บุรีรัมย์ - “สถาพร หลาวทอง” ผู้ช่วย ผบ.ตร.ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าสะสาง 3 คดีดังที่ จ.บุรีรัมย์ ทั้งคดีกลุ่มคนร้ายบุกทุบทำลายเทวรูปบนปราสาทพนมรุ้ง-คดีบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ของตระกูลนักการเมืองดัง “ชิดชอบ” และคดีเพลิงไหม้โกดังเก็บน้ำตาลโรงงานน้ำตาลบุรีรัมย์
วันนี้ (15 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.กรกต สาริยา ผู้บังคับการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาตรวจติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีดังที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ 3 คดี ได้แก่ คดีคนร้ายบุกทุบทำลายเทวรูปโบราณปราสาทพนมรุ้ง, คดีบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ของ นางละออง ชิดชอบ และ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร มารดาและบิดา นายเนวิน ชิดชอบ นักการเมืองดังเมืองบุรีรัมย์ และคดีเพลิงไหม้โกดังเก็บน้ำตาลโรงงานน้ำตาลบุรีรัมย์ ที่เสียหายกว่า 500 ล้านบาท โดยได้เรียกผู้กำกับสถานีตำรวจ พนักงานสอบสวน และชุดสอบสวนคลี่คลายคดีทั้ง 3 คดีเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าและทิศทางการสะสางคดี
พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ทั้ง 3 คดีเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากสังคม และขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยคดีกลุ่มคนร้ายบุกทุบทำลายเทวรูปบนปราสาทพนมรุ้งเสียหายนั้น มีการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงผลตรวจดีเอ็นเอจากหลักฐานในที่เกิดเหตุเสร็จสิ้นแล้ว เหลือเพียงนำตัวผู้ต้องสงสัยมาเปรียบเทียบดีเอ็นเอ เพื่อหาตัวคนร้าย ซึ่งเบื้องต้นได้นำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของปราสาทพนมรุ้ง มาเปรียบเทียบปรากฏว่าไม่ตรงกัน
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้นำตัวคนงานที่เคยถูกให้ออกมาเปรียบเทียบ รวมถึงสืบหาข้อมูลเชิงลึกกลุ่มทำไสยศาสตร์ทั้งในและนอกประเทศด้วย ส่วนคดีบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ของนายชัย และ นางละออง ชิดชอบ นั้น ขณะนี้ทั้ง 2 คนได้ยื่นหนังสือขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 20 ปาก รวมถึงยื่นให้มีการนำแผนที่ทางอากาศเข้ามาตรวจสอบเขตที่ดินด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการแต่ก็มีความคืบหน้าไปมากเช่นกัน
สำหรับคดีเพลิงไหม้โกดังเก็บน้ำตาลโรงงานน้ำตาลบุรีรัมย์ ตำรวจวิทยาการได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้เสร็จแล้ว ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าจะมีความเป็นไปได้ หรือไม่ว่าจะเกิดการสันดาปของน้ำตาลที่เก็บไว้เป็นจำนวนมากจนเป็นสาเหตุเพลิงไหม้ แต่ก็ยังไม่ตัดทิ้งประเด็นลอบวางเพลิง ซึ่งก็ได้กำชับให้มีการสืบสวนทุกคดีให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด
