ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กรมโยธาธิการและผังเมืองเตรียมติดประกาศ 90 วันเพื่อให้คนเชียงใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากผังรวมเมืองเชียงใหม่ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 และถือเป็นครั้งสุดท้ายก่อนประกาศใช้จริงเผยเป็นฉบับที่ได้รับการแก้ไขปรับปรุงแล้วกว่า 80% ด้านผู้ประกอบการหวั่นผังเมืองนำร่างแรกมาติดประกาศเหตุประชาชนเริ่มไม่สนใจเกรงไร้คนคัดค้านรอรับผลกระทบจากการประกาศใช้จริง
นายสมชาย ชุ่มรัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยถึง ความคืบหน้าร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการผังเมืองระดับจังหวัด และส่งเรื่องให้คณะกรรมการผังเมืองของกรมโยธาฯพิจารณาและอนุมัติ เพื่อเตรียมติดประกาศ 90 วัน ขณะนี้ได้มีการนำเข้าสู้ที่ประชุมคณะกรรมการผังเมืองพิจารณา หากคณะกรรมการฯ เห็นด้วยจะส่งเรื่องให้จังหวัดติดประกาศ 90 วันเพื่อให้มีส่วนได้ส่วนเสียยื่นร้องคัดค้าน หากไม่มีผู้ยื่นคัดค้านจะส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยเพื่อนำเสนอ ครม.ให้ความเห็นชอบและส่งเรื่องให้กฤษฎีกาออกประกาศกฎกระทรวงเพื่อประกาศใช้ต่อไป
นายสมชาย กล่าวต่อไปว่า การปรังปรุงร่างผังเมืองรวมฯล่าสุดกลุ่มต่างๆที่คัดค้านได้รับความพอใจในระดับหนึ่ง เพราะสิ่งที่เรียกร้องได้รับการแก้ไขกว่า 70-80% ส่วนอีก 20% ที่ไม่สามารถแก้ไขให้ได้เนื่องจากติดขัดข้อกฎหมาย ซึ่งได้แจ้งเหตุผลให้กลุ่มที่คัดค้านทราบแล้ว โดยเฉพาะกรณีพื้นที่สีเขียวบางส่วนที่จะมีการนำไปทำบ้านจัดสรรนั้นในบางพื้นที่มีข้อติดขัดในเรื่องของกฎหมาย และบางพื้นที่ก็มีความเสี่ยงในเรื่องของน้ำท่วมที่อาจจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงอาจจะมีบางส่วนที่ต้องคงเดิมไว้ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงสุญญากาศที่ผังเมืองยังไม่ประกาศใช้ หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีผู้ฉวยโอกาสขออนุญาตก่อสร้างอาคารสูง เรื่องนี้กรมโยธาฯ ไม่กังวล เพราะมีประกาศของกระทรวงมหาดไทยควบคุมอยู่แล้ว
ด้านแหล่งข่าวจากสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่-ลำพูน กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ที่กรมโยธาฯ เตรียม เสนอให้คณะกรรมการผังเมืองพิจารณาในเร็วๆ นี้ เพราะมีการคาดการณ์กันว่าผังเมือง อาจจะนำการปรับปรุงผังเมืองที่เป็นร่างฉบับแรกให้คณะกรรมการพิจารณา
นั่นหมายถึงว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงในส่วนต่างๆ ที่ได้มีการเสนอหรือร่วมประชุมแต่ละครั้งเข้าไปด้วยเลย และเชื่อว่าเมื่อมีการติดประกาศ 90 วัน เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียยื่นร้องคัดค้านเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะต้องยื่นคัดค้านรายแปลง ซึ่งร่างผังเมืองรวมที่กรมโยธาฯระบุว่าได้นำข้อเสนอของผู้คัดค้านมาปรับแก้ หลังตรวจสอบแล้วเป็นร่างผังเมืองรวมฉบับเดิมที่มีการร่างไว้ตั้งแต่แรก เพียงแต่เพิ่มเติมข้อกำหนดให้เข้มงวดมากขึ้นเท่านั้น
“เชื่อว่าเมื่อมีการประกาศให้คัดค้าน 90 วัน เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียได้คัดค้านแต่ก็เป็นการคัดค้านรายแปลง ประชาชนที่ไม่ได้ติดตามตั้งแต่ต้นหรือไม่ได้สนใจกับการติดประกาศก็จะไม่มีใครเข้าไปคัดค้าน และเมื่อเป็นเช่นนั้นหากผังเมืองใหม่มีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ เชื่อว่าเมื่อนั้นถึงจะมีการคัดค้านกันอีกรอบอย่างแน่นอนเพราะผลกระทบต่าง ๆ จะเกิดขึ้นจริงเมื่อได้ใช้ไปแล้ว และคาดว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนก็คือต้นทุนที่ดินจะเพิ่มขึ้น ราคาบ้านจัดสรรก็จะแพงขึ้นอย่างแน่นอน” แหล่งข่าวกล่าว
ด้านนางวรวิมล ชัยรัตน์ ตัวแทนชาวบ้านชุมชนย่านวัดเกตุ-ฟ้าฮ่าม ในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่ร่วมเคลื่อนไหวกับชุมชนเรื่องร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ (ปรับปรุงครั้งที่ 3) เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการด้วยวาจาว่าในการประชุมคณะกรรมการผังเมืองของกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณารับข้อเสนอในการปรับปรุงร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ของตัวแทนชาวบ้านย่านวัดเกตุ ฟ้าฮ่าม ชาวบ้านย่านอุโมงค์ และชาวบ้านนิมมานเหมินท์ ได้รับการตอบรับจากคณะกรรมการผังเมืองแล้ว เพื่อเตรียมติดประกาศ 90 วัน
ทั้งนี้ ทำให้ในร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ ที่จะมีการติดประกาศ 90 วัน พื้นที่ในย่านวัดเกตุ ฟ้าฮ่าม อุโมงค์ และนิมมานเหมินท์ ที่เคยจะถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สีแดง เป็นพื้นที่อนุรักษ์เพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในย่านดังกล่าว ที่พยายามเรียกร้องในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในชุมชนย่านวัดเกตุ-ฟ้าฮ่าม นอกจากจะถูกกำหนดใหม่ให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์เพื่อการอยู่อาศัยแล้ว ยังมีการขยายพื้นที่อนุรักษ์เพิ่มเติมให้มีความครอบคลุมมากขึ้นด้วย จากเดิมจำนวนที่ดินประมาณ 2,000 แปลง เป็นประมาณ 2,500-3,000 แปลง ซึ่งจะต้องมีการสำรวจที่แน่ชัดอีกครั้ง
“ในส่วนของชุมชนย่านวัดเกตุ ในเบื้องต้นที่มีการกำหนดในร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ ที่จะประกาศ 90 วัน ให้เป็นย่านอนุรักษ์เพื่อการอยู่อาศัยถือเป็นเรื่องที่ดีและเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงสำหรับย่านนี้ เพราะชุมชนในย่านนี้เป็นชุมชนดั้งเดิม ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ และวัฒนธรรมที่ผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัวมาช้านาน ยกตัวอย่างเช่นความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม ก็มีการสำรวจพบว่ามีบ้านเก่าอายุร่วมร้อยปีตั้งอยู่ในย่านนี้กว่า 100 หลัง ซึ่งแต่ละหลังล้วนมีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมที่ควรอนุรักษ์เอาไว้มากกว่าที่จะปล่อยให้มีสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ เข้ามาทำลาย” นางวรวิมล กล่าว
สำหรับในช่วงของการติดประกาศร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ 90 วัน นางวรวิมล ยอมรับว่า มีความเป็นห่วงเช่นกันว่าอาจจะมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยและยื่นคัดค้าน โดยเฉพาะในส่วนคัดค้านการกำหนดให้ย่านวัดเกตุ ฟ้าฮ่าม อุโมงค์ และนิมมานเหมินท์ เป็นพื้นที่อนุรักษ์เพื่อการอยู่อาศัย ทั้งนี้เบื้องต้นทางชาวบ้านในชุมชนเหล่านี้ได้หารือและมีข้อสรุปร่วมกันในที่จะเตรียมจัดตั้งศูนย์รวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นต่อร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ที่จะมีการติดประกาศ 90 วัน เพื่อทำหน้าที่ควบคู่กับทางกรมโยธาธิการและผังเมืองไปเลย ในการรับฟังความคิดเห็นต่างๆ
