แพร่ – “ดอกไม้พันธมิตร” บานแล้วที่เมืองแพร่ กลุ่มต้านหายเงียบ “เจิมศักดิ์” ขึ้นเวทีให้ความรู้การเมืองใหม่อยู่ที่ประชาชน ชาวบ้านรวมตัวมอบเงินให้เอเอสทีวี-พันธมิตร และการทำงานเครือข่ายปราบคอร์รัปชันภาคประชาชนรวมเกือบ 2 แสนบาท
รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่แจ้งว่า ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีที่จังหวัดแพร่โดยมีนายสมโรจน์ สำราญชลารัตน์ ประธานศูนย์พัฒนาองค์กรชาวบ้านเพื่อการพึ่งตนเองอย่างยั่งยืนจังหวัดแพร่ เป็นผู้ดำเนินรายการที่ห้องไอยรา โรงแรมนครแพร่ทาวเวอร์ อ.เมือง จ.แพร่ เมื่อวันที่ 13 ก.ค.51 ที่ผ่านมา โดยมีประชาชนที่ให้ความสนใจและเครือข่ายพันธมิตรกว่า 500 คนร่วมเวที
เวทีพันธมิตรดังกล่าวได้เริ่มด้วยการเสวนาภายใต้ชื่องานว่า “มิติการเมืองใหม่ทิศทางประเทศไทยภายใต้รัฐธรรมนูญและทางเลือกของชาวแพร่” ซึ่งพิธีกรได้นำเสนอถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในจังหวัดแพร่จากการทำงานและอำนาจของรัฐที่คุกคามประชาชน เช่น รัฐบาลประกาศสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น โดยไม่คำนึงถึงแนวทางของคนในลุ่มน้ำยมที่มีทางออกที่ดีกว่า และยังละเมิดสิทธิของชุมชน ตำรวจจับกุมวัยรุ่นยากจนที่เก็บซิมการ์ดได้ข้างถนนนำไปสู่การยัดเยียดคดีถึง 15 คดี
การเอื้อประโยชน์ให้แก่นายทุนสร้างโรงงานก๋วยเตี๋ยวทำลายสิ่งแวดล้อมใน ต.สวนเขื่อน อ.เมือง จ.แพร่ เมื่อชาวบ้านประท้วง กลุ่มนายทุนและรัฐรวมหัวกันตั้งม็อบเข้าชนกับชาวบ้าน สิ่งเหล่านี้ล้วนมาจากอำนาจอิทธิพลของภาครัฐที่ส่งผลกระทบมายังชนบท ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการโกงกินในรัฐบาลชุดต่างๆ ที่ผ่านมาซึ่งเป็นเครือข่ายโยงใยกัน
ดร.เจิมศักดิ์ ได้ระบุว่า ความต้องการอยากรู้ปัญหาของชาวแพร่ มาจากปัญหาของสื่อ ที่ต้องมีการปฏิรูปไปพร้อมๆ กับการพัฒนาการเมืองที่ย่ำแย่ทุกวันนี้ สื่อเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ชาวบ้านเกิดการเรียนรู้ และกระบวนการทำให้เกิดปัญหาคือวงจรอุบาทก์ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยคือ “ระบอบทักษิณ” ที่ทำให้การบริหารประเทศเต็มไปด้วยปัญหา ซึ่งรัฐธรรมนูญใหม่ปี 2550 เป็นรัฐธรรมนูญที่เข้ามาขัดขวางและเอาผิดนักการเมืองที่โกงกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น กรณีปราสาทพระวิหาร รัฐมนตรีต่างประเทศมีความผิดทางอาญาหลังตัดสินใจผิดไม่ฟังกฎหมายรัฐธรรมนูญ
นายเจิมศักดิ์ ได้ให้ข้อคิดของการเมืองใหม่ว่า ตนไม่สามารถบรรยายได้ เนื่องจากการเมืองใหม่นั้นอยู่ที่ประชาชนร่วมกันตัดสินใจในการพัฒนาร่วมกันบนพื้นฐานของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะให้การเมืองใหม่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมประชาชนเท่านั้นที่จะออกมาแสดงบทบาทตามรัฐธรรมนูญและเอาจริงกับนักการเมืองพร้อมทั้งการร่วมกันทำอารยะขัดขืน ในการที่นักการเมืองยังไม่เกิดสำนักทางการเมืองแบบใหม่ ช่วยกันทำงานให้ขยายวงกว้างออกไปในไม่ช้านักการเมืองโกงกินบ้านเมืองจะหมดไป และนักการเมืองหน้าใหม่จะมีโอกาสเข้ามาทำงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการจัดเวทีพันธมิตรฯ จบลงประชาชนในจังหวัดแพร่ที่ไปร่วมเวทีได้ร่วมกันบริจาคเงินให้กับสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี การทำงานของพันธมิตรฯ และเครือข่ายต้านคอรัปชั่นนายวีระ สมความคิด เป็นยอดเงินรวมกว่า 150,000 บาท ซึ่งนายเจิมศักดิ์ เป็นผู้รับมอบ หลังจากนั้นได้มีการปิดเวทีและมีการนัดที่จะชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะเดียวกันถ้าสถานการณ์ใน กทม.รุนแรง กลุ่มพันธมิตรแพร่พร้อมเสียสละเวลาและทุนทรัพย์เดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรที่ กทม.
โดยก่อนหน้านี้มีกระแสของการออกมาโจมตีการจัดประชุมของกลุ่มพันธมิตรจังหวัดแพร่ เป็นระยะ อาทิ การประกาศแจ้งข่าวว่าเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด หรือการจะออกมาประท้วงขับไล่กลุ่มพันธมิตรไม่ให้จัดในจังหวัดแพร่ โดยมีการจ้างหัวละ 1,000 บาทจากนักการเมืองที่เสียประโยชน์ แต่เมื่อถึงกำหนดจริงๆ ไม่มีกลุ่มก่อกวนออกมาแต่อย่างใด
ในขณะที่กลุ่มพันธมิตรจากจังหวัดแพร่ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิจิตร และจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้เดินทางมาสมทบและจัดหน่วยรักษาความปลอดภัยขึ้นเองทำให้มีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด แต่ในที่สุดไม่มีกลุ่มก่อกวนเข้ามาในงานแต่อย่างใด
