เลย - สภาทนายความเมืองเลยย้ำกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น ตำรวจ อัยการ เมืองอุดร ต้องสางคดี “อุทัย-ขวัญชัย” ตรงไปตรงมา อย่างน้อยต้องตั้งข้อหา “พยายามฆ่า” อย่าทำสำนวนปัญญาอ่อนช่วยกันเอง พร้อมจี้ผู้ว่า-ผู้การต้องรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่มีเหตุการณ์ ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีนั้น และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งข้อหา นายอุทัย แสนแก้ว และนายขวัญชัย ไพรพนา มีความผิดตามคดีอาญาในมาตรา 210 และ 215 โดยข้อหาแรก คือ เป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่ในการสั่ง มีการมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215
และข้อหาที่สอง เป็นผู้ประกาศให้เข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และบุคคลหรือบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมในการนั้น หรือได้รับอันตรายสาหัส โดยการกระทำในการชลมลต่อสู้นั้น อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 299 และจากนั้นทางนายขวัญชัย และนายอุทัย ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องให้หลักทรัพย์ประกันตัวแต่อย่างใด
ล่าสุด นายประนมยง ไชยปะ ประธานสภาทนายความจังหวัดเลย แสดงความเห็นว่า กรณีที่พนักงานสวบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้แจ้งขอหากับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนแล้ว และต้องทำสำนวน ส่งทางอัยการ ไม่ว่าจะชงแบบหวาน หรือชงขมไปนั้น ก็ขึ้นอยู่กับตำรวจ ซึ่งเปรียบเสมือนต้นทางของกระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม ในความเห็นของตนและเพื่อนทนายต่างมองว่าความผิดถึงขนาดใช้ขวาน ฟันหัวฝ่ายพันธมิตรฯ ต้องเย็บหลาย 10 เข็ม ข้อหาอย่างน้อยไม่น่าจะต่ำกว่าคดีพยายามฆ่า ไม่ใช่แค่ทำร้ายร่างกายธรรมดาหรือสาหัส
“แต่อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้พวกเราก็ยังมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองอุดรจะดำเนินคดีไปตามเนื้อผ้า คงไม่ช่วยเหลือกันเองตามที่เป็นข่าวว่านายขวัญชัยกับผู้บังคับการอุดรธานีสนิทสนมกันเป็นพิเศษ”
อีกทางออกหนึ่งเพื่อหากทางผู้เสียหายหรือทางกลุ่มพันธมิตรหรือผู้ที่ถูกทำร้าย ผู้ที่ถูกฟัน จะดำเนินคดีเองก็ได้ โดยไปหาทนายความฟ้องดำเนินคดี ซึ่งไม่ต้องผ่านกระบวนของตำรวจหากไม่เชื่อใจกระบวนการตำรวจ อัยการ เสนอเรื่องขึ้นสู่ศาลโดยตรง ผู้เสียหายก็สามารถไปสู่ในชั้นศาลเองได้ และเท่าที่ทราบทางสภาทนายความกรุงเทพ ก็พร้อมที่จะดูแลคดีนี้ให้ และในส่วนของภูมิภาค จังหวัดเลย ซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียงติดกัน หากมีโอกาสก็จะพร้อมที่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปตามตัวบทกฎหมาย
นายประนมยง กล่าวอีกว่า ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ผู้การจังหวัดอุดรธานี ต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องกล้าที่จะพูดความจริง ตอบปัญหาคาใจให้กับประชาชนทั่วประเทศหรือทั่วโลกให้ได้ว่า ทำไมในวันเกิดเหตุถึงเพิกเฉยไม่จัดการควบคุมดูแลไม่ให้กลุ่มคนรักอุดรเข้าไปรุกรุมทำร้ายประชาชนฝ่ายพันธมิตรฯ ซึ่งพวกเขาชุมนุมกันอย่างสันติ
คลิกชมคลิปวิดีโอลิ่วล้อ"สัตว์นรก"สุดเถื่อน ไล่ขย้ำทำร้ายพันธมิตรอุดรฯ