นายสมชาย ชุ่มรัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยถึง ความคืบหน้าร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการผังเมืองระดับจังหวัด และส่งเรื่องให้คณะกรรมการผังเมืองของกรมโยธาฯพิจารณาและอนุมัติ เพื่อเตรียมติดประกาศ 90 วัน ขณะนี้ได้มีการนำเข้าสู้ที่ประชุมคณะกรรมการผังเมืองพิจารณา หากคณะกรรมการฯ เห็นด้วยจะส่งเรื่องให้จังหวัดติดประกาศ 90 วันเพื่อให้มีส่วนได้ส่วนเสียยื่นร้องคัดค้าน หากไม่มีผู้ยื่นคัดค้านจะส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยเพื่อนำเสนอ ครม.ให้ความเห็นชอบและส่งเรื่องให้กฤษฎีกาออกประกาศกฎกระทรวงเพื่อประกาศใช้ต่อไป
นายสมชาย กล่าวต่อไปว่า การปรังปรุงร่างผังเมืองรวมฯล่าสุดกลุ่มต่างๆที่คัดค้านได้รับความพอใจในระดับหนึ่ง เพราะสิ่งที่เรียกร้องได้รับการแก้ไขกว่า 70-80% ส่วนอีก 20% ที่ไม่สามารถแก้ไขให้ได้เนื่องจากติดขัดข้อกฎหมาย ซึ่งได้แจ้งเหตุผลให้กลุ่มที่คัดค้านทราบแล้ว โดยเฉพาะกรณีพื้นที่สีเขียวบางส่วนที่จะมีการนำไปทำบ้านจัดสรรนั้นในบางพื้นที่มีข้อติดขัดในเรื่องของกฎหมาย และบางพื้นที่ก็มีความเสี่ยงในเรื่องของน้ำท่วมที่อาจจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงอาจจะมีบางส่วนที่ต้องคงเดิมไว้ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงสุญญากาศที่ผังเมืองยังไม่ประกาศใช้ หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีผู้ฉวยโอกาสขออนุญาตก่อสร้างอาคารสูง เรื่องนี้กรมโยธาฯ ไม่กังวล เพราะมีประกาศของกระทรวงมหาดไทยควบคุมอยู่แล้ว
ด้านแหล่งข่าวจากสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่-ลำพูน กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ที่กรมโยธาฯ เตรียม เสนอให้คณะกรรมการผังเมืองพิจารณาในเร็วๆ นี้ เพราะมีการคาดการณ์กันว่าผังเมือง อาจจะนำการปรับปรุงผังเมืองที่เป็นร่างฉบับแรกให้คณะกรรมการพิจารณา
นั่นหมายถึงว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงในส่วนต่างๆ ที่ได้มีการเสนอหรือร่วมประชุมแต่ละครั้งเข้าไปด้วยเลย และเชื่อว่าเมื่อมีการติดประกาศ 90 วัน เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียยื่นร้องคัดค้านเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะต้องยื่นคัดค้านรายแปลง ซึ่งร่างผังเมืองรวมที่กรมโยธาฯระบุว่าได้นำข้อเสนอของผู้คัดค้านมาปรับแก้ หลังตรวจสอบแล้วเป็นร่างผังเมืองรวมฉบับเดิมที่มีการร่างไว้ตั้งแต่แรก เพียงแต่เพิ่มเติมข้อกำหนดให้เข้มงวดมากขึ้นเท่านั้น
“เชื่อว่าเมื่อมีการประกาศให้คัดค้าน 90 วัน เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียได้คัดค้านแต่ก็เป็นการคัดค้านรายแปลง ประชาชนที่ไม่ได้ติดตามตั้งแต่ต้นหรือไม่ได้สนใจกับการติดประกาศก็จะไม่มีใครเข้าไปคัดค้าน และเมื่อเป็นเช่นนั้นหากผังเมืองใหม่มีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ เชื่อว่าเมื่อนั้นถึงจะมีการคัดค้านกันอีกรอบอย่างแน่นอนเพราะผลกระทบต่าง ๆ จะเกิดขึ้นจริงเมื่อได้ใช้ไปแล้ว และคาดว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนก็คือต้นทุนที่ดินจะเพิ่มขึ้น ราคาบ้านจัดสรรก็จะแพงขึ้นอย่างแน่นอน” แหล่งข่าวกล่าว
