ตาก - กลุ่มผู้ประกอบการค้าส่งผักกาดขาว-กะหล่ำปลี เมืองตากร้องผู้ว่าฯ ช่วยแก้ปัญหาผักลาวทะลัก ทำให้ราคาตกต่ำเหลือแค่โลละบาท จากเดิมที่มีราคาสูงถึง 7-8 บาท/กก. พร้อมย้ำไม่ต้องให้รัฐจัดงบช่วย แต่ขอเพียงจำกัดการนำเข้าผัก-ผลไม้จากเพื่อนบ้านเป็นใช้ได้ ขู่หากไม่ได้รับการตอบสนองภายใน 7 วัน เดินหน้าประสานเครือข่ายเกษตรกร-ผู้ค้า 7 จังหวัดภาคเหนือรวมพลประท้วงใหญ่ที่กรุงเทพฯแน่นอน
รายงานข่าวจากจังหวัดตากแจ้งว่า นายเนิน สุขจิตร ประธานกลุ่มผู้ปลูกผักชาวอำเภอพบพระ พร้อมด้วยเครือข่ายผู้ประกอบการค้าส่งกะหล่ำปลี และผักกาดขาวปลี ในพื้นที่กว่า 10 คนได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนนายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เมื่อเย็นวันที่ 11 มิ.ย.51 ที่ผ่านมา เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากผลกระทบการนำเข้ากะหล่ำปลี และผักกาดขาวปลี จากสปป.ลาว ทางด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ที่มีมากกว่า 250 ตันต่อวัน ส่งผลทำให้ผลผลิตผักดังกล่าวภายในประเทศไทยขายไม่ได้ราคา เกษตรกรผู้ผลิตประสบปัญหาเดือดร้อนเพราะราคาตกต่ำเหลือประมาณ กก.ละ 1 บาท
ทั้งนี้ พื้นที่เพาะปลูกกะหล่ำปลี และผักกาดขาวปลีมากที่สุดของจังหวัดตาก อยู่ในพื้นที่ อ.พบพระ มีเกษตรกรประกอบอาชีพจำนวนกว่า 283 ราย เนื้อที่เพาะปลูก 8,720 ไร่ ซึ่งผลผลิตอยู่ในช่วงรอการเก็บเกี่ยวขายส่งยังตลาดในภาคกลาง และภาคใต้
นายบุญเลิศ วงศ์สุวรรณ์ อายุ 41 ปี ผู้ประกอบการค้าส่งกะหล่ำปลี และผักกาดขาวปลี เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการค้าส่งจำเป็นต้องยื่นหนังสือร้องเรียนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตากเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาขาดทุนตามมาภายหลัง รวมถึงเกษตรกรชาวจังหวัดเชียงใหม่ เพชรบูรณ์ เชียงราย แพร่ พะเยา
โดยราคาขายส่งก่อนหน้านี้ที่ตลาดสี่มุมเมืองจำหน่วยราคา กก.ละ 7-8 บาท แต่ขณะนี้มีราคาต่ำต่ำเหลือเพียง กก.ละ 1-2 บาท ขณะที่ต้นทุนต่อไร่อยู่ที่ 20,000-23,000 บาท แต่สามารถขายผลผลิตได้ไร่ละ 6,000-7,000 บาท นับว่าเป็นช่วงที่มีราคาตกต่ำที่สุดในรอบ 40 ปี
นายบุญเลิศ ย้ำว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่จำเป็นที่จะต้องให้รัฐบาลเข้ามาช่วยในเรื่องการประกันราคา หรือจัดงบประมาณเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด หากแก้ไขปัญหาการนำเข้าผลผลิตจากลาวให้ในวงจำกัด ไม่ให้กระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ ก็จะสามารถช่วยเหลือเกษตรกร และผู้ประกอบการค้าส่งได้
ทั้งนี้ นายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไว้แล้วและรับปากว่าจะเรียกประชุมพาณิชย์จังหวัดในวันรุ่งขึ้น (12 มิ.ย.) พร้อมทั้งประสานไปยังจังหวัดที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ประสานเครือข่ายเกษตรกรกลุ่มผู้ปลูกกะหล่ำปลี และผักกาดขาวปลี รวมทั้งผู้ประกอบการค้าส่งในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จ.ตาก, เชียงใหม่, เพชรบูรณ์, เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, แพร่ และพะเยา เตรียมเคลื่อนพลเข้ากรุงเทพฯ หากไม่ได้รับคำตอบภายใน 7 วัน
