พิจิตร - ชาวนาพิจิตรครวญข้าวยากหมากแพง จี้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องด่วน หยุดคิดแก้รัฐธรรมนูญ หวั่นราคาข้าวตกต่ำ บ้านเมืองวิกฤติ แถมทำนาปีนี้ไร้ความหวัง หลังข้าวสารแพง น้ำมันขึ้นรายวัน เจ้าของนาปรับขึ้นค่าเช่า ชี้หากราคาข้าวลดมีหวังน้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่ เตรียมรวมกลุ่มต้านนายทุนต่างชาติมาลงทุนทำนา เชื่อส่งผลกระทบชาวนาไทยกลายเป็นแค่ลูกจ้างรายวันเท่านั้น
นายสังเวียน สุภาษิต อายุ 69 ปี ชาวนาบ้านตากแดด ต.วังทรายพูน อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ราคาข้าวปรับราคาสูงขึ้นมาก จนชาวนาเองก็ไม่เคยคาดคิดว่าจะสูงขึ้นได้มากขนาดนั้น แต่แม้ราคาข้าวเปลือกจะมีราคาดีอย่างไร ตนเองและเพื่อนชาวนาในเขต อ.วังทรายพูน ก็ไม่มีข้าวเปลือกที่จะขายให้แก่พ่อค้า เพราะเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน ทำได้แต่นาปีเท่านั้น แต่ต้องได้รับผลกระทบด้วยการที่ต้องซื้อข้าวสารมาบริโภคในราคาแพง
นอกจากนี้ น้ำมันเชื้อเพลิงก็ปรับราคาขึ้นสัปดาห์หนึ่งหลายครั้ง ทำให้ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ตนเองต้องไถที่นาจำนวน 50 ไร่ เพื่อทำนาปี เพราะรอน้ำฝนธรรมชาติ ที่ใช้เพื่อหว่านข้าว ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งราคาข้าวปลูกที่ต้องใช้ไร่ละ 1 พันบาท ในขณะเดียวกันเจ้าของที่นาเห็นข้าวเปลือกราคาดี ก็จะปรับค่าเช่านาจากไร่ 600 บาทต่อปี เป็น 800 บาท อีกทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงและปุ๋ยก็ปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ขณะนี้ชาวนาเดือดร้อนมาก
ส่วนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะชักชวนให้เศรษฐีจากประเทศซาอุดิอาระเบียเข้ามาลงทุนทำนาในประเทศไทยนั้น ตนเองในฐานะที่เป็นชาวนาเจ้าของประเทศขอคัดค้านและไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาชีพทำนา ต้องสงวนไว้ให้กับคนไทย ไม่อย่างนั้นต่อไปคนไทยก็จะเป็นแค่ลูกจ้างรายวันของชาวต่างชาติเท่านั้น แต่กลไกทางการเกษตรจะถูกควบคุมโดยนายทุนต่างชาติ
จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลนำเงิน 2 พันล้านที่จะใช้ลงประชามติเอามาเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องที่สำคัญกว่าการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะข้าวยากหมากแพงแบบนี้ ระหว่างให้เลือกลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญกับลงมติแก้ไขปัญหาปากท้อง ชาวบ้านต้องเลือกแก้ไขปัญหาปากท้องมากกว่า ดังนั้นจึงเชื่อว่าถ้าเปิดให้ลงประชามติ ประชาชนคงไม่สนใจเรื่องรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน