พิษณุโลก – “พันธมิตรฯ สองแคว” ชี้การเมืองในระบอบไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ชี้ “การเมืองภาคประชาชน” คือทางออก ระบุอภิปรายซักฟอก “สมัคร” เหลว ประกาศ “ทวงคืนเขาพระวิหาร-ทวงคืนประเทศไทยจากรอบทักษิณ-ขับไล่สภาโจร” เชิญประชาชนร่วมชุมนุมครั้งใหญ่ที่ตลาดเก้าแสน เสาร์ที่ 28 มิ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิษณุโลกว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพิษณุโลก ได้ทำจดหมายเปิดผนึกขึ้นโดยมีเนื้อหาระบุว่า “ภาวะทางตันทางการเมือง” ขณะนี้เกิดจากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ใช้กลไกทางการเมืองแก้ไขกฏหมาย เปลี่ยนแปลงนโยบาย ปรับคนและโครงสร้างในหน่วยราชการ รวมทั้งเข้าไปครอบงำองค์กรอิสระ จนเกิดความแตกแยกขัดแย้งในสังคมไทยอย่างรุนแรง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจาก “ระบอบทักษิณ” จนเกิดการขับไล่และเปิดเผยข้อมูลกลโกงของ “ทักษิณ” จากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
แม้แต่พื้นที่พิษณุโลกก็ได้เกิดการตื่นตัวอย่างเข้มข้น ครู หมอ พ่อค้า นักวิชาการ นักการเมืองท้องถิ่นร่วมกับ NGOs และนักเคลื่อนไหวจากสหภาพการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ที่ได้รับผลกระทบจากระบอบทักษิณมีการสร้างเวทีแลกเปลี่ยน การถ่ายทอดสด ASTV การรณรงค์ การจัดเวทีขับไล่ทักษิณ ที่พิจิตรและพิษณุโลก การรวมตัวในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหัวเมืองฝ่ายเหนือ โดยมีเป้าหมายขับไล่ระบอบทักษิณ ยึดทรัพย์สินที่ยักยอกจากรัฐ นำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สู่กระบวนการยุติธรรม
เมื่อปี 2549 การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯและองค์กรประชาชน กำลังจะประกาศชัยชนะ จนเกิด “การปฏิวัติ 19 กันยายน 2549” โดยทหารฝ่าย คมช.ทำให้บทบาทของพันธมิตรฯพิษณุโลก ลดลง อันเกิดจากการช่วงชิงชัยชนะของภาคประชาชนโดยทหาร แต่รัฐบาลที่ได้รับการแต่งตั้งไม่ได้ดำเนินการตามเจตนารมย์ของภาคประชาชน จนเกิด “รัฐบาลหุ่นเชิด” นำทีมโดยนายสมัคร สุนทรเวช และพรรคพวก ยิ่งซ้ำเติมสังคมไทย
เพราะมีการแทรกแซงสื่อ โยกย้ายคนของตนเอง ครอบงำองค์กรอิสระ ชอบใช้ปากมากกว่าสมอง จาบจ้วงสถาบัน เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมกรณีเงิน 2 ล้านบาทในถุงขนม ชอบใช้ความรุนแรง รับใช้เผด็จการเคยปลุกระดมเข่นฆ่าประชาชน นักศึกษาในอดีต แม้แต่กรณีแถลงการณ์ร่วมการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ก็เป็นไปอย่างลุกลี้ลุกลน เพื่อตอบแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะลงทุนในเขมร ทั้งบ่อนเกาะกง น้ำมันในเขมร ใช้งบประมาณของประเทศไทยให้พวกพ้องผลาญ โดยตัดสินใจกันไม่กี่คนในคณะรัฐมนตรี ทำให้คนไทยโดยเฉพาะทหารที่ยอมเสียสละชีวิตปกป้องแผ่นดิน ต่ำต้อยด้อยศักดิ์ศรี
ขณะที่การเมืองในระบอบไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ กรณีซักฟอกนายสมัคร สุนทรเวช ไม่ได้ตอบข้อสงสัยของสังคม “ไปไหนมา สามวาสองศอก” รวมทั้งเป็น “คนจิตไม่ปกติ” ทั้งที่ข้อหาใหญ่ “เอาแผ่นดินไทยไปแลกผลประโยชน์ให้ใครบางคน” กรณีเขาพระวิหาร ถามวัวตอบควาย ถามหมูตอบแมว ฯลฯ นี่คือความล้มเหลวของนักการเมืองในรัฐสภา
“การนำเอาประสาทเขาพระวิหารแลกผลประโยชน์ให้กับการลงทุนในเขมร และการนำคนต่างประเทศมากว้านซื้อที่ดินทำนา แทรกแซงชื่อองค์กรหน่วยงานของรัฐ คือการย่ำยีขายแผ่นดินไทยทางอ้อม”
พันธมิตรฯ พิษณุโลก เชื่อมั่นว่า “การเมืองภาคประชาชน” คือทางออกของสังคม ดูได้จากการกลับมารวมตัวกันของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพิษณุโลก การเปิดเวทีปราศัยถ่ายทอด ASTV ที่ตลาดเก้าแสน ตลอดจนการจัดระดมทุนเดินทางเข้าสมทบพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ทั้งรถตู้และรถไฟ
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดพิษณุโลก จึงเรียกร้องให้พี่น้องจังหวัดพิษณุโลก พี่น้องภาคเหนือตอนล่างร่วมรณรงค์ แสดงออกทุกคืนด้วยการรวมตัวกัน 18.00- 23.00 น. ที่ตลาดเก้าแสน ชมการถ่ายทอด ASTV, นำขนม อาหารมาแลกเปลี่ยนกัน
โดยในวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2551 จะจัดรณรงค์ใหญ่ เริ่มจากจัดขบวนรณรงค์ใส่เสื้อเหลืองรอบเมือง เริ่มจากสนามกีฬากลาง พี่น้องทำป้าย ผ้าโพก ธงมาเอง มีมอเตอร์ไซด์ สามล้อ จักรยาน รถยนต์ ออกมาร่วมกัน และจัดเวทีปราศัยที่ตลาดเก้าแสนเวลา 18.00-23.00 น. ใครมีเงินช่วยเงิน มีแรงช่วยแรง มีสมองช่วยสมอง ขอให้พี่น้องพิษณุโลกลูกหลานสมเด็จพระนเรศวร ออกมาทวงคืนประเทศไทย
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คาดหวังเห็นความมุ่งมั่นของคนไทยทั้งประเทศร่วม “ทวงคืนประเทศไทยจากระบอบทักษิณ” และให้รัฐบาลที่มีฉายา “สภาโจร” ลาออก นำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าสู่กระบวนยุติธรรม ชดใช้กรรมที่ก่อขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิษณุโลกว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพิษณุโลก ได้ทำจดหมายเปิดผนึกขึ้นโดยมีเนื้อหาระบุว่า “ภาวะทางตันทางการเมือง” ขณะนี้เกิดจากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ใช้กลไกทางการเมืองแก้ไขกฏหมาย เปลี่ยนแปลงนโยบาย ปรับคนและโครงสร้างในหน่วยราชการ รวมทั้งเข้าไปครอบงำองค์กรอิสระ จนเกิดความแตกแยกขัดแย้งในสังคมไทยอย่างรุนแรง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจาก “ระบอบทักษิณ” จนเกิดการขับไล่และเปิดเผยข้อมูลกลโกงของ “ทักษิณ” จากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
แม้แต่พื้นที่พิษณุโลกก็ได้เกิดการตื่นตัวอย่างเข้มข้น ครู หมอ พ่อค้า นักวิชาการ นักการเมืองท้องถิ่นร่วมกับ NGOs และนักเคลื่อนไหวจากสหภาพการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ที่ได้รับผลกระทบจากระบอบทักษิณมีการสร้างเวทีแลกเปลี่ยน การถ่ายทอดสด ASTV การรณรงค์ การจัดเวทีขับไล่ทักษิณ ที่พิจิตรและพิษณุโลก การรวมตัวในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหัวเมืองฝ่ายเหนือ โดยมีเป้าหมายขับไล่ระบอบทักษิณ ยึดทรัพย์สินที่ยักยอกจากรัฐ นำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สู่กระบวนการยุติธรรม
