ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทยยอมรับสภาพปีนี้หมดสิทธิ์ผสมพันธุ์หมีแพนด้า หลังสิ้นสุดช่วงฤดูผสมพันธุ์ตามปกติแล้วแต่ “หลินฮุ่ย” ตัวเมียไม่ยอมแสดงอาการเป็นสัด ระบุ เป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ เผยจะยังคงเฝ้าติดตามพฤติกรรมใกล้ชิดและเตรียมพร้อมผสมพันธุ์ต่อเนื่อง เผื่อเกิดปาฏิหาริย์ผสมพันธุ์นอกฤดู
นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางทีมงานสัตว์แพทย์ที่ดูแลและเตรียมพร้อมการผสมพันธุ์หมีแพนด้า “ช่วงช่วง” ตัวผู้ และ “หลินฮุ่ย” ตัวเมีย ได้ยอมรับสภาพแล้วว่าคงจะไม่มีการผสมพันธุ์หมีแพนด้าทั้งคู่เกิดขึ้นในปีนี้ เนื่องจากเวลานี้ที่ย่างเข้าสู่ช่วงกลางเดือนมิถุนายนหมดช่วงฤดูผสมพันธุ์ตามปกติของหมีแพนด้าแล้ว แต่ “หลินฮุ่ย” ยังไม่เป็นสัดแต่อย่างใด แม้ว่าจะมีการกระตุ้นด้วยวิธีการต่างๆ แล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม จะยังคงมีการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของหมีแพนด้าทั้งคู่ โดยเฉพาะ “หลินฮุ่ย” อย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมการผสมพันธุ์ต่อไป แต่จะไม่มีการกระตุ้นใดๆ เป็นพิเศษ เพราะตามข้อมูลที่มีการบันทึกไว้พบว่าเคยมีหมีแพนด้าตัวเมียในประเทศจีนที่เป็นสัดและผสมพันธุ์ในช่วงเดือนกันยายน
ดังนั้น จึงมีการเตรียมความพร้อมไว้เผื่อบางที “หลินฮุ่ย” อาจจะเป็นสัดช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์ตามปกติบ้าง โดยหาก “หลินฮุ่ย” เป็นสัดขึ้นมาจริงๆ ทางทีมงานก็พร้อมที่จะผสมพันธุ์ทันที ทั้งการผสมตามธรรมชาติและผสมเทียม แต่ทั้งนี้ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น นอกจากปาฏิหาริย์เท่านั้น
สำหรับการที่ “หลินฮุ่ย” ไม่เป็นสัดและไม่ได้ผสมพันธุ์ในปีนี้นั้น หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า ไม่ได้ถือว่าเป็นสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด เพราะตามการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับหมีแพนด้าทั้งในประเทศจีน และที่มีการนำไปจัดแสดงในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ก็เคยพบหมีแพนด้าตัวเมียที่ไม่เป็นสัดเช่นกัน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการตั้งท้องเทียม ทำให้หมีแพนด้าตัวเมียอาจจะไม่เป็นสัดได้ทุก 3-4 ปี อย่างไรก็ตามในกรณีของ “หลินฮุ่ย” นี้ จะต้องมีการศึกษาวิเคราะห์อย่างละเอียดอีกครั้งว่าไม่เป็นสัดเนื่องมาจากสาเหตุใดแน่
นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางทีมงานสัตว์แพทย์ที่ดูแลและเตรียมพร้อมการผสมพันธุ์หมีแพนด้า “ช่วงช่วง” ตัวผู้ และ “หลินฮุ่ย” ตัวเมีย ได้ยอมรับสภาพแล้วว่าคงจะไม่มีการผสมพันธุ์หมีแพนด้าทั้งคู่เกิดขึ้นในปีนี้ เนื่องจากเวลานี้ที่ย่างเข้าสู่ช่วงกลางเดือนมิถุนายนหมดช่วงฤดูผสมพันธุ์ตามปกติของหมีแพนด้าแล้ว แต่ “หลินฮุ่ย” ยังไม่เป็นสัดแต่อย่างใด แม้ว่าจะมีการกระตุ้นด้วยวิธีการต่างๆ แล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม จะยังคงมีการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของหมีแพนด้าทั้งคู่ โดยเฉพาะ “หลินฮุ่ย” อย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมการผสมพันธุ์ต่อไป แต่จะไม่มีการกระตุ้นใดๆ เป็นพิเศษ เพราะตามข้อมูลที่มีการบันทึกไว้พบว่าเคยมีหมีแพนด้าตัวเมียในประเทศจีนที่เป็นสัดและผสมพันธุ์ในช่วงเดือนกันยายน
ดังนั้น จึงมีการเตรียมความพร้อมไว้เผื่อบางที “หลินฮุ่ย” อาจจะเป็นสัดช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์ตามปกติบ้าง โดยหาก “หลินฮุ่ย” เป็นสัดขึ้นมาจริงๆ ทางทีมงานก็พร้อมที่จะผสมพันธุ์ทันที ทั้งการผสมตามธรรมชาติและผสมเทียม แต่ทั้งนี้ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น นอกจากปาฏิหาริย์เท่านั้น
สำหรับการที่ “หลินฮุ่ย” ไม่เป็นสัดและไม่ได้ผสมพันธุ์ในปีนี้นั้น หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า ไม่ได้ถือว่าเป็นสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด เพราะตามการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับหมีแพนด้าทั้งในประเทศจีน และที่มีการนำไปจัดแสดงในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ก็เคยพบหมีแพนด้าตัวเมียที่ไม่เป็นสัดเช่นกัน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการตั้งท้องเทียม ทำให้หมีแพนด้าตัวเมียอาจจะไม่เป็นสัดได้ทุก 3-4 ปี อย่างไรก็ตามในกรณีของ “หลินฮุ่ย” นี้ จะต้องมีการศึกษาวิเคราะห์อย่างละเอียดอีกครั้งว่าไม่เป็นสัดเนื่องมาจากสาเหตุใดแน่