ด้านนางวรวิมล ชัยรัตน์ ตัวแทนชาวบ้านชุมชนย่านวัดเกตุ-ฟ้าฮ่าม ในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่ร่วมเคลื่อนไหวกับชุมชนเรื่องร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ (ปรับปรุงครั้งที่ 3) เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการด้วยวาจาว่าในการประชุมคณะกรรมการผังเมืองของกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณารับข้อเสนอในการปรับปรุงร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ของตัวแทนชาวบ้านย่านวัดเกตุ ฟ้าฮ่าม ชาวบ้านย่านอุโมงค์ และชาวบ้านนิมมานเหมินท์ ได้รับการตอบรับจากคณะกรรมการผังเมืองแล้ว เพื่อเตรียมติดประกาศ 90 วัน
ทั้งนี้ ทำให้ในร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ ที่จะมีการติดประกาศ 90 วัน พื้นที่ในย่านวัดเกตุ ฟ้าฮ่าม อุโมงค์ และนิมมานเหมินท์ ที่เคยจะถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สีแดง เป็นพื้นที่อนุรักษ์เพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในย่านดังกล่าว ที่พยายามเรียกร้องในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในชุมชนย่านวัดเกตุ-ฟ้าฮ่าม นอกจากจะถูกกำหนดใหม่ให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์เพื่อการอยู่อาศัยแล้ว ยังมีการขยายพื้นที่อนุรักษ์เพิ่มเติมให้มีความครอบคลุมมากขึ้นด้วย จากเดิมจำนวนที่ดินประมาณ 2,000 แปลง เป็นประมาณ 2,500-3,000 แปลง ซึ่งจะต้องมีการสำรวจที่แน่ชัดอีกครั้ง
“ในส่วนของชุมชนย่านวัดเกตุ ในเบื้องต้นที่มีการกำหนดในร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ ที่จะประกาศ 90 วัน ให้เป็นย่านอนุรักษ์เพื่อการอยู่อาศัยถือเป็นเรื่องที่ดีและเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงสำหรับย่านนี้ เพราะชุมชนในย่านนี้เป็นชุมชนดั้งเดิม ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ และวัฒนธรรมที่ผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัวมาช้านาน ยกตัวอย่างเช่นความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม ก็มีการสำรวจพบว่ามีบ้านเก่าอายุร่วมร้อยปีตั้งอยู่ในย่านนี้กว่า 100 หลัง ซึ่งแต่ละหลังล้วนมีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมที่ควรอนุรักษ์เอาไว้มากกว่าที่จะปล่อยให้มีสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ เข้ามาทำลาย” นางวรวิมล กล่าว
สำหรับในช่วงของการติดประกาศร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ 90 วัน นางวรวิมล ยอมรับว่า มีความเป็นห่วงเช่นกันว่าอาจจะมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยและยื่นคัดค้าน โดยเฉพาะในส่วนคัดค้านการกำหนดให้ย่านวัดเกตุ ฟ้าฮ่าม อุโมงค์ และนิมมานเหมินท์ เป็นพื้นที่อนุรักษ์เพื่อการอยู่อาศัย ทั้งนี้เบื้องต้นทางชาวบ้านในชุมชนเหล่านี้ได้หารือและมีข้อสรุปร่วมกันในที่จะเตรียมจัดตั้งศูนย์รวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นต่อร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ที่จะมีการติดประกาศ 90 วัน เพื่อทำหน้าที่ควบคู่กับทางกรมโยธาธิการและผังเมืองไปเลย ในการรับฟังความคิดเห็นต่างๆ
