กาฬสินธุ์ - “บำรุง คะโยธา” อดีตแกนนำสมัชชาคนจนภาคอีสานประสานสมัชชาฯ ทั่วประเทศเตรียมเคลื่อนทัพต้าน พ.ร.บ.จัดระเบียบการชุมนุมที่สาธารณะ ชี้เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง ระบุเป็นพฤติกรรมที่ปิดหูปิดตาประชาชนของรัฐบาล
นายบำรุง คะโยธา อดีตแกนนำสมัชชาคนจนภาคอีสาน เปิดเผยถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มสมัชชาฯกลุ่มประชาชนต่างๆ ทั่วประเทศว่า ขณะนี้ทั่วประเทศที่เป็นเครือข่ายทั้งสาย NGO สายสมัชชาคนจนที่กระจายอยู่ทั่วประเทศได้มีการเคลื่อนไหว เพื่อเตรียมจะเข้าไปต่อต้านรัฐบาลยุติการออกกฏหมายควบคุมการชุมนุมของประชาชน
ทั้งนี้ เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการปิดหูปิดตาประชาชน เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง เพราะในรัฐธรรมนูญได้เปิดเสรีให้ประชาชนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานของฝ่ายบริหารประเทศได้อยู่แล้ว
“ในส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่จะมาจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพราะหากรัฐบาลโปรงใสไม่ทุจริต ผิดถูกก็น่าจะเอามาพูดกันได้ การออก พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นการเอื้อการใช้อำนาจให้รัฐบาลขจัดกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐ”
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าการจำกัดสิทธิการชุมนุมของประชาชน ไม่ได้กระทบต่อกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯแต่มันเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งการชุมนุมมีกฎหมายควบคุมอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นการเข้าทำลายสิ่งของ การทำร้ายร่างกาย แต่ที่ผ่านมาการชุมนุมของประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นการชุมนุมอย่างเงียบๆ ไม่เคยทำลายทรัพย์สินของทางราชการมีเพียงแต่อำนาจรัฐที่เข้ามาทำลายประชาชนเอง จนทำให้มีการบาดเจ็บทรัพย์สินเสียหายอย่างที่เห็นๆ กันอยู่
นายบำรุง ยังกล่าวอีกกว่า การกระทำของรัฐบาลที่จะมีการจัดระเบียบการชุมนุม หรือต้องมีการขออนุญาตก่อนการชุมนุมเป็นการร่นอายุของรัฐบาลเองให้สั้นลงไป ซึ่งขณะนี้กลุ่มแนวร่วมทั้งเอ็นจีโอ สมัชชาได้มีการประสาน เพื่อที่จะคัดค้านและล้มล้าง ด้วยการเคลื่อนไหว ส่วนรูปแบบการเคลื่อนไหวจะเป็นแบบดาวกระจายหรือรวมกลุ่มกันอยู่ระหว่างการพิจารณาตัดสินใจ