กาฬสินธุ์ - “บำรุง” ปธ.ชมรม อปท.ภาคอีสาน จี้จังหวัดกาฬสินธุ์สางปมบิ๊ก อบจ.ฮั้วประมูงงานรับเหมา ชี้กรณีชักหัวคิวงานกีฬามีจริง แนะให้สภาประชาชนเข้าตรวจสอบร่วมกับ ป.ป.ช. เผยปัญหาการทุจริตงบประมาณแผ่นดิน กลายเป็นขบวนการเหลือบ ที่แฝงตัวจนกลายเป็นวัฒนธรรมโกงชาติทุกระดับ
ความคืบหน้ากรณี กลุ่มตัวแทนผู้รับเหมา จ.กาฬสินธุ และจ.ร้อยเอ็ด ออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบปัญหาการรับเหมาใน อบจ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากเชื่อว่าไม่โปร่งใส เพราะมีบรรดาเครือญาตินักการเมืองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จนทำให้มีขบวนการปกปิดงานรับเหมา ขณะที่ กรรมการสมาคมกีฬาจังหวัดกาฬสินธุ์ ยังได้ออกมาแฉถึงกระบวนการชักหัวคิด เขมือบงบกีฬา 40:60 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (25 ก.ย.) นายบำรุง คะโยธา อดีตสมัชชาคนจน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นนายก อบต.(สายนาวัง) อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ และยังดำรงตำแหน่งเป็น ประธานชมรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อประชาชนภาคอีสาน (อปท.ภาคอีสาน) กล่าวว่า จากปัญหาการออกมาแฉทุจริตภายใน อบจ.กาฬสินธุ์ ได้ติดตามข่าวมาตั้งแต่ต้นในเรื่องของการฮั้วประมูลงานรับเหมา รวมไปถึงการปิดงานนั้นเกิดขึ้นจริง
ไม่เฉพาะใน อบจ.กาฬสินธุ์เท่านั้น เพราะใน อปท.ก็ยังมีปัญหาทุจริตงบประมาณแผ่นดินเกิดขึ้นมากซึ่งก็เกิดจากตัวข้าราชการ และตัวผู้บริหารท้องถิ่นแต่ละคน ที่ต้องการเข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ซึ่งมีความรุนแรง ทำให้การบริหารงบประมาณแผ่นดินวิบัติลงได้
นายบำรุง ระบุว่า ในส่วนปัญหา อบจ.กาฬสินธุ์ ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ชัดเจน และถือว่าผู้รับเหมากล้าที่จะออกมาเปิดเผยความจริง ซึ่งใน อบจ.กาฬสินธุ์ การบริหารงานจะเป็นลักษณะเครือญาติ ตั้งแต่ตัวนายก.อบจ.ก็มีการตั้งลูกสาวตนเองเป็นเลขาฯ และถึงแม้จะออกมาบอกว่าตัวเองไม่มีอาชีพรับเหมา แต่ในการบริหารงานสิ่งสำคัญก่อนที่จะเริ่มทำงาน ตัว นายก.อบจ.เองก็จะต้องรู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว จึงไม่ควรที่จะปฏิเสธแต่ควรที่จะหาวิธีการแก้ไขให้ถูกต้องโปร่งใส เพื่อร่วมกันรักษางบประมาณแผ่นดินที่เป็นของประชาชน
ส่วนกรณีการออกมาเปิดเผยปัญหาการชัดหัวคิวกีฬาภายใน อบจ.กาฬสินธุ์ถึง 40:60 นั้นก็เป็นเรื่องจริง เพราะกระบวนการสร้างองค์กรเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ในฐานะที่ตนดูแล อปท.ที่มีสมาชิกในทุกจังหวัด โดยเฉพาะกาฬสินธุ์ ผู้บริหารหลายคนที่รู้ว่าจะมีการชักหัวคิว ส่วนใหญ่ก็จะปฏิเสธเพราะลำบากที่จะต้องจัดหาใบเสร็จรับเงิน เพื่อทำให้การชักหัวคิวกลายเป็นเรื่องที่ถูกต้อง หลาย อบต. รวมถึงเทศบาลตำบลที่ไม่ยอมเข้าไปสู่การสนับสนุนงบประมาณจากทาง อบจ.กาฬสินธุ์ ก็มีมาก เพราะเกรงว่าจะตกเป็นเครื่องมือของพวกทุจริตงบประมาณ
นายบำรุง กล่าวต่อไปว่า ในแนวทางแก้ไข ในส่วนกลาง จังหวัด ที่จะต้องมีการตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว แต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็จะมีสภาประชาชนที่ตั้งขึ้นเอาไว้ ก็ควรอย่างยิ่งที่จะต้องให้ประชาชนที่เป็นตัวแทนได้เข้าไปตรวจสอบ ในเรื่องนี้จึงต้องการให้ จังหวัดได้เอาจริงในการสอบสวน เพราะเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้นับเป็นเรื่องที่ดี และเป็นโอกาสในการป้องกันปัญหาการทุจริตและคอรัปชั่นภายใน อบจ.กาฬสินธุ์
“ในฐานะที่ผมเป็น ประธานชมรม อปท.เพื่อประชาชนภาคอีสาน ก็จะติดตามและร่วมสรุปผลการดำเนินการในการสอบสวนปัญหาดังกล่าวภายใน อบจ.ไปยังส่วนกลางอีกทางหนึ่งด้วย”
สำหรับปัญหาการยื่นซองประมูลงานใน อบจ.กาฬสินธุ์ ถึงแม้จะมีการรายงานข่าวอย่างต่อเนื่อง ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดสนใจที่จะเข้าไปตรวจสอบ โดยเฉพาะท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ดูแลท้องถิ่นโดยตรง โดยอ้างว่ายังไม่ได้รับเรื่องอะไรเลย ขณะที่ อบจ.กาฬสินธุ์ ก็ยังมีการเปิดยื่นซองประมูลงาน ในลักษณะที่ปกปิดอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายอีกด้วย
ความคืบหน้ากรณี กลุ่มตัวแทนผู้รับเหมา จ.กาฬสินธุ และจ.ร้อยเอ็ด ออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบปัญหาการรับเหมาใน อบจ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากเชื่อว่าไม่โปร่งใส เพราะมีบรรดาเครือญาตินักการเมืองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จนทำให้มีขบวนการปกปิดงานรับเหมา ขณะที่ กรรมการสมาคมกีฬาจังหวัดกาฬสินธุ์ ยังได้ออกมาแฉถึงกระบวนการชักหัวคิด เขมือบงบกีฬา 40:60 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (25 ก.ย.) นายบำรุง คะโยธา อดีตสมัชชาคนจน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นนายก อบต.(สายนาวัง) อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ และยังดำรงตำแหน่งเป็น ประธานชมรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อประชาชนภาคอีสาน (อปท.ภาคอีสาน) กล่าวว่า จากปัญหาการออกมาแฉทุจริตภายใน อบจ.กาฬสินธุ์ ได้ติดตามข่าวมาตั้งแต่ต้นในเรื่องของการฮั้วประมูลงานรับเหมา รวมไปถึงการปิดงานนั้นเกิดขึ้นจริง
ไม่เฉพาะใน อบจ.กาฬสินธุ์เท่านั้น เพราะใน อปท.ก็ยังมีปัญหาทุจริตงบประมาณแผ่นดินเกิดขึ้นมากซึ่งก็เกิดจากตัวข้าราชการ และตัวผู้บริหารท้องถิ่นแต่ละคน ที่ต้องการเข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ซึ่งมีความรุนแรง ทำให้การบริหารงบประมาณแผ่นดินวิบัติลงได้
นายบำรุง ระบุว่า ในส่วนปัญหา อบจ.กาฬสินธุ์ ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ชัดเจน และถือว่าผู้รับเหมากล้าที่จะออกมาเปิดเผยความจริง ซึ่งใน อบจ.กาฬสินธุ์ การบริหารงานจะเป็นลักษณะเครือญาติ ตั้งแต่ตัวนายก.อบจ.ก็มีการตั้งลูกสาวตนเองเป็นเลขาฯ และถึงแม้จะออกมาบอกว่าตัวเองไม่มีอาชีพรับเหมา แต่ในการบริหารงานสิ่งสำคัญก่อนที่จะเริ่มทำงาน ตัว นายก.อบจ.เองก็จะต้องรู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว จึงไม่ควรที่จะปฏิเสธแต่ควรที่จะหาวิธีการแก้ไขให้ถูกต้องโปร่งใส เพื่อร่วมกันรักษางบประมาณแผ่นดินที่เป็นของประชาชน
ส่วนกรณีการออกมาเปิดเผยปัญหาการชัดหัวคิวกีฬาภายใน อบจ.กาฬสินธุ์ถึง 40:60 นั้นก็เป็นเรื่องจริง เพราะกระบวนการสร้างองค์กรเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ในฐานะที่ตนดูแล อปท.ที่มีสมาชิกในทุกจังหวัด โดยเฉพาะกาฬสินธุ์ ผู้บริหารหลายคนที่รู้ว่าจะมีการชักหัวคิว ส่วนใหญ่ก็จะปฏิเสธเพราะลำบากที่จะต้องจัดหาใบเสร็จรับเงิน เพื่อทำให้การชักหัวคิวกลายเป็นเรื่องที่ถูกต้อง หลาย อบต. รวมถึงเทศบาลตำบลที่ไม่ยอมเข้าไปสู่การสนับสนุนงบประมาณจากทาง อบจ.กาฬสินธุ์ ก็มีมาก เพราะเกรงว่าจะตกเป็นเครื่องมือของพวกทุจริตงบประมาณ
นายบำรุง กล่าวต่อไปว่า ในแนวทางแก้ไข ในส่วนกลาง จังหวัด ที่จะต้องมีการตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว แต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็จะมีสภาประชาชนที่ตั้งขึ้นเอาไว้ ก็ควรอย่างยิ่งที่จะต้องให้ประชาชนที่เป็นตัวแทนได้เข้าไปตรวจสอบ ในเรื่องนี้จึงต้องการให้ จังหวัดได้เอาจริงในการสอบสวน เพราะเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้นับเป็นเรื่องที่ดี และเป็นโอกาสในการป้องกันปัญหาการทุจริตและคอรัปชั่นภายใน อบจ.กาฬสินธุ์
“ในฐานะที่ผมเป็น ประธานชมรม อปท.เพื่อประชาชนภาคอีสาน ก็จะติดตามและร่วมสรุปผลการดำเนินการในการสอบสวนปัญหาดังกล่าวภายใน อบจ.ไปยังส่วนกลางอีกทางหนึ่งด้วย”
สำหรับปัญหาการยื่นซองประมูลงานใน อบจ.กาฬสินธุ์ ถึงแม้จะมีการรายงานข่าวอย่างต่อเนื่อง ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดสนใจที่จะเข้าไปตรวจสอบ โดยเฉพาะท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ดูแลท้องถิ่นโดยตรง โดยอ้างว่ายังไม่ได้รับเรื่องอะไรเลย ขณะที่ อบจ.กาฬสินธุ์ ก็ยังมีการเปิดยื่นซองประมูลงาน ในลักษณะที่ปกปิดอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายอีกด้วย
