xs
xsm
sm
md
lg

สำนักศิลปากรลุยสำรวจเมืองน้ำดำค้นพบกระดูกยุคบ้านเชียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์ - สำนักศิลปากรที่ 10 ร้อยเอ็ด ส่งนักโบราณคดีลงสำรวจพื้นที่พบกระดูก เครื่องปั้นดินเผาโบราณ อำเภอคำม่วง ระบุเป็นยุคร่วมสมัยเดียวกันกับแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์บ้านเชียง ยุคเหล็กสมัยตอนปลาย ด้านจังหวัดกาฬสินธุ์เล็งพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว และศึกษา พร้อมประสานกำนัน ผญบ.ในพื้นที่ขอชาวบ้านนำมามอบคืน ขณะที่ตำรวจจัดกำลังป้องกันการลักลอบขุด หวั่นวัตถุโบราณเสียหาย

จากกรณีชาวบ้านโนนค้อ หมู่ที่ 14 ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ได้ขุดค้นพบเศษชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ เครื่องปั้นดินเผา ลูกปัด และเครื่องสำริดโบราณจำนวนมาก โดยเชื่อว่าบริเวณดังกล่าวอาจจะเป็นสุสานโบราณที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน นายพัณณ์เดชน์ ศรีจันทร์ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ นายเลิศบุศย์ กองทอง นายอำเภอคำม่วง พ.ต.ท.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ สวป.สภ.คำม่วง นายทวี บุรีขันธ์ นายก อบต.นาทัน พร้อมด้วยนักโบราณคดี จากสำนักศิลปากรที่ 10 ร้อยเอ็ด ได้ลงพื้นที่สำรวจแหล่งที่ขุดค้นพบบริเวณทุ่งนาของนายหนู โพธิสา อายุ 58 ปี บ้านโนนค้อ หมู่ที่ 14 ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์

โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุว่ากระดูก เครื่องปั้นดินเผาที่ค้นพบเป็นยุคร่วมสมัยเดี่ยวกันกับแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์บ้านเชียง จ.อุดรธานี ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี พร้อมกับขึ้นบัญชีเป็นแหล่งค้นพบโบราณคดีของไทย

นางสาวพิมพ์นารา กิตโชติประเสริฐ นักโบราณคดี 7 ว. สำนักศิลปากรที่ 10 ร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากการสำรวจพื้นที่และเปรียบเทียบเบื้องต้นคาดว่ากระดูกมนุษย์ เครื่องปั้นดินเผาลูกปัด และเครื่องสัมฤทธิ์ต่างๆที่ค้นพบบริเวณดังกล่าวเป็นยุคร่วมสมัยเดี่ยวกันกับแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์บ้านเชียง จ.อุดรธานี ในช่วงสมัยตอนปลายหรือยุดเหล็ก ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี เนื่องจากมีลักษณะประเพณีการฝังศพ ประกอบกับมีเครื่องใช้สอย

โดยเฉพาะเหล็กและเครื่องสำริดเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางสำนักศิลปากรที่ 10 ร้อยเอ็ดได้ขึ้นบัญชีบริเวณดังกล่าวให้เป็นแหล่งค้นพบโบราณคดีแล้ว จากนั้นจะเสนอเรื่องไปยังจังหวัดกาฬสินธุ์เพื่อเข้าสำรวจทางวิชาการอย่างละเอียดอีกครั้ง

นายเลิศบุศย์ กองทอง นายอำเภอคำม่วง กล่าวว่า หลังจากมีประชาชนค้นพบกระดูกมนุษย์ และเครื่องโบราณต่างๆ จำนวนมาก ต่อไปทางอำเภอคำม่วงจะเสนอเรื่องผลักดันพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโบราณคดี ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังตำรวจ และอบต.นาทัน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านที่ขุดนำสิ่งของไปกลับมาคืน เพื่อที่จะรวบรวมกันไว้ให้ได้จำนวนมากที่สุด

"การค้นพบวัตถุโบราณดังกล่าวถือเป็นสิ่งล้ำค่าของชาวกาฬสินธุ์ เพราะเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของชาวไทย ซึ่งมีความสำคัญในการศึกษาเรียนรู้อารยธรรมสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีความโดดเด่นทั้งวัฒนธรรม สังคม ของบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมายาวนาน ดังนั้นจึงถือเป็นความภาคภูมิใจในการค้นพบ "นายเลิศบุศย์ กล่าว

พ.ต.ท.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ สวป.สภ.คำม่วง กล่าวว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจผลัดเปลี่ยนกันดูแลสถานที่บริเวณที่ขุดพบเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าไปขุด ซึ่งจะทำให้เกิดการเสียหายของวัตถุโบราณได้ ทั้งนี้ได้ขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนที่ขุดและมีวัตถุโบราณอยู่ในครอบครองได้ช่วยร่วมกันอนุรักษ์ ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม นำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่อำเภอหรือ อบต.เพื่อที่จะรวบรวมไว้ ให้บุคคลทั่วไปได้ศึกษาด้วย ซึ่งหากเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ใดเข้ามาลักลอบขุดหรือยังครอบครองวัตถุโบราณไว้เป็นของตัวเองอยู่ อาจจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายได้

นายพัณณ์เดชน์ ศรีจันทร์ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจ.กาฬสินธุ์ให้เป็นตัวแทนเข้าติดตามการค้นพบวัตถุโบราณดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นวัตถุโบราณร่วมสมัยเดี่ยวกันกับแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์บ้านเชียง จ.อุดรธานีทุกคนก็ดีใจ และต่อไปจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อเข้าจัดทำแผนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.กาฬสินธุ์

ทั้งนี้ แนวทางการดำเนินการต่อไปทางจังหวัดได้ขอความร่วมมือประชาชนที่เข้าไปพบและมีสิ่งของวัตถุโบราณร่วมกันอนุรักษ์อย่างจริงจัง เพราะมีการพิสูจน์แล้วว่า เป็นแหล่งวัตถุโบราณก็ถือว่าเป็นของล้ำค่าของแผ่นดินอีกแห่งหนึ่ง

นายเลิศบุศย์ กองทอง นายอำเภอคำม่วง นักโบราณคดี จากสำนักศิลปากรที่ 10 ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำรวจแหล่งที่ขุดค้นพบบริเวณทุ่งนาของนายหนู โพธิสา  ชาวบ้านโนนค้อ หมู่ที่ 14 ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เบื้องต้น กระดูก เครื่องปั้นดินเผาที่ค้นพบเป็นยุคร่วมสมัยเดียวกันกับแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์บ้านเชียง ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี

กำลังโหลดความคิดเห็น