สกลนคร - ผอ.โรงพยาบาลสกลนคร เผยพบผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเข้ารับการรักษาแล้วประมาณ 15,000 ราย ส่วนโรคระบบย่อยอาหารและโรคในช่องปากมาเป็นอันดับ 1 สูงเกือบ 20,000 ราย
จากสถานการณ์ปัจจุบันของประเทสไทย นอกจากประชาชนจะต้องประสบกับความเดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ จนนำไปสู่ยุคข้าวยากหมากแพงแล้ว ประชาชนยังต้องผจญกับเรื่องโรคภัยไข้เจ็บนานาชนิด ซึ่งโรงพยาบาลสกลนคร ได้แยกชนิดของโรคตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2551 รวม 8 เดือน ปรากฏว่า โรคที่พบมากที่สุด
ได้แก่ โรคระบบย่อยอาหารและโรคในช่องปาก พบผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสกลนคร 18,648 ราย รองลงมาคือโรคระบบหายใจ 14,957 คน อันดับสาม คือ โรคระบบไหลเวียนเลือด 14,538 ราย โรคเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ โภชนาการ และเมตะบอลิซัม จำนวน 14,496 ราย โรคระบบสืบพันธุ์ร่วมปัสสาวะ 9,651 ราย
ส่วนโรคระบบประสาท 2,638 ราย โรคภาวะแปรปรวนทางจิตและพฤติกรรม 4,851 ราย โรคเกี่ยวกับตา 5,304 ราย โรคหู 1,519 ราย โรคติดเชื้อและปรสิต 6,233 ราย โรคเนื้องอกรวมทั้งมะเร็ง 2,724 ราย โดยโรคที่น่าเป็นห่วงว่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศคือโรคระบบทางเดินหายใจ
นายแพทย์ อภิชาต อภิวัฒนพร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสกลนคร เปิดเผยว่า ของปีนี้ พบผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจมาเข้ารับการรักษาเกือบ 15,000 ราย จึงต้องการให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัย เมื่อต้องอยู่ในที่เสี่ยงต่อการติดโรค จึงต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เรื่องโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ตลอดจนการใช้หน้ากากอนามัย, การล้างมือ, ทั้งในและนอกโรงพยาบาล
ทั้งนี้ เนื่องจากในประเทศไทยมีโรคระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อยที่สุดคือ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ วัณโรค และปอดบวม ต่อปีมีคนไทยป่วยด้วยโรคดังกล่าวกว่า 20 ล้านคน ดังนั้น จึงขอให้ ประชาชนป้องกันตนเอง โดยการใช้หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่พบว่า ตนเองอยู่ในที่เสี่ยงที่อาจจะติดโรคดังกล่าว และควรหมั่นล้างมือให้สะอาด
สำหรับอาการของผู้ป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยจะมีอาการไอ เหนื่อย หอบ ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ามารักษาตัวจนล้นโรงพยาบาล จึงเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเกิดโรค เช่นตากฝน หรือบริเวณที่มีอากาศชื้น
นอกจากนี้ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่มีการให้บริการฟรี ในสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน
จากสถานการณ์ปัจจุบันของประเทสไทย นอกจากประชาชนจะต้องประสบกับความเดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ จนนำไปสู่ยุคข้าวยากหมากแพงแล้ว ประชาชนยังต้องผจญกับเรื่องโรคภัยไข้เจ็บนานาชนิด ซึ่งโรงพยาบาลสกลนคร ได้แยกชนิดของโรคตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2551 รวม 8 เดือน ปรากฏว่า โรคที่พบมากที่สุด
ได้แก่ โรคระบบย่อยอาหารและโรคในช่องปาก พบผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสกลนคร 18,648 ราย รองลงมาคือโรคระบบหายใจ 14,957 คน อันดับสาม คือ โรคระบบไหลเวียนเลือด 14,538 ราย โรคเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ โภชนาการ และเมตะบอลิซัม จำนวน 14,496 ราย โรคระบบสืบพันธุ์ร่วมปัสสาวะ 9,651 ราย
ส่วนโรคระบบประสาท 2,638 ราย โรคภาวะแปรปรวนทางจิตและพฤติกรรม 4,851 ราย โรคเกี่ยวกับตา 5,304 ราย โรคหู 1,519 ราย โรคติดเชื้อและปรสิต 6,233 ราย โรคเนื้องอกรวมทั้งมะเร็ง 2,724 ราย โดยโรคที่น่าเป็นห่วงว่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศคือโรคระบบทางเดินหายใจ
นายแพทย์ อภิชาต อภิวัฒนพร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสกลนคร เปิดเผยว่า ของปีนี้ พบผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจมาเข้ารับการรักษาเกือบ 15,000 ราย จึงต้องการให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัย เมื่อต้องอยู่ในที่เสี่ยงต่อการติดโรค จึงต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เรื่องโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ตลอดจนการใช้หน้ากากอนามัย, การล้างมือ, ทั้งในและนอกโรงพยาบาล
ทั้งนี้ เนื่องจากในประเทศไทยมีโรคระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อยที่สุดคือ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ วัณโรค และปอดบวม ต่อปีมีคนไทยป่วยด้วยโรคดังกล่าวกว่า 20 ล้านคน ดังนั้น จึงขอให้ ประชาชนป้องกันตนเอง โดยการใช้หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่พบว่า ตนเองอยู่ในที่เสี่ยงที่อาจจะติดโรคดังกล่าว และควรหมั่นล้างมือให้สะอาด
สำหรับอาการของผู้ป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยจะมีอาการไอ เหนื่อย หอบ ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ามารักษาตัวจนล้นโรงพยาบาล จึงเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเกิดโรค เช่นตากฝน หรือบริเวณที่มีอากาศชื้น
นอกจากนี้ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่มีการให้บริการฟรี ในสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน