พิษณุโลก – พาณิชย์สองแควเพิ่งตื่นแผนปั้นตลาดกลางค้าส่งพืชผัก-ผลไม้ รองรับ “สี่แยกอินโดจีน” หลัง 2 ปีก่อนทุ่มงบศึกษาแนวทางการพัฒนามาแล้ว แต่ ณ วันนี้ ทำได้แค่แนะภาคเอกชนเจ้าของ “ตลาดไทยเจริญ” สร้างร้านโอทอป และขอตู้เอทีเอ็มจากแบงค์กรุงไทยไปพลางๆ ก่อน พร้อมขอเน็ทความเร็วสู่ให้พ่อค้ารถผักใช้บริการ
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และ น.ส.พัชรี พงษ์พิทักษ์ พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก และคณะกรรมศูนย์ค้าส่งพืชผักและผลไม้สี่แยกอินโดจีน ได้เดินทางไปยังสำนักงานตลาดค้าส่งผลไม้ไทยเจริญ ต.ดอนทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ริมถนนสายพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ เพื่อตรวจดูความคืบหน้า หลังจากที่งบประมาณปี 2549 ได้ว่าจ้างศึกษาวางระบบศูนย์ค้าส่งพืชผักและมลไม้ภาคเหนือตอนล่างด้วยวงเงิน 1.9 ล้านบาท
น.ส.พัชรี พงษ์พิทักษ์ พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า เป็นการติดตามความคืบหน้าของตลาดไทยหลังจากที่ได้ศึกษา ว่า มีความเหมาะสมให้การเป็นศูนย์กระจายสินค้าผลไม้และพืชผลทางการเกษตร ซึ่งจะได้ประสานกับเจ้าของตลาดไทยเปิดสถานที่ด้านหน้าไว้สำหรับจอดรถกว้างขึ้น 200 เมตร และควรสร้างซุ้มร้านค้าสินค้าโอทอป บริเวณด้านหน้าตลาดไทย เพื่อทำเป็นจุดแวะของนักท่องเที่ยว เพราะจะมีนักท่องเที่ยวจากภาคเหนือจำนวนมากผ่านไปยังภาคกลางและภาคอีสาน พร้อมกับจะได้ติดต่อธนาคารกรุงไทยเพื่อนำตู้เอทีเอ็ม 2 ตู้ มาให้บริหารทางการเงิน เพื่อความสะดวกของนักนักท่องเที่ยว พร้อม tot วางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้บริการ
โดยตามข้อมูลที่ศึกษาวิจัย ของ ม.หอการค้าไทย ระบุว่า ตลาดค้าส่งผลไม้ไทยเจริญ ผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าเกษตร ผลการศึกษาพบว่า เป็นพื้นที่เหมาะสมพัฒนา ห่างจากจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 และหมายเลข 12 อีกจุดไม่มากนัก ควรขยายตลาดเดิมของเอกชน ส่วนทุกวันนี้ก็ มีภาคเอกชนลงทุนอยู่แล้วแต่ต่างคนต่างทำ
ทั้งนี้ ปีงบประมาณ 2549 กระทรวงพาณิชย์ได้อนุมัติงบประมาณเกือบ 2 ล้านบาท ให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก นำไปว่าจ้างให้สถาบันการศึกษาดำเนินการศึกษาวางระบบศูนย์ค้าส่งพืชผักและผลไม้ภาคเหนือตอนล่าง เพื่อพัฒนาให้จังหวัดพิษณุโลกเป็นศูนย์กลางการกระจายพืชผักและผลไม้ในเขตภาคเหนือตอนล่างแหล่งใหญ่ให้เป็นรูปธรรม เพราะที่ผ่านมา มีภาคเอกชนลงทุนสร้างตลาดกลางค้าส่งผักและผลไม้บ้างแล้วหลายราย แต่กระจายกัน ต่างแยกกันบริหาร ทำให้การค้าส่งไม่เติบโตเท่าที่ควร
จึงได้ออกแบบโครงสร้างก่อนที่จะผลักดันเสนอของบประมาณก่อสร้างต่อไป โดยทีมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยวิจัยได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งตลาดกลางผักและผลไม้จังหวัดพิษณุโลกและออกแบบระบบบริหารจัดการศูนย์กระจายสินค้าสี่แยกอินโดจีน
เบื้องต้นผลการศึกษา ระบุว่า ที่ ต.ดอนทอง ตลาดไทยเจริญ เป็นตลาดกลางขายส่งจึงถือว่าเป็นตลาดที่สำคัญของพิษณุโลกทำหน้าที่รวบรวมและตลาดกระจายผลผลิต ประเภทผักและผลไม้ แต่มีข้อจำกัด คือ สินค้าบอบช้ำและเน่าเสียง่าย แต่อนาคตมีโอกาสขยายตลาดจากบริโภคภายในประเทศสู่การส่งออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ วันนี้ ตลาดค้าส่งผลไม้ไทยเจริญ เป็นแหล่งรับสินค้าเกษตรทางด้านผลไม้จากภาคเหนือตอนบนมากระจายไปยังตลาดภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอีกทางหนึ่งรับสินค้าผักและผลไม้ของภาคเหนือตอนบ่างกระจายสู่ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ด้วยเหตุสถานที่เหมาะสมกลายเป็นตลาดกลางผักและผลไม้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี
อยู่ใกล้จุดตัดบริเวณทางหลวงหมายเลข 11 และถนนหมายเลข 12 ในเขตตำบลสมอแข อำเภอเมือง หรือสี่แยกอินโดจีน และตลาดไทยเจริญ ตำบลดอนทอง มีที่ดินมากกว่า 100 ไร่ เป็นผืนเดียวกัน ที่สำคัญเจ้าของที่ดินเป็นคนพิษณุโลก ก็มีความพร้อมลงทุนและพัฒนาตลาดให้เหมือนตลาดไท ที่รังสิต ปทุมธานี หัวเมืองตอนเหนือของกรุงเทพฯ ณ วันนี้ บรรดารถกระบะและ 6 ล้อจำนวนมากก็แวะเวียน นำสินค้าประเภททุเรียน เงาะ ฯลฯ กระจายไปยังภาคเหนือ และพ่อค้าผลไม้จากภาคเหนือก็วิ่งล่องเข้ากรุงเทพฯและภาคอีสานกันอย่างคึกคักอยู่แล้ว
