมทั้งควรฝังทำลายซากสัตว์ปีกที่ล้มตายอย่างถูกวิธีเพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายออกไปโดยรอบชุมชน หมู่บ้านอีกด้วย
วันนี้ (30 ก.ค.) นายพิษณุ ตุลยวณิชย์ ปศุสัตว์จังหวัดพิจิตรพร้อมเจ้าหน้าที่ทีมสัตว์แพทย์ลงพื้นที่หมู่ที่ 9 หมู่ที่ 18 ตำบลเนินปอและหมู่ที่ 2 ของตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม หลังพบไก่พันธุ์พื้นเมืองของเกษตรกรล้มตายลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ อีกทั้งยังพบผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดนก เพิ่มเป็นจำนวน 5 ราย
รายแรกเป็นเด็กชาย อายุ 6 ปี รายที่ 2 เด็กหญิงอายุ 10 ปี รายที่ 3 ผู้หญิงอายุ 62 ปี ทั้งสามรายอยู่ในหมู่ที่ 9 และหมู่ที่ 18 ของตำบลเนินปอ ส่วนรายที่ 4 ผู้หญิงอายุ 70 ปี ส่วนรายที่ 5 เป็นเด็กชายวัย 5 ปีอยู่ในหมู่ที่ 2 ตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม นอนรักษาตัวเฝ้าสังเกตอาการ อยู่ในห้องปลอดเชื้อของโรงพยาบาลอำเภอสามง่าม ซึ่งผลตรวจเบื้องต้นพบว่า โรคไข้หวัดใหญ่ชนิด H 3
ปศุสัตว์จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า บ้านของนางทับทิม พรมศรี หมู่ที่ 18 ตำบลเนินปอ เลี้ยงไก่พันธุ์พื้นเมืองจำนวน 35 ตัวและได้ทยอยล้มตายอย่างไม่ทราบสาเหตุจำนวน 33 ตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้เก็บตัวอย่างซากไก่พันธุ์พื้นเมือง ส่งไปตรวจหาเชื้อไข้หวัดนกทางห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตว์แพทย์ภาคเหนือตอนล่าง จังหวัดพิษณุโลก จะทราบผลว่าไก่ที่ล้มตายดังกล่าวติดเชื้อไข้หวัดนกหรือไม่ภายใน 10 วันนี้
พร้อมกันนี้ยังได้ทำลายไก่พันธุ์พื้นเมืองที่เหลืออยู่ เพื่อตัดวงจรการระบาดของเชื้อโรค รวมทั้งฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคบริเวณโดยรอบเล้าไก่ ฟาร์มเลี้ยงไก่ของเกษตรกรที่พบว่ามีสัตว์ปีกป่วยตายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ปศุสัตว์จังหวัดพิจิตรยังได้ให้คำแนะนำกับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีก โดยเฉพาะการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคไข้หวัดนกบริเวณเล้าไก่ หรือฟาร์มเกษตรกร ต้องฉีดพ่นโดยรอบฟาร์มหรือเล้าไก่เท่านั้น ห้ามฉีดพ่นไปโนตัวไก่หรือสัตว์ปีก เนื่องจากไก่เป็นสัตว์ปีกที่ร่างกายเล็ก ลิ้นสั้นเมื่อได้รับน้ำยาจะทำให้น้ำยาเข้าสู่ปอดของไก่ ซึ่งจะทำให้ไก่ที่เลี้ยงไว้เกิดภาวะช็อกและตายได้ในที่สุด
นอกจากนี้ ถ้าหากพบสัตว์ปีกป่วยตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เข้าควบคุมสถานการณ์ เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อไข้หวัดนก รวมทั้งควรฝังทำลายซากสัตว์ปีกที่ล้มตายอย่างถูกวิธีเพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายออกไปโดยรอบชุมชน หมู่บ้านอีกด้วย
