พะเยา – ชาวนาเริ่มวางเครือข่ายเพิ่มอำนาจต่อรองกับรัฐ หลังเจอวิกฤตราคาข้าวซ้ำซาก จากปีกลายที่ต้องเรียกร้องค่าชดเชยจากรัฐจนถึงวันนี้ยังไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว ส่วนปีนี้ต้องเจอกับปัญหาราคาตกอีก จำต้องเร่งหาทางรวมกลุ่มต่อสู้ ด้านผู้บริหาร อปท.ย้ำต้องรวมกลุ่มเป็นสหกรณ์ต่อรองอำนาจรัฐและพ่อค้า
นายบุญสืบ บัวตูม แกนนำกลุ่มเกษตรกรทำนา อ.จุน และ อ.เชียงคำ จ.พะเยา กล่าวว่า ภายหลังที่ได้เกิดปัญหาราคาข้าวตกต่ำเมื่อปีการผลิต 2549/50 ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้กลุ่มชาวนาใน อ.จุน และ อ.เชียงคำ ต้องรวมตัวกันเรียกร้องขอความเป็นธรรมด้านค่าชดเชยจากรัฐบาลที่ผ่านมาแล้วนั้น
ปรากฏว่า จนถึงบัดนี้เงินค่าชดเชยที่คงค้างอีกประมาณ 2.7 ล้าน เกษตรกรยังไม่ได้รับ และปีนี้ราคาข้าวเปลือกข้าวเหนียวนาปรังก็ราคาตกอีกรอบ ทำให้เกิดการติดต่อของกลุ่มเกษตรกรทำนาในพื้นที่ อ.แม่ใจ อ.ดอกคำใต้ ต้องการเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อสร้างเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรทำนาจังหวัดพะเยาขึ้น สร้างอำนาจต่อรองกับภาครัฐในปีการผลิตต่อไปถึงอนาคตด้วย
เพราะหากเกษตรกรทำนาไม่รวมกลุ่มต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมด้วยตนเองแล้ว คงจะหาคนที่มาร่วมต่อสู้ให้ยาก จึงจำเป็นต้องรวมกลุ่มกันสร้างอำนาจต่อรอง คงจะไม่สามารถรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลชุดใดชุดหนึ่งได้อีกต่อไป
นอกจากนี้ ทางเครือข่ายยังมีแนวคิดเสนอไปยังรัฐบาลให้มีการใช้ข้าวเป็นอำนาจต่อรองกับกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน เพื่อให้เกิดการลดราคาน้ำมันดิบลง ซึ่งคิดว่ากลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางไม่สามารถผลิตข้าวรับประทานได้ ต้องสั่งซื้อข้าวจากประเทศไทย จึงต้องใช้ข้าวแลกน้ำมัน
นายสุรพล เต็มสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา กล่าวเสริมว่า ทางออกของการสร้างอำนาจต่อรองกับรัฐบาลเรื่องผลผลิตการเกษตร นอกจากสร้างเครือข่ายของกลุ่มเกษตรกรแต่ละอาชีพแล้ว ควรจะมีการจับกลุ่มกันจัดตั้งเป็นระบบสหกรณ์การเกษตร เนื่องจากกรมสหกรณ์มีงบประมาณสนับสนุนให้กับสหกรณ์ต่างๆ ทั่วประเทศ
ดังนั้น การจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรต่างๆ เป็นสหกรณ์ที่เข้มแข็ง ไม่เพียงใช้ต่อรองอำนาจรัฐได้เท่านั้น ยังจะสามารถได้รับการจัดสรรงบประมาณมาให้บริหารสหกรณ์ให้ช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ได้ในระยะยาวด้วย
นายบุญสืบ บัวตูม แกนนำกลุ่มเกษตรกรทำนา อ.จุน และ อ.เชียงคำ จ.พะเยา กล่าวว่า ภายหลังที่ได้เกิดปัญหาราคาข้าวตกต่ำเมื่อปีการผลิต 2549/50 ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้กลุ่มชาวนาใน อ.จุน และ อ.เชียงคำ ต้องรวมตัวกันเรียกร้องขอความเป็นธรรมด้านค่าชดเชยจากรัฐบาลที่ผ่านมาแล้วนั้น
ปรากฏว่า จนถึงบัดนี้เงินค่าชดเชยที่คงค้างอีกประมาณ 2.7 ล้าน เกษตรกรยังไม่ได้รับ และปีนี้ราคาข้าวเปลือกข้าวเหนียวนาปรังก็ราคาตกอีกรอบ ทำให้เกิดการติดต่อของกลุ่มเกษตรกรทำนาในพื้นที่ อ.แม่ใจ อ.ดอกคำใต้ ต้องการเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อสร้างเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรทำนาจังหวัดพะเยาขึ้น สร้างอำนาจต่อรองกับภาครัฐในปีการผลิตต่อไปถึงอนาคตด้วย
เพราะหากเกษตรกรทำนาไม่รวมกลุ่มต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมด้วยตนเองแล้ว คงจะหาคนที่มาร่วมต่อสู้ให้ยาก จึงจำเป็นต้องรวมกลุ่มกันสร้างอำนาจต่อรอง คงจะไม่สามารถรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลชุดใดชุดหนึ่งได้อีกต่อไป
นอกจากนี้ ทางเครือข่ายยังมีแนวคิดเสนอไปยังรัฐบาลให้มีการใช้ข้าวเป็นอำนาจต่อรองกับกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน เพื่อให้เกิดการลดราคาน้ำมันดิบลง ซึ่งคิดว่ากลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางไม่สามารถผลิตข้าวรับประทานได้ ต้องสั่งซื้อข้าวจากประเทศไทย จึงต้องใช้ข้าวแลกน้ำมัน
นายสุรพล เต็มสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา กล่าวเสริมว่า ทางออกของการสร้างอำนาจต่อรองกับรัฐบาลเรื่องผลผลิตการเกษตร นอกจากสร้างเครือข่ายของกลุ่มเกษตรกรแต่ละอาชีพแล้ว ควรจะมีการจับกลุ่มกันจัดตั้งเป็นระบบสหกรณ์การเกษตร เนื่องจากกรมสหกรณ์มีงบประมาณสนับสนุนให้กับสหกรณ์ต่างๆ ทั่วประเทศ
ดังนั้น การจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรต่างๆ เป็นสหกรณ์ที่เข้มแข็ง ไม่เพียงใช้ต่อรองอำนาจรัฐได้เท่านั้น ยังจะสามารถได้รับการจัดสรรงบประมาณมาให้บริหารสหกรณ์ให้ช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ได้ในระยะยาวด้วย