ผู้จัดการออนไลน์ –กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงและกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บ้านกรูด บุกยื่นหนังสือถึงนายอำเภอบางสะพาน ค้าน สหวิริยา ขอเช่าที่ดินสาธารณะขึ้นโรงถลุงเหล็ก
วันนี้ (29 ก.ค.) เวลา 11.00 น.ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงและกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด จำนวนกว่า 400 คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายอำเภอบางสะพาน เพื่อคัดค้านการเช่าที่สาธารณะของ บริษัท สหวิริยา ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.แม่รำพึง จำนวน 1 ไร่ 2 งาน 92 ตารางวา เพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการโรงถลุงเหล็ก
นายวิฑูรย์ บัวโรย แกนนำกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กล่าวว่า การที่ชาวบ้านเข้ามายื่นหนังสือต่อนายอำเภอในวันนี้ เนื่องจากว่า ตอนนี้มีบริษัทเอกชน ได้ขอเช่าใช้ทางสาธารณะหมู่ 1 บ้านดอนสำราญ ที่เป็นทางเชื่อมกับหมู่ 7 บ้านนาผักขวง เพื่อไปใช้ในกิจการของบริษัทเอกชน โดยเราขอยื่นยันคัดค้านการเช่าใช้ทางสาธารณะดังกล่าว ทั้งจะเพิกถอนสภาพหรือไม่เพิกถอนสภาพทางสาธารณะ รวมทั้งคัดค้านแลกเปลี่ยน และการเปลี่ยนแนวเส้นทางสาธารณะ ไปจากเดิม เพราะเราเป็นชาวบ้านที่เคยใช้ ยังคงใช้ และมีเจตนาที่จะใช้ประโยชน์ในเส้นทางดังกล่าวในแนวเส้นทางเดิมตลอดไป
เส้นทางดังกล่าวมีความสำคัญต่อการสัญจรเป็นทางลัดไปมาระหว่างหมู่บ้าน ขนพืชผลการเกษตรจากสวน จากไร่นา ทั้งยังใช้เป็นทางนำสัตว์เลี้ยงข้ามหมู่บ้าน หรือย้ายไปหาแหล่งอาหาร เพราะถนนลาดยางของกรมทางหลวงชนบทไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้ายฝูงสัตว์เลี้ยง เพราะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ และเป็นที่น่าสังเกตว่า ในผังโครงการก่อสร้างโรงถลุงเหล็ก เส้นทางดังกล่าวผ่าใจกลางกิจการ โรงงานต่างๆ มากมาย
ดังนั้น ทางสาธารณะดังกล่าวกำลังจะถูกเครือสหวิริยาใช้ไป เพื่อกิจการโรงถลุง นั่นหมายความว่า นี่คือ การเอาทางสาธารณะไปเพื่อแลกเปลี่ยน และหรือเปลี่ยนแนว เพื่อที่จะเอื้อประโยชน์ในกิจการส่วนตัว เพราะหากเครือสหวิริยาหรือเอกชนรายหนึ่งรายใดจะใช้ทางสาธารณะเพื่อสัญจรตามปกติ ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเช่าใช้
นอกจากนี้ อย่ามาอ้างว่า การแลกเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแนวเส้นทาง ชาวบ้านก็สามารถสัญจรได้ เพราะเราในฐานะผู้ใช้ประโยชน์ทางสาธารณะ ไม่ต้องการให้แลกเปลี่ยน และหรือเปลี่ยนแนว เราต้องการใช้เส้นทางสาธารณะในแนวเส้นทางเดิม การที่เอกชนรายหนึ่งรายใดจะมีความเห็นแก่ตัว คิดแต่ผลประโยชน์ของตัวเองโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของสาธารณะ ข้าราชการที่มีสติ สำนึกถึงประโยชน์ต่อส่วนรวมก็ไม่ควรสนับสนุนการเช่าใช้ทาง แลกเปลี่ยนและหรือเปลี่ยนเส้นทางสาธารณะไปเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนเพียงบางราย เพราะไม่ถูกต้องและไม่สมควรทำ
“เราขอให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ช่วยสั่งสอนผู้ยื่นเช่าใช้ทางสาธารณะ ได้รู้จักแก่นแท้ของกิจการ ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ให้เขาเข้าใจด้วยว่าการมีความรับผิดชอบต่อสังคมไม่ได้หมายความว่าจ้องจะเช่าเอาของหลวงของสาธารณะมาแสวงหากำไร เพื่อประโยชน์แก่ตัวเอง”
ภายหลังจากที่ชาวบ้านยื่นหนังสือที่นายอำเภอแม่รำพึงแล้ว ขบวนชาวบ้านทั้งหมดได้ไปที่สถานีตำรวจภูธรบางสะพาน เพื่อยื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางสะพาน เพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีความที่ชาวบ้านได้เข้าแจ้งความต่อการคุกคามของกลุ่มทุนในพื้นที่ ซึ่งมีมากว่า 60 คดี ทั้งยังขอให้ถอดถอนคณะกรรมการตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางสะพานภาคประชาชนด้วย เนื่องจากว่าที่ผ่าน คณะกรรมการชุดนี้มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท สหวิริยาอย่างชัดเจน เพราะมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทมาเป็นกรรมการด้วย และชาวบ้านขอให้ทางผู้กำกับฯทำหนังสือยืนยันต่อชาวบ้านด้วยว่า นายตำรวจทุกระดับชั้นไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับโครงการโรงถลุงเหล็กแต่อย่างใด
วันนี้ (29 ก.ค.) เวลา 11.00 น.ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงและกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด จำนวนกว่า 400 คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายอำเภอบางสะพาน เพื่อคัดค้านการเช่าที่สาธารณะของ บริษัท สหวิริยา ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.แม่รำพึง จำนวน 1 ไร่ 2 งาน 92 ตารางวา เพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการโรงถลุงเหล็ก
นายวิฑูรย์ บัวโรย แกนนำกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กล่าวว่า การที่ชาวบ้านเข้ามายื่นหนังสือต่อนายอำเภอในวันนี้ เนื่องจากว่า ตอนนี้มีบริษัทเอกชน ได้ขอเช่าใช้ทางสาธารณะหมู่ 1 บ้านดอนสำราญ ที่เป็นทางเชื่อมกับหมู่ 7 บ้านนาผักขวง เพื่อไปใช้ในกิจการของบริษัทเอกชน โดยเราขอยื่นยันคัดค้านการเช่าใช้ทางสาธารณะดังกล่าว ทั้งจะเพิกถอนสภาพหรือไม่เพิกถอนสภาพทางสาธารณะ รวมทั้งคัดค้านแลกเปลี่ยน และการเปลี่ยนแนวเส้นทางสาธารณะ ไปจากเดิม เพราะเราเป็นชาวบ้านที่เคยใช้ ยังคงใช้ และมีเจตนาที่จะใช้ประโยชน์ในเส้นทางดังกล่าวในแนวเส้นทางเดิมตลอดไป
เส้นทางดังกล่าวมีความสำคัญต่อการสัญจรเป็นทางลัดไปมาระหว่างหมู่บ้าน ขนพืชผลการเกษตรจากสวน จากไร่นา ทั้งยังใช้เป็นทางนำสัตว์เลี้ยงข้ามหมู่บ้าน หรือย้ายไปหาแหล่งอาหาร เพราะถนนลาดยางของกรมทางหลวงชนบทไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้ายฝูงสัตว์เลี้ยง เพราะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ และเป็นที่น่าสังเกตว่า ในผังโครงการก่อสร้างโรงถลุงเหล็ก เส้นทางดังกล่าวผ่าใจกลางกิจการ โรงงานต่างๆ มากมาย
ดังนั้น ทางสาธารณะดังกล่าวกำลังจะถูกเครือสหวิริยาใช้ไป เพื่อกิจการโรงถลุง นั่นหมายความว่า นี่คือ การเอาทางสาธารณะไปเพื่อแลกเปลี่ยน และหรือเปลี่ยนแนว เพื่อที่จะเอื้อประโยชน์ในกิจการส่วนตัว เพราะหากเครือสหวิริยาหรือเอกชนรายหนึ่งรายใดจะใช้ทางสาธารณะเพื่อสัญจรตามปกติ ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเช่าใช้
นอกจากนี้ อย่ามาอ้างว่า การแลกเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแนวเส้นทาง ชาวบ้านก็สามารถสัญจรได้ เพราะเราในฐานะผู้ใช้ประโยชน์ทางสาธารณะ ไม่ต้องการให้แลกเปลี่ยน และหรือเปลี่ยนแนว เราต้องการใช้เส้นทางสาธารณะในแนวเส้นทางเดิม การที่เอกชนรายหนึ่งรายใดจะมีความเห็นแก่ตัว คิดแต่ผลประโยชน์ของตัวเองโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของสาธารณะ ข้าราชการที่มีสติ สำนึกถึงประโยชน์ต่อส่วนรวมก็ไม่ควรสนับสนุนการเช่าใช้ทาง แลกเปลี่ยนและหรือเปลี่ยนเส้นทางสาธารณะไปเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนเพียงบางราย เพราะไม่ถูกต้องและไม่สมควรทำ
“เราขอให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ช่วยสั่งสอนผู้ยื่นเช่าใช้ทางสาธารณะ ได้รู้จักแก่นแท้ของกิจการ ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ให้เขาเข้าใจด้วยว่าการมีความรับผิดชอบต่อสังคมไม่ได้หมายความว่าจ้องจะเช่าเอาของหลวงของสาธารณะมาแสวงหากำไร เพื่อประโยชน์แก่ตัวเอง”
ภายหลังจากที่ชาวบ้านยื่นหนังสือที่นายอำเภอแม่รำพึงแล้ว ขบวนชาวบ้านทั้งหมดได้ไปที่สถานีตำรวจภูธรบางสะพาน เพื่อยื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางสะพาน เพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีความที่ชาวบ้านได้เข้าแจ้งความต่อการคุกคามของกลุ่มทุนในพื้นที่ ซึ่งมีมากว่า 60 คดี ทั้งยังขอให้ถอดถอนคณะกรรมการตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางสะพานภาคประชาชนด้วย เนื่องจากว่าที่ผ่าน คณะกรรมการชุดนี้มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท สหวิริยาอย่างชัดเจน เพราะมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทมาเป็นกรรมการด้วย และชาวบ้านขอให้ทางผู้กำกับฯทำหนังสือยืนยันต่อชาวบ้านด้วยว่า นายตำรวจทุกระดับชั้นไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับโครงการโรงถลุงเหล็กแต่อย่างใด