เมื่อปี 2549 การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯและองค์กรประชาชน กำลังจะประกาศชัยชนะ จนเกิด “การปฏิวัติ 19 กันยายน 2549” โดยทหารฝ่าย คมช.ทำให้บทบาทของพันธมิตรฯพิษณุโลก ลดลง อันเกิดจากการช่วงชิงชัยชนะของภาคประชาชนโดยทหาร แต่รัฐบาลที่ได้รับการแต่งตั้งไม่ได้ดำเนินการตามเจตนารมย์ของภาคประชาชน จนเกิด “รัฐบาลหุ่นเชิด” นำทีมโดยนายสมัคร สุนทรเวช และพรรคพวก ยิ่งซ้ำเติมสังคมไทย
เพราะมีการแทรกแซงสื่อ โยกย้ายคนของตนเอง ครอบงำองค์กรอิสระ ชอบใช้ปากมากกว่าสมอง จาบจ้วงสถาบัน เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมกรณีเงิน 2 ล้านบาทในถุงขนม ชอบใช้ความรุนแรง รับใช้เผด็จการเคยปลุกระดมเข่นฆ่าประชาชน นักศึกษาในอดีต แม้แต่กรณีแถลงการณ์ร่วมการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ก็เป็นไปอย่างลุกลี้ลุกลน เพื่อตอบแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะลงทุนในเขมร ทั้งบ่อนเกาะกง น้ำมันในเขมร ใช้งบประมาณของประเทศไทยให้พวกพ้องผลาญ โดยตัดสินใจกันไม่กี่คนในคณะรัฐมนตรี ทำให้คนไทยโดยเฉพาะทหารที่ยอมเสียสละชีวิตปกป้องแผ่นดิน ต่ำต้อยด้อยศักดิ์ศรี
ขณะที่การเมืองในระบอบไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ กรณีซักฟอกนายสมัคร สุนทรเวช ไม่ได้ตอบข้อสงสัยของสังคม “ไปไหนมา สามวาสองศอก” รวมทั้งเป็น “คนจิตไม่ปกติ” ทั้งที่ข้อหาใหญ่ “เอาแผ่นดินไทยไปแลกผลประโยชน์ให้ใครบางคน” กรณีเขาพระวิหาร ถามวัวตอบควาย ถามหมูตอบแมว ฯลฯ นี่คือความล้มเหลวของนักการเมืองในรัฐสภา
“การนำเอาประสาทเขาพระวิหารแลกผลประโยชน์ให้กับการลงทุนในเขมร และการนำคนต่างประเทศมากว้านซื้อที่ดินทำนา แทรกแซงชื่อองค์กรหน่วยงานของรัฐ คือการย่ำยีขายแผ่นดินไทยทางอ้อม”
พันธมิตรฯ พิษณุโลก เชื่อมั่นว่า “การเมืองภาคประชาชน” คือทางออกของสังคม ดูได้จากการกลับมารวมตัวกันของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพิษณุโลก การเปิดเวทีปราศัยถ่ายทอด ASTV ที่ตลาดเก้าแสน ตลอดจนการจัดระดมทุนเดินทางเข้าสมทบพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ทั้งรถตู้และรถไฟ
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดพิษณุโลก จึงเรียกร้องให้พี่น้องจังหวัดพิษณุโลก พี่น้องภาคเหนือตอนล่างร่วมรณรงค์ แสดงออกทุกคืนด้วยการรวมตัวกัน 18.00- 23.00 น. ที่ตลาดเก้าแสน ชมการถ่ายทอด ASTV, นำขนม อาหารมาแลกเปลี่ยนกัน
โดยในวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2551 จะจัดรณรงค์ใหญ่ เริ่มจากจัดขบวนรณรงค์ใส่เสื้อเหลืองรอบเมือง เริ่มจากสนามกีฬากลาง พี่น้องทำป้าย ผ้าโพก ธงมาเอง มีมอเตอร์ไซด์ สามล้อ จักรยาน รถยนต์ ออกมาร่วมกัน และจัดเวทีปราศัยที่ตลาดเก้าแสนเวลา 18.00-23.00 น. ใครมีเงินช่วยเงิน มีแรงช่วยแรง มีสมองช่วยสมอง ขอให้พี่น้องพิษณุโลกลูกหลานสมเด็จพระนเรศวร ออกมาทวงคืนประเทศไทย
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คาดหวังเห็นความมุ่งมั่นของคนไทยทั้งประเทศร่วม “ทวงคืนประเทศไทยจากระบอบทักษิณ” และให้รัฐบาลที่มีฉายา “สภาโจร” ลาออก นำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าสู่กระบวนยุติธรรม ชดใช้กรรมที่ก่อขึ้น