กรมการค้าภายในลุยตรวจจับกระเทียมลักลอบนำเข้าที่นครปฐม เผยช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาอายัดกระเทียมลักลอบได้หลายสิบตัน คาดทั่วประเทศมีกว่า 300,000 ตัน โดยส่วนใหญ่จะผ่านจากจีนไปทางมาเลเซียในราคาถูกกว่าต้นทุน
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน นำคณะตรวจจับพ่อค้าลักลอบนำเข้ากระเทียมจากจีนมาขายในราคาถูกกว่าต้นทุนที่บริเวณตลาดตั้งเซียฮวดเอื้ออาทร จังหวัดนครปฐม โดยเจ้าหน้าที่ได้อายัดกระเทียมดังกล่าวไว้จำนวน 400 กิโลกรัม พร้อมกล่าวว่า จากที่ได้รับรายงานทราบว่า จนถึงปัจจุบันมีการลักลอบนำเข้ากระเทียมจากจีนโดยผ่านทางมาเลเซียแล้วกว่า 300,000 ตัน และมีการนำไปกระจายในตลาดสดต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะตลาดใหญ่ เช่น ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง
ทั้งนี้ จากสถิติมีการนำเข้ากระเทียมและสำแดงอย่างถูกต้องในปีที่ผ่านมา จำนวน 14,000 ตันเท่านั้น และตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้อายัดกระเทียมลักลอบนำเข้าไปแล้ว 4.22 ตัน และมีนาคม 14.65 ตัน ส่วนตั้งแต่วันที่ 1-8 เมษายน 2551 กรมการค้าภายในอายัดกระเทียมลักลอบนำเข้าเพิ่มเติมอีก 20.5 ตัน ส่วนกระเทียมลักลอบส่วนใหญ่ขายส่งต่ำกว่าต้นทุน โดยต้นทุนน่าจะอยู่ระดับ 20 บาทต่อกิโลกรัม แต่ตลาดมีการขายส่งเฉลี่ย 12-15 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้กระเทียมภายในประเทศที่ออกสู่ตลาดปีละ 80,000 ตัน ซึ่งมีต้นทุนเฉลี่ยที่ 25-30 บาทต่อกิโลกรัม ไม่สามารถจำหน่ายได้ สร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรผู้ปลูก ซึ่งตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ การขายสินค้าราคาต่ำกว่า ต้นทุนเข้าข่ายความผิด จำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวอีกว่า ปริมาณกระเทียมที่ลักลอบนำเข้าบรรจุหีบห่อยังมีปริมาณไม่ครบ โดยขนาด10 กิโลกรัม เหลือเพียง 8 กิโลกรัมเท่านั้น และผู้ที่ลักลอบนำเข้าจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายศุลกากร มีโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาสินค้า นอกจากนี้ กระเทียมนำเข้ายังมีสารตกค้างมาก ทางกรมวิชาการเกษตรจะนำไปตรวจสารตกค้างและเอาผิดผู้ลักลอบนำเข้าอีกครั้ง จึงขอเตือนผู้ลักลอบนำเข้ากระเทียมจากต่างประเทศว่า จะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด เพราะขณะนี้ทุกส่วนราชการได้กวดขันและออกตรวจสอบทุกตลาด โดยเน้นตลาดค้าส่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน นำคณะตรวจจับพ่อค้าลักลอบนำเข้ากระเทียมจากจีนมาขายในราคาถูกกว่าต้นทุนที่บริเวณตลาดตั้งเซียฮวดเอื้ออาทร จังหวัดนครปฐม โดยเจ้าหน้าที่ได้อายัดกระเทียมดังกล่าวไว้จำนวน 400 กิโลกรัม พร้อมกล่าวว่า จากที่ได้รับรายงานทราบว่า จนถึงปัจจุบันมีการลักลอบนำเข้ากระเทียมจากจีนโดยผ่านทางมาเลเซียแล้วกว่า 300,000 ตัน และมีการนำไปกระจายในตลาดสดต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะตลาดใหญ่ เช่น ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง
ทั้งนี้ จากสถิติมีการนำเข้ากระเทียมและสำแดงอย่างถูกต้องในปีที่ผ่านมา จำนวน 14,000 ตันเท่านั้น และตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้อายัดกระเทียมลักลอบนำเข้าไปแล้ว 4.22 ตัน และมีนาคม 14.65 ตัน ส่วนตั้งแต่วันที่ 1-8 เมษายน 2551 กรมการค้าภายในอายัดกระเทียมลักลอบนำเข้าเพิ่มเติมอีก 20.5 ตัน ส่วนกระเทียมลักลอบส่วนใหญ่ขายส่งต่ำกว่าต้นทุน โดยต้นทุนน่าจะอยู่ระดับ 20 บาทต่อกิโลกรัม แต่ตลาดมีการขายส่งเฉลี่ย 12-15 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้กระเทียมภายในประเทศที่ออกสู่ตลาดปีละ 80,000 ตัน ซึ่งมีต้นทุนเฉลี่ยที่ 25-30 บาทต่อกิโลกรัม ไม่สามารถจำหน่ายได้ สร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรผู้ปลูก ซึ่งตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ การขายสินค้าราคาต่ำกว่า ต้นทุนเข้าข่ายความผิด จำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวอีกว่า ปริมาณกระเทียมที่ลักลอบนำเข้าบรรจุหีบห่อยังมีปริมาณไม่ครบ โดยขนาด10 กิโลกรัม เหลือเพียง 8 กิโลกรัมเท่านั้น และผู้ที่ลักลอบนำเข้าจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายศุลกากร มีโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาสินค้า นอกจากนี้ กระเทียมนำเข้ายังมีสารตกค้างมาก ทางกรมวิชาการเกษตรจะนำไปตรวจสารตกค้างและเอาผิดผู้ลักลอบนำเข้าอีกครั้ง จึงขอเตือนผู้ลักลอบนำเข้ากระเทียมจากต่างประเทศว่า จะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด เพราะขณะนี้ทุกส่วนราชการได้กวดขันและออกตรวจสอบทุกตลาด โดยเน้นตลาดค้าส่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด