ศูนย์ข่าวขอนแก่น- “โค้วอยู่ฮะ มอเตอร์” ผู้ค้าอีซูซุรายใหญ่ในภาคอีสาน ไม่หวั่นน้ำมันแพง เปิดแนวรุกครั้งใหญ่หวังรักษาแชมป์เจ้าตลาดกระบะให้ได้อีกสมัย เทงบลงทุนครั้งใหญ่กว่า 300 ล้านบาท เร่งผุดโชว์รูมและศูนย์บริการอีก 8 แห่งทั่วภาคอีสาน พร้อมอัดแคมเปญแจกแถมไม่ยั้ง มั่นใจคั่วแชมป์ยอดขายอีซูซุได้อีกสมัยแน่ ชี้น้ำมันแพงไม่กระทบยอดขายมาก เหตุกระบะยังเป็นสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพ เชื่อแม้ราคาดีเซลพุ่งถึงลิตรละ 50 บาท ก็ยังขายกระบะได้
ตลาดกระบะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถือเป็นตลาดใหญ่ จากขนาดตลาดที่ใหญ่มากที่สุดของประเทศ ทั้งพฤติกรรมการใช้รถยนต์กระบะของชาวอีสานใช้รถยนต์กระบะในลักษณะอเนกประสงค์เป็นทั้งรถยนต์บรรทุกสินค้าและรถยนต์นั่งคันเดียวกัน ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์กระบะมีสัดส่วนที่สูงมาก บางจังหวัดมีสัดส่วนยอดขายมากกว่า 80% เมื่อเทียบกับยอดขายรถยนต์นั่ง
แม้ก่อนหน้าค่าย อีซูซุจะผูกขาดตำแหน่งแชมป์ยอดขายยาวนาน แต่เมื่อโตโยต้าออกกระบะวีโก้ พร้อมกลยุทธ์เพิ่มช่องทางจำหน่าย ตั้งดีลเลอร์เพิ่มในหลายจังหวัด เช่น จ.ขอนแก่นมีดีลเลอร์ถึง 3 บริษัท ยอดขายกระบะ 2 ยี่ห้อใกล้เคียงกัน ต่างฝ่ายอ้างว่าเป็นแชมป์ยอดขาย สมรภูมิตลาดกระบะภาคอีสาน จึงเป็นการขับเคี่ยวแชมป์ยอดขายผูกขาดระหว่างยักษ์ใหญ่ 2 ค่ายคือโตโยต้า และอีซูซุ
ล่าสุด “โค้วอยู่ฮะมอเตอร์” ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อีซูซุรายใหญ่ของภาคอีสาน มีสาขากระจายครอบคลุมหลายจังหวัดภาคอีสาน ปรับตัวครั้งใหญ่อีกครั้งด้วยการเร่งขยายโชว์รูมและศูนย์บริการในหลายจังหวัดมากกว่า 8 สาขา โดยเฉพาะที่ จ.ขอนแก่น มีสาขาเพิ่มกว่า 3 สาขา รับมือการแข่งขันที่รุนแรงและให้ความสะดวกด้านบริการลูกค้าครอบคลุมมากขึ้น
นายประยูร อังสนันท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โค้วอยู่ฮะมอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อีซูซุในหลายจังหวัดภาคอีสาน เปิดเผย “ผู้จัดการรายวัน” ถึงการทำตลาดปี 2551 ว่า บริษัท โค้วอยู่ฮะมอเตอร์ ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในเชิงรุก ทุ่มงบประมาณครั้งใหญ่กว่า 300 ล้านบาท เพื่อดำเนินการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์อีซูซุเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวนทั้งสิ้น 8 แห่ง แยกเป็นสาขาใน จ.ขอนแก่น 3 แห่ง จ.มหาสารคาม 2 แห่ง จ.ร้อยเอ็ด 2 แห่ง และจ.เลยอีก 1 แห่ง
สาขาที่เพิ่มขึ้นในจังหวัดขอนแก่น สร้างเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการเต็มรูปแบบ 2 แห่ง ใช้เงินลงทุนก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท ไม่รวมค่าที่ดิน ที่สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น และสาขาถนนศรีจันทร์ อ.เมืองขอนแก่น ส่วนสาขา 3 ที่อำเภอน้ำพอง สร้างเป็นมินิโชว์รูม โดยใช้เงินลงทุนก่อสร้าง ประมาณสาขาละไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ด้วยการลดขนาดพื้นที่โชว์รูมขาย และศูนย์บริการลงให้เหมาะสมกับขนาดตลาด
นายประยูร กล่าวต่อว่า สาขาที่จ.มหาสารคาม จะก่อสร้างเพิ่มเติมที่อ.เชียงยืน และอ.โกสุมพิสัย นอกเหนือจากสาขาอำเภอเมืองที่เป็นสาขาเต็มรูปแบบ โดยสาขาใหม่ก่อสร้างเป็นมินิโชว์รูม ขณะนี้เริ่มเปิดขายได้แล้ว ส่วนอีก 3 สาขาสร้างเป็นมินิโชว์รูมเช่นกัน ที่อ.สุวรรณภูมิ, อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด และสาขา อ.ด่านซ้าย จ.เลย คาดว่าทั้ง 8 สาขาจะให้บริการสมบูรณ์ได้ภายในปลายปี 2551
จุดประสงค์หลักการขยายสาขาเพิ่มของกลุ่มบริษัท โค้วอยู่ฮะ เพื่อรองรับการแข่งขันทางตลาดที่รุนแรง จากการที่คู่แข่งขันหลายค่ายต่างเร่งขยายสาขา และตั้งดีลเลอร์เพิ่มหลายบริษัท โดยเฉพาะในอำเภอเมืองขอนแก่นที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ ขณะที่โค้วอยู่ฮะ มีโชว์รูมและศูนย์บริการที่สำนักงานใหญ่แค่ 1 แห่ง ขณะเดียวกันก็อำนวยความสะดวกด้านบริการหลังการขาย ให้ลูกค้าอีซูซุได้รับความสะดวกสบาย สามารถนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการใกล้บ้าน
ผลการดำเนินงานในรอบปี 2550 ที่ผ่านมา โค้วอยู่ฮะประสบผลสำเร็จการดำเนินงานมาก ยอดขายรถยนต์ของบริษัทโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10% ที่สำคัญเป็นปีแห่งความสำเร็จที่สามารถครองตำแหน่งแชมป์ยอดขายรถยนต์อีซูซุ ในกลุ่มผู้แทนจำหน่ายอีซูซุทั่วประเทศอีกสมัย และหากเทียบกับผลประกอบการกับรถยนต์ค่ายอื่น เชื่อมั่นว่าโค้วอยู่ฮะไม่เป็นรองตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ค่ายอื่นในพื้นที่เดียวกัน
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานในปี 2551 ธุรกิจค้ารถยนต์ทั่วโลก ต้องเผชิญปัญหาหนักเรื่อง ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอย่างรวดเร็วมาตั้งแต่ต้นปี 2551 และเป็นราคาสูงมาก ล่าสุดราคา ณ กลางเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันเฉลี่ยเมื่อปีที่แล้ว โดยราคาน้ำมันดีเซลราคาสูงมากกว่า 40 บาท/ลิตร และเบนซิน 91 ราคามากกว่า 41 บาท/ลิตรนั้น ส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ใช้รถยนต์รวมถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่กำลังจะซื้อรถยนต์อย่างเลี่ยงไม่ได้
น้ำมันแพงกระทบขายตกช่วงแรก
ทุ่มแคมเปญหนักรักษายอดเท่าปี50
นายประยูร กล่าวต่อว่า ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอย่างรุนแรงในปีนี้ โดยภาพรวมกระทบกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งสินค้าสูงมาก ต้องทนแบกรับภาระค่าน้ำมันที่สูงเกินคาด และขาดทุนที่รับงานขนส่งสินค้าล่วงหน้ากับผู้ใช้บริการ จนกว่าจะมีการเจรจาปรับราคาค่าบริการขนส่งเพิ่มจากลูกค้า ผลกระทบต่อเนื่องกับธุรกิจค้ารถยนต์คือ กลุ่มที่ซื้อรถยนต์ประกอบอาชีพขนส่งสินค้า มีรายได้ลดลง อาจทำให้การส่งค่างวดรถยนต์กับไฟแนนซ์ไม่ทัน หรือส่งค่างวดรถช้ากว่าปกติ หรือแม้กระทั่งส่งเงินค่างวดรถยนต์ลงในช่วงที่ประสบปัญหา
ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจค้ารถยนต์ของโค้วอยู่ฮะ ในแง่การขายรถยนต์ใหม่ ยอมรับว่า ลูกค้าวิตกกังวลต่อราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นมาก แต่รถยนต์กระบะที่อีซูซุจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์หลักนั้นถือเป็นสินค้าจำเป็นต่อการใช้งานของกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ต่างจังหวัด จุดหมายหลักซื้อรถยนต์ไว้เพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ มากกว่ากลุ่มที่ซื้อกระบะไปใช้งานในลักษณะรถยนต์นั่ง
“ภาพรวมการจำหน่ายรถยนต์ของโค้วอยู่ฮะ ยังสามารถจำหน่ายรถยนต์กระบะไปได้เรื่อยๆ ยอมรับว่าช่วงแรกที่น้ำมันปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายกระบะตกลงประมาณ 5-10% เพราะลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการซื้อรถยนต์กระบะ วิตกกังวลต่อราคาน้ำมันแพง ทั้งยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์เศรษฐกิจขาลง ที่กำลังเผชิญกับปัญหาสินค้าราคาแพงขึ้น ประชาชนจึงชะลอการใช้จ่ายระยะนี้”นายประยูรกล่าวและว่า
แต่รถยนต์กระบะยังเป็นสินค้าจำเป็นต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ ผลกระทบโดยตรงจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นนี้กระทบความรู้สึกผู้ซื้อบ้าง แต่หากผู้ซื้อสามารถปรับตัวยอมรับได้ ก็จะกลับมาซื้อรถยนต์กระบะเช่นเดิม และยังมั่นใจว่าแม้ราคาน้ำมันดีเซลจะปรับขึ้นไปถึงลิตรละ 50 บาท รถยนต์กระบะก็ยังคงขายได้ในตลาด
กรรมการผู้จัดการบริษัท โค้วอยู่ฮะ กล่าวต่อว่า กลยุทธ์รับมือน้ำมันแพง โดยยอดขายที่ลดลงน่าจะมาจากผลกระทบในแง่ความรู้สึก แต่ความจำเป็นใช้รถยนต์กระบะยังมีต่อเนื่อง จึงต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดรับสถานการณ์ โดยโค้วอยู่ฮะจะทุ่มจัดแคมเปญกระตุ้นแรงซื้อในตลาดมากขึ้น ทั้งการจัดแคมเปญดอกเบี้ยต่ำ ดาวน์ต่ำ ผ่อนนาน แถมประกันภัยชั้น 1 ให้ผู้ซื้อรถยนต์รู้สึกถึงความคุ้มค่าเงินมากที่สุด
ผนวกกับจุดแข็งผลิตภัณฑ์ กระบะแบรนด์อีซูซุ ได้รับการยอมรับในตลาดกระบะเมืองไทยมายาวนานว่าเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เครื่องยนต์อีซูซุโดดเด่นด้านประหยัดน้ำมัน มีความทนทาน สามารถขายต่อได้ราคาดี และมีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ เป็นจุดแข็งที่อีซูซุเหนือกว่าคู่แข่งในตลาด เมื่อจัดแคมเปญกระตุ้นตลาดควบคู่กันไป น่าจะทำให้การผลักดันยอดขายอีซูซุประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
แม้ว่าปัจจัยที่เกี่ยวข้องทางธุรกิจจะไม่เอื้อต่อการทำตลาดรถยนต์นัก แต่ด้วยการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในเชิงรุกของโค้วอยู่ฮะ คาดว่า จะทำให้ผลการดำเนินงานของโค้วอยู่ฮะปี 2551 นี้มียอดขายกระบะไม่ลดลงจากปี 2550 แน่ และที่สำคัญ โค้วอยู่ฮะจะมุ่งรักษาเป็นผู้นำตัวแทนจำหน่ายอีซูซุ ครองตำแหน่งแชมป์ยอดขายกระบะให้ได้อีกสมัย
