xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรขอนแก่นแถลงการณ์ประณามม็อบถ่อยอุดรฯ หวั่นสังคมเกิดกลียุคลั่นต้องเปลี่ยนแปลงสู่การเมืองใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แกนนำพันธมิตรขอนแก่น ออกแถลงการณ์ประณามม็อบชมรมคนรักอุดร ที่ทำร้ายประชาชนอย่างป่าเถื่อน และเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัด/ตำรวจ/เคารพ ปฏิบัติตามกฎหมายและคุ้มครองประชาชนอย่างยุติธรรม
ศูนย์ข่าวขอนแก่น- พันธมิตรขอนแก่น แถลงการณ์ประณามม็อบถ่อย “ชมรมคนรักอุดร” ทำร้ายประชาชนป่าเถื่อน ร้องตำรวจ/ทหาร/ผู้ว่าฯ รักษากฎหมายเคร่งครัด คุ้มครองประชาชนอย่างยุติธรรม และเร่งสืบสวนข้อเท็จจริงลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เชื่อเหตุการณ์ทำร้ายประชาชนอุดรธานี นักการเมืองชักใยเบื้องหลัก และอาจทำสังคมสู่กลียุค เหตุประชาชนหมดทางพึ่งอำนาจรัฐ จนต้องออกมาแก้แค้นเอง ลั่นถึงเวลาเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองสู่ยุคการเมืองใหม่

วันนี้ (26ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น นำโดยนาย สมภพ บุญนาค , นายพาณิชย์ เตียสวัสดิ์ , นายทรงศักดิ์ ลีฬหานาจ , และนายฉัตรชัย อึงสถิตถาวร ร่วมแถลงการณ์ ฉบับที่ 3/2551 เรื่อง “หยุดวิกฤติความรุนแรง รัฐบาลต้องเคารพสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยของประชาชน” และประณามการใช้ความรุนแรงทำร้ายพันธมิตรอุดรธานี ณ ศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ/เอเอสทีวี ถ.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

นายพานิชย์ เตียสวัสดิ์ กล่าวว่า ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมตามรับธรรมนูญอย่างสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ วิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานรัฐบาลที่ผิดพลาด หลายกรณี อาทิ การทุจริตคอรัปชั่น การโกงการเลือกตั้ง การกระทำที่ผิดกฎหมายจนอาจสูญเสียอธิปไตยของชาติ การพยายามแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อให้พรรคพวกตนเองพ้นผิด ตลอดจนการปล่อยให้เกิดกระบวนการจาบจ้วงละเมิดต่อสถาบันดังที่ปรากฏเป็นที่ทราบต่อสาธารณะอยู่แล้วนั้น

ประชาชนทั่วประเทศ จึงพร้อมใจกันออกมาตรวจสอบคัดค้านการกระทำของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ด้วยสิทธิหน้าที่ของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญในการปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ขณะเดียวกัน กลับปรากฏว่ามีการจัดตั้งกลุ่มอันธพาลการเมือง มาขับไล่ ทำร้ายร่างกาย ด้วยการรุมทุบตีและถึงขั้นพยายามฆ่าประชาชนที่มาร่วมชุมนุม ตลอดจนได้ทำลายทรัพย์สินที่ใช้จัดเวทีด้วยอาวุธหลายชนิด อาทิ มีด ขวาน ค้อน ไม้ ท่อนเหล็ก และก้อนหิน โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและข้าราชการฝ่ายปกครองวางเฉย เสมือนสมรู้ร่วมคิด รู้เห็นเป็นใจปล่อยให้อันธพาลของรัฐบาลทำร้ายร่างกายประชาชน อย่างโหดเหี้ยมซึ่งหน้า ที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดด้วยรูปแบบที่คล้ายกัน ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ภาคเหนือและภาคอีสานที่เป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคพลังประชาชน

การใช้ความรุนแรงดังกล่าว โดยเฉพาะในพื้นที่ ขอนแก่น มหาสารคาม ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และล่าสุดที่ จ.อุดรธานี ของกลุ่มชมรมคนรักอุดรที่กระทำต่อกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 คน และ 4 คน มีอาการสาหัส ซึ่งเป็นภาพข่าวแพร่กระจายไปทั่วโลก ถือเป็นการกระทำที่เหี้ยมโหด ทารุณ ป่าเถื่อน ที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ และหากปรากฏว่า เจ้าหน้าที่รัฐได้มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นใจให้การสนับสนุนด้วยแล้ว ก็ยิ่งมีอาจอภัยให้ได้โดยเด็ดขาด

ดังนั้นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดขอนแก่น เห็นความแสดงจุดยืนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้

1. ขอแสดงความเสียใจกับพี่น้องพันธมิตร อุดรธานี,มหาสารคาม และบุรีรัมย์ ที่ได้รับบาดเจ็บ จากการกระทำของเหล่าอันธพาลการเมืองดังกล่าว และขอให้กำลังใจแก่พันธมิตรทุกจังหวัด ทั่วประเทศที่มีความกล้าหาญ ยืนหยัด มีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ในการเผยแพร่ ความรู้และข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับรู้อย่างไม่หวั่นไหว

