กรมศุลกากรตรวจยึดตู้คอนเทนเนอร์บรรจุขยะอิเล็กทรอนิกส์ เตรียมนำส่งออกนอกประเทศ พร้อมไม้พะยูงอีก 8 ตู้คอนเทรนเนอร์ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
วันนี้ (18 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น.นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมศุลกากร และ นายวิศาล วุฒิศักดิ์ศิลป์ รองอธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกันแถลงการตรวจยึดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ประเภทแผงวงจรทีวี และดีวีดี ที่เสื่อมสภาพแล้ว จำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ และจับกุมไม้พะยูงได้อีกจำนวน 8 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้น 20 ล้านบาท โดยสามารถยึดของกลางทั้งหมดเอาไว้ได้ ณ ลานวางตู้ขาออกท่าเรือกรุงเทพ ขณะกำลังจะถูกลับลอบนำส่งออกไปนอกราชอาณาจักร
นายวิศาล กล่าวว่า สำหรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ยึดได้นี้ถือเป็นถือเป็นสินค้าอันตรายตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ห้ามส่งออกไปนอกราชอาณาจักร เนื่องจากผู้รับยังประเทศปลายทางจะนำขยะเหล่านี้ไปทำลายเพื่อเอาเส้นทองแดง และวัสดุบางส่วน ของแผงวงจรไปใช้เท่านั้น ส่วนอุปกรณ์ที่เหลือใช้เมื่อผ่านกรรมวิธีการทำลายแล้ว ก็จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชั้นบรรยากาศ อันทำให้เกิดภาวะโลกร้อน สำหรับผู้ต้องหาที่พยายามจะลักลอบส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ออกไปนอกราชอาณาจักรทราบชื่อแล้ว คือ นายประเสริฐ เมฆชา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายวิศาล กล่าวอีกว่า ส่วนไม้พะยูงที่ยึดได้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ห้ามนำส่งออกไปนอกราชอาณาจักรตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ.2549 ขณะนี้ทราบแล้วเช่นกันว่าของกลางทั้งหมดเป็นของ บจก.เฟิร์ส ลอแยล อินเตอร์เนชั่นแนล และ บจก.สยามออโต้เมชั่น โมล์ ซึ่งพยายามสำแดงใบขนสินค้าเป็นเท็จ เพื่อทำการลักลอบนำส่งออกไปยังประเทศฮ่องกง และ ประเทศจีน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางเอาไว้ ก่อนติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (18 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น.นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมศุลกากร และ นายวิศาล วุฒิศักดิ์ศิลป์ รองอธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกันแถลงการตรวจยึดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ประเภทแผงวงจรทีวี และดีวีดี ที่เสื่อมสภาพแล้ว จำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ และจับกุมไม้พะยูงได้อีกจำนวน 8 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้น 20 ล้านบาท โดยสามารถยึดของกลางทั้งหมดเอาไว้ได้ ณ ลานวางตู้ขาออกท่าเรือกรุงเทพ ขณะกำลังจะถูกลับลอบนำส่งออกไปนอกราชอาณาจักร
นายวิศาล กล่าวว่า สำหรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ยึดได้นี้ถือเป็นถือเป็นสินค้าอันตรายตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ห้ามส่งออกไปนอกราชอาณาจักร เนื่องจากผู้รับยังประเทศปลายทางจะนำขยะเหล่านี้ไปทำลายเพื่อเอาเส้นทองแดง และวัสดุบางส่วน ของแผงวงจรไปใช้เท่านั้น ส่วนอุปกรณ์ที่เหลือใช้เมื่อผ่านกรรมวิธีการทำลายแล้ว ก็จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชั้นบรรยากาศ อันทำให้เกิดภาวะโลกร้อน สำหรับผู้ต้องหาที่พยายามจะลักลอบส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ออกไปนอกราชอาณาจักรทราบชื่อแล้ว คือ นายประเสริฐ เมฆชา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายวิศาล กล่าวอีกว่า ส่วนไม้พะยูงที่ยึดได้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ห้ามนำส่งออกไปนอกราชอาณาจักรตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ.2549 ขณะนี้ทราบแล้วเช่นกันว่าของกลางทั้งหมดเป็นของ บจก.เฟิร์ส ลอแยล อินเตอร์เนชั่นแนล และ บจก.สยามออโต้เมชั่น โมล์ ซึ่งพยายามสำแดงใบขนสินค้าเป็นเท็จ เพื่อทำการลักลอบนำส่งออกไปยังประเทศฮ่องกง และ ประเทศจีน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางเอาไว้ ก่อนติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป