xs
xsm
sm
md
lg

ศรีสะเกษระดมทหาร-ตร.สกัดผู้ชุมนุม เคลื่อนขบวนบุก“เชิงเขาวิหาร”ไล่กัมพูชา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลุ่มปชช.ผู้ชุมนุมค้านขึ้นทะเบียนมรดกโลกและขับไล่ชาวกัมพูชาออกจากเขตแดนไทย เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังเชิงเขาพระวิหาร แต่ถูกสกัดกั้นจากกำลังทหาร ตำรวจฝ่ายไทยวันนี้ (28 มิ.ย.)
ศรีสะเกษ - คนไทยกว่า 200 คน ชุมนุมประท้วงเชิงเขาพระวิหารคัดค้านการขึ้นทะเบียนมรดกโลกและขับไล่ชาวกัมพูชาออกไปจากเขตทับซ้อน เผยฝ่ายไทยระดมกำลังทหาร-ตำรวจสกัดกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนนำศาลาเรือนไทยไปติดตั้งแสดงเขตแดนไทยและนำป้ายข้อความขับไล่ไปมอบให้กับชาวกัมพูชาจนเกิดการปะทะกันขึ้น ด้าน นอภ.กันทรลักษ์ลั่นไม่ยอมให้ผู้ชุมนุมเข้าประชิดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันอันตรายหรืออาจเกิดความรุนแรงขึ้นได้

วันนี้ (28 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ที่บริเวณผามออีแดงอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนชาวไทยและชาว จ.ศรีสะเกษ ของกลุ่มสมัชชาประชาชนจังหวัดศรีสะเกษ , สภาสหธรรมิกประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย,สมัชชาเกษตรกรรายย่อยจังหวัดศรีสะเกษ และ เครือข่ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดศรีสะเกษ ประมาณ 200 คน

นำโดย นายอรุณศักดิ์ โอชารส ประธานสมัชชาประชาชน จ.ศรีสะเกษ ,นายสมาน ศรีงาม ประธานสภาประชาธิปไตยแห่งชาติ ,พระวิจิตร ญาณโสภโณ เลขาธิการขบวนการศาสนาเพื่อมนุษยชาติ และ นายรณชิต ทุ่มโมง ประธานสมัชชาเกษตรกรรายย่อย จ.ศรีสะเกษ ได้รวมตัวกันชุมนุมประท้วงพร้อมเปิดเวทีปราศรัยคัดค้านการขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาและเรียกร้องขับไล่ชาวกัมพูชา กว่า 500 คน ที่รุกล้ำเข้ามาตั้งชุมชนสร้างบ้านเรือน ร้านค้า วัดและถนน อยู่บริเวณเชิงเขาพระวิหารซึ่งเป็นเขตทับซ้อนให้ออกไปจากบริเวณดังกล่าว

โดยบรรดาแกนนำได้พากันขึ้นปราศรัยกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาลไทย ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) และ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เห็นชอบในข้อตกลงและลงนามแถลงการณ์ร่วมระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชา ในการขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกของประเทศกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว

นายอรุณศักดิ์ โอชารส ประธานสมัชชาประชาชนจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า การชุมนุมในวันนี้ ( 28 มิ.ย.) มีตัวแทนจากองค์กรเครือข่ายหลายองค์กรในภาคอีสานเดินทางมาเข้าร่วม ซึ่งวันนี้พวกเราจะเคลื่อนขบวนไปที่บริเวณประตูเหล็กเชิงเขาพระวิหาร เพื่อยื่นหนังสือเป็นภาษาเขมรมอบให้แก่ฝ่ายกัมพูชา ให้ชาวกัมพูชาได้รับทราบว่าชาวไทยคัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก และขอให้ชาวกัมพูชาที่ตั้งชุมชนอยู่บริเวณเชิงเขาพระวิหารได้อพยพออกไปจากเขตแดนไทยโดยเร็ว

ด้าน นายบุญรวม จันทะมาศ ทนายความชื่อดังและปราชญ์ชาวบ้านจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ประชาชนชาวกัมพูชามีความรักและหวงแหนแผ่นดินของตัวเอง ซึ่งไม่ต่างจากคนไทยที่มีความรักหวงแหนแผ่นดินเกิดของตัวเองเช่นกัน จึงขอฝากไปถึง นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขอให้คืนเขาพระวิหารให้กลับมาเป็นของคนไทยเช่นเดิม และเอาชาวกัมพูชาออกไปจากเขตแดนไทยที่บริเวณเชิงเขาพระวิหารโดยด่วน

ส่วนหากชาวกัมพูชาต้องการปราสาทพระวิหารก็ขอให้ยกเอาปราสาทพระวิหารออกไปตามคำพิพากษาของศาลโลก แต่ให้คงเหลือแผ่นดินไทยเอาไว้ เนื่องจากชาวศรีสะเกษและชาวไทยทั่วทั้งประเทศจะไม่ยอมเสียดินแดนของไทยให้กับต่างชาติอีกแล้ว

ต่อมาเวลา 17.00 น. วันเดียวกันนี้ ( 28 มิ.ย.) กลุ่มผู้ชมนุมกว่า 200 คน ได้เคลื่อนขบวนตามถนนจากบริเวณผามออีเดง ไปที่บริเวณหน้ากองร้อยทหารพรานที่ 2306 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มุ่งหน้าไปยังประตูเหล็กทางเข้า เชิงเขาพระวิหาร เขตชายแดนไทย-กัมพูชา ที่รัฐบาลกัมพูชาได้สั่งปิดตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.เป็นต้นมา

โดยขบวนกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำองค์พระพุทธรูป ,ธงชาติไทย ออกนำหน้าขบวน และบรรทุกศาลาเรือนไทย มาบนท้ายกระบะรถปิกอัพ เพื่อจะนำศาลาเรือนไทยที่ติดข้อความ “นี่คือแผ่นดินของไทย” ไปติดตั้งไว้ที่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร พร้อมทั้งจะนำเอาป้ายที่มีข้อความว่า “คัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เอาคนกัมพูชาคืนไป เอาแผ่นดินไทยคืนมา” ไปมอบให้แก่ชาวกัมพูชา เพื่อให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของการชุมนุมประท้วงในครั้งนี้

ขณะเดียวกัน นายประเสริฐ อร่ามศรีวรพงษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัฒนา เงินหมื่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(รองผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ ,พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 และ พ.ต.ท.ทิพย์พงษ์ ทิพย์เกสร สวญ.สภ.บึงมะลู ได้นำกำลังทหาร ตำรวจ ประมาณ 200 นาย ตั้งด่านปิดถนนสกัดกั้นไม่ยอมให้ขบวนของผู้ชุมนุมผ่านไปยังเชิงเขาพระวิหารได้

แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่เพื่อขอผ่านไปยังบริเวณเชิงเขาพระวิหาร แต่นายอำเภอกันทรลักษ์กับคณะไม่ยอมให้ผ่านไป จึงเกิดการปะทะผลักดันกันขึ้นระหว่างกลุ่มชุมนุมกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ก่อนบรรดาแกนนำจะห้ามปรามชาวบ้านจึงได้สงบลง โดยทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้ยอมถอยจากจุดที่ตั้งรับเดิมออกไปอีก 100 เมตร และตั้งด่านสกัดไว้ไม่ยอมให้กลุ่มผู้ชุมนุมชาวไทยเคลื่อนขบวนต่อไปอีกอย่างเด็ดขาด ดังนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้นำศาลาเรือนไทยลงจากรถมาวางไว้บริเวณข้างถนน เพื่อเป็นการแสดงเขตแดนไทยเป็นการชั่วคราว

นายสมาน ศรีงาม ประธานสภาประชาธิปไตยแห่งชาติ กล่าวว่า พวกเราต้องการนำเอาศาลาเรือนไทยหลังนี้ไปติดตั้งที่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร เพื่อเป็นการยืนยันว่าเขตพื้นที่บริเวณเชิงเขาพระวิหารเป็นของไทย ซึ่งพวกเราไม่ต้องการใช้ความรุนแรงในการประท้วง แต่จะใช้ธรรมในการประท้วงรัฐบาลกัมพูชา เพื่อให้ผลักดันเคลื่อนย้ายชาวกัมพูชาออกไปจากเขตแดนไทยที่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร ซึ่งเมื่อทางฝ่ายทหาร ตำรวจไทยต้องการให้พวกเราเอาศาลาเรือนไทยตั้งไว้ตรงจุดนี้ ก็จะขอมอบให้ทางฝ่ายทหาร ตำรวจช่วยกันดูแลเขตแดนประเทศไทยให้ดี

“ในวันพรุ่งนี้และในวันถัด ๆ ไป พวกเราประชาชนชาวไทยก็จะช่วยกันนำเอาศาลาเรือนไทยเคลื่อนย้ายไปจนถึงเขตแดนไทยที่บริเวณเชิงเขาพระวิหารให้ได้อย่างแน่นอน” นายสมาน กล่าว

ทางด้าน นายประเสริฐ อร่ามศรีวรพงษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่ไม่ต้องการให้กลุ่มผู้ชุมนุมชาวไทยเดินทางไปที่บริเวณเชิงเขาพระวิหารซึ่งเป็นเขตชายแดนไทย-กัมพูชานั้นเพราะอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัยเนื่องจากขณะนี้ยังมีความไม่สงบเรียบร้อยอยู่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร ซึ่งอาจทำให้กลุ่มผู้ประท้วงได้รับอันตรายได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสกัดกั้นเอาไว้ เพื่อความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมเอง

“เจ้าหน้าที่เราจะไม่ยอมให้กลุ่มผู้ประท้วงเคลื่อนขบวนเข้าไปประชิดบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงได้รับอันตรายหรืออาจเกิดความรุนแรงขึ้นได้” นายประเสริฐ กล่าว






เปิดเวทีปราศรัยบริเวณ ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร
กำลังโหลดความคิดเห็น