2. ขอประณามผู้สนับสนุนและผู้ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการใช้อาวุธเข้าคุกคามทำร้ายพันธมิตรประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพ ตามกฎหมาย อย่างบ้าคลั่ง ขาดสติอันเป็นการละเมิด สิทธิมนุษยชน อย่างร้ายแรงและป่าเถื่อนอย่างยิ่ง

3. ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร และส่วนราชการ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีหน้าที่ดูแล ความสงบเรียบร้อยและเป็นผู้รักษากฎหมาย ได้เคร่งครัดในการใช้กฎหมายปกครอง บ้านเมืองด้วยความเข้มแข็งเด็ดขาดและคุ้มครองประชาชนที่ใช้สิทธิ ตามกฎหมายด้วยความยุติธรรม โดยไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด

4.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการสอบสวนสืบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และจะต้องดำเนินการให้มีการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ละเลย หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จนเป็นเหตุให้เกิดความรุนแรงขึ้น เพื่อสร้างบรรทัดฐานในการปฏิบัติหน้าที่และเพื่อป้องปรามไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

และ 5.ขอเรียกร้องให้กลุ่มการเมือง รู้จักการใช้สันติวิธีในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และเคารพในสิทธิมนุษยชนของทุกฝ่าย เพราะสถานการณ์อันเปราะบางของสังคมไทยในขณะนี้ อาจนำไปสู่การเผชิญหน้าของประชาชนด้วยความรุนแรง และกำลังนำสถานการณ์ไปสู่ความรุนแรงจนยากแก่การควบคุม ซึ่งจะเป็นผลร้ายต่อสังคมไทย และไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยของประเทศแต่อย่างใด

ด้านนายสมภพ บุนนาค กล่าวว่า การใช้ความรุนแรงในเหตุการณ์ทำร้ายพันธมิตรอุดรธานี เห็นได้ชัดเจนว่า ชมรมคนรักอุดร กระทำการโดยไม่คำนึงถึงกฎหมายบ้านเมือง แกนนำม็อบได้ประกาศบนรถขยายเสียง ปลุกระดมม็อบอย่างชัดเจนว่า หากใครทำร้ายกลุ่มพันธมิตรบาดเจ็บจะได้รางวัล 500 บาท หากถึงขั้นเสียชีวิตจะได้รางวัลถึง 10,000 บาท ถือเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก การกระทำเช่นนี้ย่อมมีบุคคลที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง เพราะหลังจากทำร้ายประชาชนแล้ว ได้โทรศัพท์รายงาน รัฐมนตรีว่าทำสำเร็จแล้ว และขอให้ทำต่อไป

หากเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ไม่สามารถยับยั้งความรุนแรงอันป่าเถื่อน ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองแล้ว จะทำให้สังคมไทยเข้าสู่กลียุค ผู้ที่ถูกกกระทำหมดหวังพึ่งพากลไกอำนาจรัฐเข้ามาจัดการปัญหา จะเกิดการแก้แค้นของฝ่ายที่ถูกกระทำเกิดขึ้น

เหตุการณ์ทำร้ายพันธมิตรอุดรธานี ไม่ใช่การทะเลาะวิวาทกันระหว่างม็อบกับม็อบ ที่สื่อได้นำเสนอสู่สังคมในช่วงที่ผ่านมา แต่ข้อเท็จจริงฝ่ายพันธมิตรถูกทำร้ายฝ่ายเดียว เพราะขณะนั้นอยู่ในช่วงเตรียมการจัดตั้งเวที มีเพียงเจ้าหน้าที่และการ์ด ไม่มีอาวุธ ถูกชมรมคนรักอุดรกรูเข้ามาทำร้ายถึงที่ จนเกิดการบาดเจ็บจำนวนมาก และรื้อเวที เผาทำลายอุปกรณ์ เสื้อผ้า เครื่องเสียง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 2 ล้านบาท

“บ้านเมืองเราถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่การเมืองใหม่เสียที หากยังมีนักการเมืองที่เข้ามาสนับสนุนประชาชนให้มีการปะทะกัน ชักนำสังคมให้เกิดความแตกแยก โดยเห็นได้ชัดจากในหลายจังหวัดของภาคอีสาน ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ควรที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่” นายสมภพกล่าวในที่สุด
สมภพ บุนนาค หวั่นเหตุการณ์ทำร้ายประชาชนอุดรธานี จะทำให้สังคมไทยเข้าสู่กลียุค ชี้ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงสู่การเมืองใหม่
เหตุการณ์ม็อบชมรมคนรักอุดร ทำร้ายประชาชน หลายฝ่ายวิตกว่าอาจทำให้สังคมไทยตกต่ำจนเข้าสู่กลียุค
กำลังโหลดความคิดเห็น