พิษณุโลก - พันธมิตรฯสองแคว ออกแถลงการณ์ประณาม “นพเหล่-ครม.หมัก” ต้องถูกตัดหัวเจ็ดชั่วโครต จี้ลาออกทั้งคณะ ขณะที่คดีใบแดง “ยุทธ ตู้เย็น” ต้องเดินหน้ายุบพรรคพลังประชาชน
วันนี้ (9 ก.ค.) พันธมิตรฯพิษณุโลกได้ออกแถลงการณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูตัดสินคดีทุจริตเลือกตั้งของ “ยุทธ ตู้เย็น-นายยงยุทธ ติยะไพรัช” และกรณีปราสาทพระวิหาร
โดยระบุว่า กรณี นายนพดล ปัทมะ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และตัวแทนคณะรัฐมนตรี ที่ลงนามคำแถลงการณ์ร่วมยก “ดินแดนบางส่วนให้เขมรขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เพื่อตอบแทนการลงทุนของกลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลัง การสร้างความวุ่นวายทางการเมือง โดยเฉพาะบ่อนกาสิโน และแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล”
โดยภาคประชาชน, นักวิชาการ รวมทั้งนักการเมืองฝ่ายค้าน ได้เรียกร้องและให้ยุติการการลงนามร่วมแถลงการณ์ตลอดจนนำสู่การอภิปรายไม่วางใจในสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินการลงนามคำแถลงการณ์ร่วมเป็นการผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 รัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2550
ภาคประชาชนและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้นายนพดล ปัทมะ และรัฐมนตรีทั้งคณะ “ลาออก” ทันที พร้อมกับนำคดีนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยคำนึงโทษทางอาญาที่บริหารประเทศชาติผิดพลาดและจะเป็นบรรทัดฐาน ในการ “รับผิดชอบทางการเมือง” ของระบอบการเมืองใหม่
ในส่วนการตัดสินคดีใบแดงของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่กระทำความผิดโกงการเลือกตั้ง และมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อการเคลื่อนไหวการเมืองใหม่ของภาคประชาชน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพิษณุโลก ขอร่วมเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและให้ภาคประชาชนประกาศชัยชนะร่วมกัน ตลอดจนให้พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมติดตามตรวจสอบกดดันเพื่อให้เกิด“กระบวนการเมืองใหม่มีเป้าหมายร่วมกันที่จะโค่นล้มระบอบทักษิณ”
แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า เทียนแห่งธรรม เห็นชัยอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ประกอบด้วย กลุ่มคนหลากหลายอาชีพพร้อมจะเคลื่อนไหวให้สอดรับกับ 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยส่วนกลาง ขอเรียกร้องให้ นายนพดล ปัทมะ และคณะรัฐมนตรีลาออก และรับโทษทางอาญา “ตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร” ในส่วน นายยงยุทธ ติยะไพรัช ให้ดำเนินตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงขั้นตอนการยุบพรรคพลังประชาชน
วันนี้ (9 ก.ค.) พันธมิตรฯพิษณุโลกได้ออกแถลงการณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูตัดสินคดีทุจริตเลือกตั้งของ “ยุทธ ตู้เย็น-นายยงยุทธ ติยะไพรัช” และกรณีปราสาทพระวิหาร
โดยระบุว่า กรณี นายนพดล ปัทมะ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และตัวแทนคณะรัฐมนตรี ที่ลงนามคำแถลงการณ์ร่วมยก “ดินแดนบางส่วนให้เขมรขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เพื่อตอบแทนการลงทุนของกลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลัง การสร้างความวุ่นวายทางการเมือง โดยเฉพาะบ่อนกาสิโน และแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล”
โดยภาคประชาชน, นักวิชาการ รวมทั้งนักการเมืองฝ่ายค้าน ได้เรียกร้องและให้ยุติการการลงนามร่วมแถลงการณ์ตลอดจนนำสู่การอภิปรายไม่วางใจในสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินการลงนามคำแถลงการณ์ร่วมเป็นการผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 รัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2550
ภาคประชาชนและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้นายนพดล ปัทมะ และรัฐมนตรีทั้งคณะ “ลาออก” ทันที พร้อมกับนำคดีนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยคำนึงโทษทางอาญาที่บริหารประเทศชาติผิดพลาดและจะเป็นบรรทัดฐาน ในการ “รับผิดชอบทางการเมือง” ของระบอบการเมืองใหม่
ในส่วนการตัดสินคดีใบแดงของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่กระทำความผิดโกงการเลือกตั้ง และมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อการเคลื่อนไหวการเมืองใหม่ของภาคประชาชน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพิษณุโลก ขอร่วมเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและให้ภาคประชาชนประกาศชัยชนะร่วมกัน ตลอดจนให้พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมติดตามตรวจสอบกดดันเพื่อให้เกิด“กระบวนการเมืองใหม่มีเป้าหมายร่วมกันที่จะโค่นล้มระบอบทักษิณ”
แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า เทียนแห่งธรรม เห็นชัยอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ประกอบด้วย กลุ่มคนหลากหลายอาชีพพร้อมจะเคลื่อนไหวให้สอดรับกับ 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยส่วนกลาง ขอเรียกร้องให้ นายนพดล ปัทมะ และคณะรัฐมนตรีลาออก และรับโทษทางอาญา “ตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร” ในส่วน นายยงยุทธ ติยะไพรัช ให้ดำเนินตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงขั้นตอนการยุบพรรคพลังประชาชน
