กาฬสินธุ์ - กลุ่มผู้รับเหมากาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด วอนข้าราชการประจำร่วมเปิดโปงทุจริต “บิ๊ก อบจ.เมืองน้ำดำ” ขณะที่ตัวแทนกรรมการกีฬาแฉซ้ำยังมีเหลือบแก๊งชักหัวคิวกีฬา 60-40% ที่ส่งผลให้การพัฒนากีฬาจังหวัดไม่เดินหน้าเพราะเป็นการตั้งก๊วนหากินกับเยาวชนในจังหวัดเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานเพิ่มเติมถึงความความคืบหน้าภายหลังหลังจากมีการเปิดโปงปัญหาการทุจริตใน อบจ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะในการประมูลงานที่ผ่านมาโดยกลุ่มผู้รับเหมาใน จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด ที่มีความพยายามในการวิ่งปิดข่าวกับกลุ่มผู้รับเหมาโดยตัวแทนบิ๊ก อบจ.บางคนที่ส่งสมุนเข้าไปเพื่อเปิดโต๊ะเจรจาแต่ผู้รับเหมาปฏิเสธเพราะต้องการให้การประมูลงานเกิดความโปร่งใสและประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
นายประสิทธิ์ จันทวัติ ตัวแทนผู้รับเหมา จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ตนไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้นเพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่พฤติกรรมที่มีการปิดงานรับเหมาใน อบจ.มีจริงที่ต้องการให้ ปปช. สตง.เข้าตรวจสอบ อีกทั้งด้วยพฤติกรรมที่ไม่สมควรโดย ส.อบจ.บางคน แสดงอิทธิพลผลักอกผู้รับเหมา จ.ร้อยเอ็ด นั้น ได้แสดงให้เห็นถึงความรูปแบบผลประโยชน์ทับซ้อนชัดเจน
ตนก็ได้เคยเข้าไปสอบถามข้าราชการหลายคนที่เคยรู้จักกัน ก็ยอมรับว่าในยุคนางชะม้อย วรามิตร เป็นนายก อบจ.กาฬสินธุ์ มีความพยายามสร้างฐานอำนาจใหม่เกิดขึ้น ที่ในบางส่วนก็รับไม่ได้แต่ไม่กล้าที่จะออกมาเปิดเผย
“อยากเรียกร้องให้ข้าราชการได้ออกมาให้ข้อมูลถึงพฤติกรรมกลุ่มผู้บริหารว่าทีพฤติกรรมอย่างไรทั้งนี้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของเงินภาษีประชาชนร่วมกัน สำหรับการก้าวต่อไปหลังจากนี้ก็จะรอฟังผลการดำเนินการทั้งหมดว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร โดย อบจ.ก็จะต้องแจ้งประกาศย้อนหลังตั้งแต่ นางชะม้อยเข้ามารับตำแหน่งว่าได้ดำเนินโครงการอะไรไปแล้วบ้าง และได้ใช้งบประมาณแผ่นดินกาฬสินธุ์ไปแล้วเท่าไหร่”
แหล่งข่าวในสมาคมกีฬาจังหวัดกาฬสินธุ์ คนหนึ่งแจ้งว่า ปัญหาการทุจริตอีก 1 โครงการที่ผ่านมาและต้องการให้ มีการตรวจสอบก็คือ กิจกรรมระหว่างสมาคมกีฬากับ อบจ.กาฬสินธุ์ ในทุกโครงการ เพราะมีการผลักดันงบประมาณจำนวนมากไปจัดการแข่งขันกีฬาแต่กลับพบว่า มีการชักหัวคิว ถึง 60% โดยยกตัวอย่างในการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอล หากมีการจัดงบประมาณไป 100,000 บาท ก็จะต้องทอนคืนจำนวน 60,000 บาท จนทำให้ ประธานชมรมกีฬาในจังหวัดขยาด
เพราะจะต้องมีการทำตั๋วใบเสร็จให้มีการเบิกจ่ายถูกต้อง ในกรณีก็ต้องการให้ สตง. ป.ป.ช.เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย เพราะทุกวันนี้ คนสำคัญในสังคมที่เคยเข้ามาสนับสนุนการกีฬานับวันจะต้องถ่อยห่างออกไปเรื่อยๆ ก็เพราะมีปัญหาการชักหัวคิวและไม่มีความจริงใจในการพัฒนาด้านกีฬาซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากการสร้างเครื่องมือขึ้นมาทำกำไรกับเยาวชนภายในจังหวัดกาฬสินธุ์เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานเพิ่มเติมถึงความความคืบหน้าภายหลังหลังจากมีการเปิดโปงปัญหาการทุจริตใน อบจ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะในการประมูลงานที่ผ่านมาโดยกลุ่มผู้รับเหมาใน จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด ที่มีความพยายามในการวิ่งปิดข่าวกับกลุ่มผู้รับเหมาโดยตัวแทนบิ๊ก อบจ.บางคนที่ส่งสมุนเข้าไปเพื่อเปิดโต๊ะเจรจาแต่ผู้รับเหมาปฏิเสธเพราะต้องการให้การประมูลงานเกิดความโปร่งใสและประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
นายประสิทธิ์ จันทวัติ ตัวแทนผู้รับเหมา จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ตนไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้นเพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่พฤติกรรมที่มีการปิดงานรับเหมาใน อบจ.มีจริงที่ต้องการให้ ปปช. สตง.เข้าตรวจสอบ อีกทั้งด้วยพฤติกรรมที่ไม่สมควรโดย ส.อบจ.บางคน แสดงอิทธิพลผลักอกผู้รับเหมา จ.ร้อยเอ็ด นั้น ได้แสดงให้เห็นถึงความรูปแบบผลประโยชน์ทับซ้อนชัดเจน
ตนก็ได้เคยเข้าไปสอบถามข้าราชการหลายคนที่เคยรู้จักกัน ก็ยอมรับว่าในยุคนางชะม้อย วรามิตร เป็นนายก อบจ.กาฬสินธุ์ มีความพยายามสร้างฐานอำนาจใหม่เกิดขึ้น ที่ในบางส่วนก็รับไม่ได้แต่ไม่กล้าที่จะออกมาเปิดเผย
“อยากเรียกร้องให้ข้าราชการได้ออกมาให้ข้อมูลถึงพฤติกรรมกลุ่มผู้บริหารว่าทีพฤติกรรมอย่างไรทั้งนี้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของเงินภาษีประชาชนร่วมกัน สำหรับการก้าวต่อไปหลังจากนี้ก็จะรอฟังผลการดำเนินการทั้งหมดว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร โดย อบจ.ก็จะต้องแจ้งประกาศย้อนหลังตั้งแต่ นางชะม้อยเข้ามารับตำแหน่งว่าได้ดำเนินโครงการอะไรไปแล้วบ้าง และได้ใช้งบประมาณแผ่นดินกาฬสินธุ์ไปแล้วเท่าไหร่”
แหล่งข่าวในสมาคมกีฬาจังหวัดกาฬสินธุ์ คนหนึ่งแจ้งว่า ปัญหาการทุจริตอีก 1 โครงการที่ผ่านมาและต้องการให้ มีการตรวจสอบก็คือ กิจกรรมระหว่างสมาคมกีฬากับ อบจ.กาฬสินธุ์ ในทุกโครงการ เพราะมีการผลักดันงบประมาณจำนวนมากไปจัดการแข่งขันกีฬาแต่กลับพบว่า มีการชักหัวคิว ถึง 60% โดยยกตัวอย่างในการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอล หากมีการจัดงบประมาณไป 100,000 บาท ก็จะต้องทอนคืนจำนวน 60,000 บาท จนทำให้ ประธานชมรมกีฬาในจังหวัดขยาด
เพราะจะต้องมีการทำตั๋วใบเสร็จให้มีการเบิกจ่ายถูกต้อง ในกรณีก็ต้องการให้ สตง. ป.ป.ช.เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย เพราะทุกวันนี้ คนสำคัญในสังคมที่เคยเข้ามาสนับสนุนการกีฬานับวันจะต้องถ่อยห่างออกไปเรื่อยๆ ก็เพราะมีปัญหาการชักหัวคิวและไม่มีความจริงใจในการพัฒนาด้านกีฬาซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากการสร้างเครื่องมือขึ้นมาทำกำไรกับเยาวชนภายในจังหวัดกาฬสินธุ์เท่านั้น