ศูนย์ข่าวศรีราชา - กลุ่มเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ปลุกมวลชนทุกภาคส่วนที่ได้รับความเดือดร้อนจากรัฐ ร่วมคัดค้านแก้ไขพระราชบัญญัติจัดระเบียบการชุมนุมในที่สาธารณะ เพราะเป็นการทำลายการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน
นายสุทธิ อัชฌาศัย เลขาธิการเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2550 มาตรา 63 กับการผลักดันพระราชบัญญัติจัดระเบียบการชุมนุมในที่สาธารณะของนายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคพลังประชาชน คือความถดถอยแห่งกระบวนการประชาธิปไตย เป็นแนวความคิดเผด็จการแนวใหม่ ในระบอบการเลือกตั้ง
หลังจากที่มีการเสนอแก้ไขมาตราดังกล่าว ด้านนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้นำเสนอความคิดและความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2550 มาตรา 63 เพื่อจำกัดในการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนในการชุมนุมโดยสงบ สันติและปราศจากอาวุธ โดยเติมถ้อยคำอันเป็นอุปสรรคทำให้การชุมนุมของประชาชนต้องประสบปัญหาและทำให้การรวมกลุ่มในการชุมนุมโดยสงบทำได้ยากขึ้น
การกระทำนั้นถือเป็นการปิดกั้นเสรีภาพและทำลายพื้นฐานของความเป็นประชาธิปไตย การละเมิดสิทธิ การจำกัดเสรีภาพถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง และขัดกับหลักคิดที่เคยมีการนำเสนอมาก่อนของรัฐบาลชุดนี้ ที่ยืนยันชัดเจนว่าจะยึดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2540 มาเป็นแม่แบบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ทุกประโยค ทุกสำนวนและทุกถ้อยคำก็มาจากมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญปี 2540
นายสุทธิ กล่าวต่อว่า แนวคิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 63 ของนายสมัคร ถือว่ามิได้ยึดหลักที่เคยแถลงไว้ว่าจะนำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 มาเป็นแม่แบบแม้แต่นิดเดียว สร้างระบอบเผด็จการจากการเลือกตั้งนำประเทศถอยหลังกลับไปเมื่อก่อนปี 2475 ทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มีแนวคิดสร้างรัฐธรรมนูญอย่างไร้หลักไร้เหตุผล ที่มีพื้นฐานแห่งความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ความพยายามในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบการชุมนุมในที่สาธารณะนั้น ถือว่าไร้สาระขัดกับหลักของกฎหมายรัฐธรรมนูญในทุกๆฉบับที่เคยใช้ปฏิบัติมาในประเทศไทย โดยมีแนวคิดสร้างประเทศไทยให้เป็นรัฐตำรวจ ดูถูกเสรีภาพ ทำลายการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน จึงเห็นว่าผู้ที่นำเสนอแก้ไขมีความคิดที่เป็นอันตรายต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยทรงเป็นพระประมุข
นายสุทธิ กล่าวว่า ดังนั้น กลุ่มเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก แถลงข่าวเรียกร้องให้นายสมัคร นายกรัฐมนตรี ยุติความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2550 ทั้งฉบับ เพราะนายสมัครกำลังจะสร้างรัฐธรรมนูญตามอำเภอใจ ไม่มีความเข้าใจในปรัชญาของกฎหมายแม้แต่นิดเดียว
รวมถึงควรแสดงสปิริตความรับผิดชอบด้วยการลาออก และไม่สมควรบรรจุร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบการชุมนุมในที่สาธารณะ เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาเพราะขัดรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่เคยใช้มาในประเทศไทย และผู้เสนอร่างสมควรพิจารณาตนเอง เพราะมีความคิดที่เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก
“ผมขอเรียกร้องให้พี่น้องเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา พี่น้องสมัชชาคนจน หรือพี่น้องเครือข่ายภาคประชาชนที่ประสบปัญหาจากการพัฒนาของรัฐ และใช้การชุมนุมโดยสงบเป็นเครื่องมือในการต่อรองกับผู้มีอำนาจ ออกมาช่วยกันคัดค้านและร่วมประณามรัฐบาล กับ ส.ส.พลังประชาชนที่มีความคิดดังกล่าว เพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนคนไทยทุกคนตามหลักปฏิญญาสากลแห่งสิทธิมนุษยชนต่อไป” นายสุทธิ กล่าว