กาฬสินธุ์ - “ไข่แม้ว” เปิดเกมปลุกม็อบชาวกาฬสินธุ์กว่า 300 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ พร้อมทั้งลงชื่อถอดถอนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง ระบุมีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ขู่เคลื่อนพลขับไล่ถึงกรุงเทพฯ
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (4 ส.ค.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีกลุ่มประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์กว่า 300 คน นำโดย นายสำราญ ศรีหาพล และ นายประเสริฐ ชินศรี เดินทางมาชุมนุมถือป้ายขับไล่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมทั้งเข้ายื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์
โดยมี นายพัณณ์เดชน์ ศรีจันทร์ ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นผู้รับหนังสือ และมี พล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นายคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย
ทั้งนี้ การชุมนุมได้มีการลงชื่อและจัดเวทีปราศรัยโจมตี ป.ป.ช.และ กกต.โดยระบุว่า ป.ป.ช.มีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ส่วน กกต.นั้นเป็นการแต่งตั้งโดยคณะปฏิวัติ เพื่อทำหน้าที่จัดการกับพรรคพลังประชาชน
นายสำราญ ศรีหาพล แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า วันนี้เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์เดินทางมายื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อขับไล่และถอดถอน ป.ป.ช.และ กกต.เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.2550 บัญญัติไว้ว่าองค์กรอิสระต้องมาจากกรรมการสรรหา และต้องได้รับการโปรดเกล้าฯจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงจะสามารถทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ได้
แต่ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันมีที่มาไม่ถูกต้อง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และที่สำคัญไม่ได้เข้าเฝ้าฯ และไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ส่วน กกต.ชุดปัจจุบันนั้นได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาทำหน้าที่โดยคณะ คปค.เพื่อที่จะจัดการกับพรรคพลังประชาชน
ดังนั้น ในนามตัวแทนประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงไม่ยอมรับองค์กรอิสระทั้ง ป.ป.ช.และ กกต.และขอเรียกร้องให้ลาออกไปเพื่อเปิดทางให้ผู้อื่นเข้ามาทำหน้าที่แทนตามที่กฎหมายกำหนดไว้
นายสำราญ กล่าวอีกว่า การชุมนุมวันนี้ยังได้มีการลงชื่อเพื่อที่จะถอดถอน ป.ป.ช.และ กกต.อีกด้วย และต่อไปจะมีการล่ารายชื่อให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม หาก ป.ป.ช.และ กกต.ยังไม่ลาออก ประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์จะมีการรวมตัวกันไม่ต่ำกว่า 2,000 คน เดินทางไปชุมนุมขับ ป.ป.ช.และ กกต.ที่กรุงเทพฯ อย่างแน่นอน
อนึ่ง ในวันเดียวกันมีการเคลื่อนไหวต่อต้าน ป.ป.ช.ที่จังหวัเชียงรายด้วย โดยเรื่องนี้ นายสมัคร เป็นผู้เริ่มเปิดประเด็นในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” วันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค.หลังจากที่ ป.ป.ช.รับคำร้องจากพันธมิตรฯ ในการพิจารณาเอา ครม.ทั้งคณะ กรณีเห็นชอบการลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาให้มีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยแล้วว่าขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังได้รับช่วงการดำเนินคดีทุจริตคอร์รัปชั่นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรมาดำเนินการต่อ โดยนายสมัครอ้างว่า ป.ป.ช.ชุดนี้ได้ปฏิบัติหน้าที่ทันที หลังจาก คปค.ลงนามแต่งตั้ง โดยไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ถือว่าผิดกฎหมาย ป.ป.ช. ซึ่งต่อมาทาง ป.ป.ช.ได้ชี้แจงว่า สำนักเลขาธิการ ครม.ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เคยทำหนังสือขอนำชื่อกรรมการ ป.ป.ช.ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว แต่ราชเลขาธิการได้แจ้งกลับมาว่า ไม่จำเป็นต้องผ่านการโปรดเกล้าฯ เพราะคำสั่งแต่งตั้งของ คปค.ที่มีสถานภาพเป็นรัฏฐาธิปัตย์หลังการยึดอำนาจถือว่ามีผลโดยสมบูรณ์แล้ว