xs
xsm
sm
md
lg

เรือบรรทุกสินค้าพุ่งชนเรือประมงไทยแตกอับปางกลางทะเลลูกเรือรอด 13 สูญหาย 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทัพเรือภาคที่ 1 ตำรวจน้ำสัตหีบและหมู่เรือประมงไทย ระดมช่วยเหลือลูกเรือประมงลอยคอกลางทะเล 14 คน หลังเรือสินค้าบรรทุกแป้งขนาดใหญ่พุ่งชนเรือประมงไทยแตกอับปางกลางทะเลท่ามกลางคลื่นลมแรง ตามเก็บขณะลอยคอ 13 ชีวิต สูญหาย 1 คน

เวลา 06.00 น.วันนี้ (31 ก.ค.) พลเรือโท ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และผู้อำนวยการศูนย์ประสานในการรักษาผลประโยชน์ของชาติในทะเล เขต 1 (ศรชล.เขต 1)ได้รับรายงานจาก พลเรือตรี ผจญ รามโกมุท รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ว่าได้รับการประสานจาก พันตำรวจโท อนุชิต หลักโลก หัวหน้าสถานีตำรวจน้ำ3 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำว่าได้รับแจ้งจากนายธีรชัย ประเสริฐวิทย์ อายุ 36 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 10 ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
 
เจ้าของเรือประมงประเภทอวนลากคู่ ชื่อ ชลไพบูลย์ 3 ความยาว 20 เมตร สีแดงคาดขาว ถูกเรือสินค้าขนาดใหญ่พุ่งชนกลางทะเลจนทำให้เรืออับปางจมทันที มีลูกเรือทั้งหมด 14 คน ต้องกระเด็นและโดดหนีความตายลงในทะเล สามารถช่วยชีวิตได้แล้ว 13 คน สูญหายไป 1 คน ไม่ทราบชะตากรรม

หลังได้รับรายงาน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้สั่งการให้ พลเรือตรี ชุมพล วงศ์เวคิน เสนาธิการ ทัพเรือภาคที่ 1 จัดเรือตรวจการณ์ หมายเลข 24 โดยการนำของ เรือเอก สกล สุขีสาร ผู้ควบคุมเรือ และชุดปฎิบัติการพิเศษ ทัพเรือภาคที่ 1 จำนวน 2 นาย คือ จ่าเอก ศราวุธ แพงอ่อน และจ่าเอก สมเพชร ญาณปัญญา นำอุปกรณ์ดำน้ำออกเดินทางไปจากอู่จอดเรือโอเชี่ยนมารีน่า ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี สมทบกับเรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำ หมายเลข 633 ท่ามกลางสายฝน น้ำเชี่ยวกราก คลื่นลมแรง เพื่อออกไปให้การช่วยเรือประมงที่โดนเรือสินค้าชน
 
เพื่อตรวจสอบโดยรอบของเรือพบมีแตกเป็นช่องกว้างประมาณ 1 เมตรด้านกราบขวา ค้นหาผู้สูญหาย และได้ใช้เชือกลงผูกเรือเพื่อลากเข้าชายฝั่ง บริเวณด้านทิศใต้เกาะริ้น พิกัด แลตติจูด 12 องศา 45 ลิปดาเหนือ ลองติจูด 100 องศา 33 ลิปดา ตะวันออก ห่างจากชายหาดเมืองพัทยาประมาณ 25 ไมล์ทะเล ใช้เวลาในการเดินทางจากชายฝั่งประมาณ 3 ชั่วโมง

จากการสอบสวน นายวิศิษย์ ประเสริฐวิทย์ อายุ 30 ปี ไต๋เรือ ให้การว่า เมื่อเวลา ประมาณ 04.30 น. ของวันที่ 31 กรกฎาคม 2551 ระหว่างจอดเรือทอด สมอเพื่อพักผ่อนอยู่ในพิกัดดังกล่าวมีเรือสินค้า ขนาดใหญ่ ชื่อ MALLAYAN EMPRES บรรทุกแป้งสัญชาติอินโดนีเซีย เรือขนาดใหญ่ 30 วา 60 เมตร มี นาย MAHDAN ชาวอินโดนีเซีย เป็นกัปตันเรือ บรรทุกแป้งปันเดินทางมาจากท่าเรือกรุงเทพมหานคร เพื่อจะมาเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบับ พุ่งเข้าชนอย่างแรง ทำให้เรือพลิกคว่ำ และจมทันที ลูกเรือที่นอนพักผ่อนตกใจ โดดหนีตายออกจากตัวเรือ
 
บางคนครองสติได้นำเครื่องช่วยชีวิต เช่น ถังน้ำ โฟม ไปด้วยทำให้เกราะกันรอดชีวิต 13 คน สูญหายไป 1 คน จนมีเรือประมง ชื่อ ป. เจริญชัย เรือเจริญสิน เรือ ต.ดำรงค์ เรือชลไพบูลย์ 2 และ เรือชลไพบูลย์ 19 มากันเก็บลูกเรือที่ลอยคออยู่ประมาณ 30 นาที สุดท้ายสามารถรวบรวมลูกเรือได้ เหลือเพียง นายวันชัย (ไม่ทราบนามสกุล) ชาวพม่าได้สูญหายไปโดยไม่ทราบชะตากรรม ส่วนค่าเสียหายประเมินเบื้องต้นประมาณ 7 ล้าน ถึง 10 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น