หนองคาย- ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ และชาวบ้านสุดทนพฤติกรรมผู้กำกับฯ ล่ารายชื่อพร้อมส่งหนังสือเรียกร้องผู้บังคับบัญชาให้ย้ายออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง เผย 8 เดือนตั้งแต่ผู้กำกับย้ายมาอยู่สร้างแต่ปัญหารอบด้าน ทั้งเรื่องงาน และขัดแย้งมวลชน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (22 ก.ค.) ที่หน้าเสาธง สภ.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด สภ.ท่าบ่อ และชาวบ้านจำนวนหนึ่งรวมตัวชุมนุมกันเรียกร้องให้ พ.ต.อ.วสันต์ ศรีวัชคุณประภา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ ย้ายออกนอกพื้นที่ โดย พ.ต.อ.วสันต์ พอทราบว่าลูกน้องของตนจะชุมนุมขับไล่ก็พยายามพูดจาไกล่เกลี่ยกับ พ.ต.ท.ฐนกร ถาวะโร พนักงานสอบสวน (สบ.3) ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อไม่ให้เรื่องบานปลาย
แต่ปรากฏว่าไม่สามารถเจรจากันได้ หลังจากนั้นได้มีตัวแทนตำรวจหลายคนทยอยพูดผ่านเครื่องขยายเสียงกล่าวถึงปัญหาความเดือดร้อนที่ตำรวจได้รับจากพฤติกรรมของ พ.ต.อ.วสันต์ ซึ่ง พ.ต.อ.วสันต์ ได้แต่ยืนฟัง ท่ามกลางความสนใจจากประชาชนชาวท่าบ่อจำนวนหลายร้อยคน
พ.ต.ท.ฐนกร ถาวะโร พนักงานสอบสวน (สบ.3) กล่าวว่า นับตั้งแต่ พ.ต.อ.วสันต์ ศรีวัชคุณประภา ย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.ท่าบ่อ เมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา ได้สร้างปัญหาความเดือดร้อนหลายเรื่องจนทำให้ตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาแต่ละแผนกงานทนไม่ได้ และเล่าสู่กันฟัง จนเกิดเป็นการรวมตัวยื่นหนังสือถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา
ในหนังสือร้องเรียนได้ระบุถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า พ.ต.อ.วสันต์ ไม่มีภาวะผู้นำ ใช้วาจากดขี่ข่มเหงผู้ใต้บังคับบัญชา มักจะดุด่าลูกน้องทั้งในโรงพักและตามที่ต่างๆ ที่พบ เป็นที่อับอายแก่ชาวบ้านทั่วไป, เบียดบังเงินกองทุนอุดหนุนสืบสวนสอบสวนซึ่งเป็นเงินของทางราชการไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตน เนื่องจากก่อนหน้านี้จะมีงบประมาณส่วนหนึ่งจัดสรรเป็นกองทุนให้กับงานสืบสวนสอบสวนเดือนละ 1 แสนบาท เพื่อให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้
แต่ พ.ต.อ.วสันต์ ได้ทำเอกสารหลักฐานการเบิกจ่ายเงินทุกอย่างครบถ้วนถูกต้อง แต่ไม่เคยนำงบประมาณจำนวนที่ได้ให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน มีจ่ายให้เพียงครั้งเดียวจำนวน 27,000 บาทเท่านั้น ทำให้การทำงานสะดุดซึ่งงานสืบสวนสอบสวนจำเป็นต้องมีงบประมาณสนับสนุนทั้งการวางสายข่าว การล่อซื้อจับกุม เป็นต้น
นอกจากนี้ยังแอบอ้างชื่อคณะกรรมการ กต.ตร., ข้าราชการตำรวจ สภ.ท่าบ่อ จัดให้มีการแสดงกายกรรมเต๋อโจว เบื้องต้นอ้างว่าจะนำรายได้มาปรับปรุงสนามบาสเกตบอลของสถานี แต่หลังจากเสร็จงานแล้วกลับรายได้ไปเป็นประโยชน์ส่วนตน, ผู้กำกับมักจะบีบบังคับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหาเงินนอกระบบมาส่งมอบให้กับตนเองเป็นประจำทุกเดือนและยังปล่อยให้มีการเล่นพนัน โดยเฉพาะโต๊ะบอลเกลื่อนเมืองท่าบ่อ จนเด็กนักเรียนติดการพนัน พ่อแม่ผู้ปกครองมาร้องเรียนตำรวจ
แต่ ผกก.กลับเพิกเฉยไม่สนใจปราบปราม และยังทำลายความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนและหน่วยงานข้างเคียง ซึ่งฝั่งตรงข้ามกับ สภ.ท่าบ่อ เป็นที่ตั้งของโรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ ทางโรงเรียนจะมีการเปิดเพลงมาร์ชโรงเรียนและทำกิจกรรมโรงเรียนเป็นปกติ
รวมถึงการขอใช้สถานที่ของประชาชนในการจัดงานแต่งงาน การเต้นแอโรบิกในโรงเรียน แต่ พ.ต.อ.วสันต์ กลับให้ทางโรงเรียนและผู้จัดงานนั้นๆ เปิดเครื่องเสียงเบาๆ ไม่ให้รบกวน หากเจ้าของงานแต่งงานไม่ทำตามก็ข่มขู่ว่าจะจับกุมเพราะไม่มีใบอนุญาตใช้เสียง
พ.ต.ท.ฐนกร กล่าวอีกว่า หลังจากยื่นหนังสือร้องเรียนไปแล้วก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น จนถึงวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนทนไม่ไหวกับพฤติกรรมดังกล่าวและไม่ต้องการร่วมงานกับผู้กำกับฯ คนนี้ได้อีก อยากให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาย้าย พ.ต.อ.วสันต์ ออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง หากยังไม่มีการพิจารณาใดๆ ก็จะมีการชุมนุมขับไล่กันทุกวัน
โดยขณะนี้ได้มีการล่ารายชื่อตำรวจได้ 60 คน ชาวบ้านอีก 200 คน พร้อมที่จะยื่นรายชื่อและเอกสารข้อเรียกร้องให้กับ พล.ต.ต.ปราโมทย์ เอี่ยมทัศน์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย,ตำรวจภูธรภาค 4, สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในลำดับต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.วสันต์ ศรีวัชคุณประภา ผกก.สภ.ท่าบ่อ กล่าวว่า ได้เห็นข้อเรียกร้องของลูกน้องผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว แต่ละข้อที่ระบุไว้นั้นตนสามารถชี้แจงได้ การที่ตนดุด่าว่ากล่าวลูกน้องเพราะต้องการให้ลูกน้องตั้งใจปฏิบัติงานให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ เป็นการว่ากล่าวด้วยจิตบริสุทธิ์ ส่วนเรื่องเงินกองทุนอุดหนุนสืบสวนสอบสวนนั้นไม่เคยเอาเข้ากระเป๋าตัวเอง จากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งงบให้เดือนละ 1 แสนนั้น ปัจจุบันเหลืออยู่เดือนละ 50,000 บาท ซึ่งได้จัดสรรให้ลูกน้องไปแล้ว
ส่วนประเด็นการจัดแสดงกายกรรมเนื่องจากหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วปรากฏว่าขาดทุน ทำให้ไม่สามารถปรับปรุงสนามกีฬาที่เคยบอกว่าจะทำได้ โดยตนพยายามจะเจรจากับลูกน้องแล้วเพราะไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงเกิดขึ้น หากลูกน้องไม่ต้องการให้ตนอยู่ตนก็พร้อมที่ย้ายออก แต่ต้องขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาในระดับสูงว่าจะมีคำสั่งลงมาอย่างไรบ้าง
หลังจากนั้น พ.ต.อ.กิตติพงศ์ จังพาณิชย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.ปราโมทย์ เอี่ยมทัศน์ ผบก.ภ.จว.หนองคาย ซึ่งติดภารกิจประชุมที่กรุงเทพฯ ให้ไปรับหนังสือร้องเรียนจากตำรวจ สภ.ท่าบ่อแทน และได้ขอร้องให้ตำรวจยุติการชุมนุมในวันนี้ไปก่อน ซึ่งจะเร่งพิจารณาเรื่องดังกล่าวโดยเร็วให้ทราบผลภายในวันนี้ โดยคาดว่าจะมีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา
แต่ยอมรับว่าขณะนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นเลยจุดที่จะสามารถเจรจากันได้แล้ว ต่างฝ่ายต่างแรง หากจำเป็นต้องย้ายผกก.ออกนอกพื้นที่เพื่อลดกระแสความรุนแรงก็คงต้องทำ ดังนั้นจึงต้องค่อยๆ พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร และจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย