ศูนย์ข่าวศรีราชา - คณะทำงานโครงการแก้ไขปัญหาบุคคลเร่ร่อน ขอทาน เมืองพัทยา ชะลอ กิจกรมค่ายสานฝัน 4 หลังพบว่าข้อกฎหมายขัด พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2456
วันนี้ (28 มิ.ย.51) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมเพื่อหารือการจัดทำโครงการแก้ไขปัญหาบุคคลเร่ร่อน ขอทาน หรือกิจกรรมค่ายสานฝันเยาวชนสายใยรัก ในรุ่นที่ 4 โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายวุฒิศักดิ์ กล่าวว่าสำหรับการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากการจัดกิจกรรมค่ายสานฝันเยาวชนสายใยรัก รุ่นที่ 4 ประสบปัญหาและอุปสรรค ในเรื่องข้อขัดข้องจากกฏหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ในเรื่องของการนำส่งตัวเด็กที่เข้าร่วมโครงการไปอบรม ทั้งนี้เพื่อเป็นการหาทางออกให้กับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานโครงการดังกล่าว จึงได้เชิญคณะทำงานโครงการแก้ไขปัญหาบุคคลเร่ร่อน ขอทานมาการปรึกษาหารือ เกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติงานที่ถูกต้องและชัดเจนของการดำเนินโครงการ อีกทั้งเพื่อรอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการการคุ้มครองเด็ก จังหวัดชลบุรี ในการนำมาใช้เป็นบรรทัดฐานการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวในครั้งต่อไป
โดยที่ประชุม ได้มติเห็นชอบให้มีการชะลอการดำเนินงานจัดกิจกรรมโครงการค่ายสานฝันรุ่นที่ 4 ในปี 2551ออกไปก่อน แล้วให้มีการจัดกิจกรรมในรูปแบบเดียวกัน แต่จะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กนักเรียนในพื้นที่เมืองพัทยา ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงในเรื่องของยาเสพติด ไปเข้าค่ายอบรม ที่โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง กองทัพเรือ 3 กรมทหารปืนใหญ่ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ทั้งเพื่อให้เด็กนำความรู้ และทักษะที่ได้รับจากการอบรมไปใช้ในการดำรงชีวิต
สำหรับโครงการแก้ไขปัญหาบุคคลเร่ร่อน ขอทาน หรือกิจกรรมค่ายสานฝันเยาวชนสายใยรัก เป็นโครงการเพื่อแก้ปัญหาสังคม เด็กเร่ร่อน เด็กประพฤติตนไม่สมควรแก่วัย ซึ่งได้ดำเนินการแก่เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 12-18 ปี มาเข้าอบรม ณ โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง กองทัพเรือ 3 กรมทหารปืนใหญ่ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นระยะเวลา 45 วัน
โดยจะมีหลักสูตรการอบรมในเรื่องของวิชาชีพ ฝึกระเบียบวินัย ขัดเกลาจิตใจ และปรับทัศนะคติให้มีความคิดและจิตใจที่ดี จนสามารถดำเนินชีวิตที่ถูกต้องในสังคมต่อไป ซึ่งเด็กเยาวชนกลุ่มนี้เมื่อเสร็จสิ้นการอบรมบางส่วนมีผู้ปกครองมารับกลับ บางส่วนเข้าพักที่บ้านพักเด็กสถานที่ต่างๆ ซึ่งหลังจบการอบรมจะมีการติดตามผลเป็นระยะ และมีการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง โดยทีมงานคณะทำงานจากภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้มีการดำเนินการจัดขึ้นมาแล้ว 3 ครั้ง
วันนี้ (28 มิ.ย.51) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมเพื่อหารือการจัดทำโครงการแก้ไขปัญหาบุคคลเร่ร่อน ขอทาน หรือกิจกรรมค่ายสานฝันเยาวชนสายใยรัก ในรุ่นที่ 4 โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายวุฒิศักดิ์ กล่าวว่าสำหรับการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากการจัดกิจกรรมค่ายสานฝันเยาวชนสายใยรัก รุ่นที่ 4 ประสบปัญหาและอุปสรรค ในเรื่องข้อขัดข้องจากกฏหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ในเรื่องของการนำส่งตัวเด็กที่เข้าร่วมโครงการไปอบรม ทั้งนี้เพื่อเป็นการหาทางออกให้กับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานโครงการดังกล่าว จึงได้เชิญคณะทำงานโครงการแก้ไขปัญหาบุคคลเร่ร่อน ขอทานมาการปรึกษาหารือ เกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติงานที่ถูกต้องและชัดเจนของการดำเนินโครงการ อีกทั้งเพื่อรอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการการคุ้มครองเด็ก จังหวัดชลบุรี ในการนำมาใช้เป็นบรรทัดฐานการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวในครั้งต่อไป
โดยที่ประชุม ได้มติเห็นชอบให้มีการชะลอการดำเนินงานจัดกิจกรรมโครงการค่ายสานฝันรุ่นที่ 4 ในปี 2551ออกไปก่อน แล้วให้มีการจัดกิจกรรมในรูปแบบเดียวกัน แต่จะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กนักเรียนในพื้นที่เมืองพัทยา ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงในเรื่องของยาเสพติด ไปเข้าค่ายอบรม ที่โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง กองทัพเรือ 3 กรมทหารปืนใหญ่ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ทั้งเพื่อให้เด็กนำความรู้ และทักษะที่ได้รับจากการอบรมไปใช้ในการดำรงชีวิต
สำหรับโครงการแก้ไขปัญหาบุคคลเร่ร่อน ขอทาน หรือกิจกรรมค่ายสานฝันเยาวชนสายใยรัก เป็นโครงการเพื่อแก้ปัญหาสังคม เด็กเร่ร่อน เด็กประพฤติตนไม่สมควรแก่วัย ซึ่งได้ดำเนินการแก่เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 12-18 ปี มาเข้าอบรม ณ โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง กองทัพเรือ 3 กรมทหารปืนใหญ่ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นระยะเวลา 45 วัน
โดยจะมีหลักสูตรการอบรมในเรื่องของวิชาชีพ ฝึกระเบียบวินัย ขัดเกลาจิตใจ และปรับทัศนะคติให้มีความคิดและจิตใจที่ดี จนสามารถดำเนินชีวิตที่ถูกต้องในสังคมต่อไป ซึ่งเด็กเยาวชนกลุ่มนี้เมื่อเสร็จสิ้นการอบรมบางส่วนมีผู้ปกครองมารับกลับ บางส่วนเข้าพักที่บ้านพักเด็กสถานที่ต่างๆ ซึ่งหลังจบการอบรมจะมีการติดตามผลเป็นระยะ และมีการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง โดยทีมงานคณะทำงานจากภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้มีการดำเนินการจัดขึ้นมาแล้ว 3 ครั้ง