ศูนย์ข่าวศรีราชา –ททท. ระยอง- จันทบุรี ระบุภาพรวมรายได้ทางการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออก ครึ่งแรกปี 51 เติบโตถึง 12% จากปัจจัยบวกด้านราคาน้ำมัน ที่ทำให้นักท่องเที่ยวในกรุงเทพฯและปริมณฑล หันมาหาแหล่งท่องเที่ยวที่มีระยะทางใกล้ และค่าใช้จ่ายน้อย แทนการเดินทางท่องเที่ยวระยะไกลเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ขณะที่สภาพภูมิประเทศที่มีความปลอดภัยจากอุบัติภัยทางธรรมชาติ ยังเป็นสิ่งจูงใจนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติให้เดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่แห่งนี้
นายชาญชัย ดวงจิต ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลาง เขต 4(ระยอง- จันทบุรี) เผยถึงภาพรวมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกช่วงครึ่งแรกปี 2551 พบว่ามีอัตราเติบโตทางรายได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง12% โดยเฉพาะจังหวัดระยองและจันทบุรี พบอัตราเติบโตทางการท่องเที่ยวและรายได้สูงถึง 23%
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภาวะท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออก เติบโตสวนทางเศรษฐกิจที่ประชาชนส่วนใหญ่ชะลอการใช้จ่ายจากภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น มาจากผลดีของราคาน้ำมันที่ปรับราคาสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนหันหาพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯและจังหวัดปริมณฑล เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม แม้ประชาชนจะประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่จากการเก็บสถิติของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดระยองและจันทบุรี ทั้งในช่วงวันหยุดยาวและปิดภาคเรียนที่ผ่านมาพบว่า การใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวต่อหัวต่อคนของนักท่องเที่ยวยังอยู่ในภาวะปกติ และยังไม่ลดค่าใช้จ่ายในการเข้าพักและรับประทานอาหารแต่อย่างใด
“นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางเข้ามายังแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยมากเป็นกลุ่มครอบครัว ที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวในรัศมีไม่ไกลกว่า 300 กิโลเมตรจากภูมิลำเนา ซึ่งจุดขายสำคัญของแหล่งท่องเที่ยวในภาคตะวันออกโดยเฉพาะจังหวัดระยองและจันทบุรี คือราคาค่าที่พักที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลอย่างหัวหิน หรือภูเก็ต เช่นเดียวกับราคาค่าอาหารและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ยังถูกมาก จึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยหันเข้าพื้นที่แห่งนี้เพิ่มมากขึ้น”
ปัจจัยอีกประการคือ สภาพภูมิประเทศของทะเลอ่าวไทยที่มีความปลอดภัยสูงจากพิบัติภัยทางธรรมชาติ นอกจากนั้นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออกสะดวกมากขึ้น มาจากการก่อสร้างถนนสายมอเตอร์เวย์ ที่พัฒนาในส่วนเพิ่มเติมจนแล้วเสร็จ ส่งผลต่อการใช้เวลาเดินทางน้อยลงกว่าที่เคยเป็น ประกอบกับการพัฒนาสินค้าโอทอป ในพื้นที่ต่างๆ จนเป็นที่ยอมรับยังสามารถดูดเงินในกระเป๋านักท่องเที่ยวได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลไม้แปรรูป หรือแม้แต่การผลิตทุเรียนกรอบ ขนุนทอดจนเป็นที่รู้จักในวงกว้างและสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในช่วงหมดฤดูผลไม้อีกด้วย