ม็อบชาวนากาฬสินธุ์ประท้วงโรงสีกดราคา ลั่นขอพบ “เจ๊มิ่ง” เอาผิด

กาฬสินธุ์ -ชาวนาสุดทน เทข้าวเปลือกประจานโรงสีกาฬสินธุ์ฮั้วราคาทำข้าวเปลือกตกต่ำที่สุดในประเทศ แฉรับซื้อเพียงตันละ 6,000 บาท แต่สร้างผลกำไรมหาศาล ด้านผู้ว่าฯเตรียมเสนอต่อกระทรวงพาณิชย์ เปิดพื้นที่ค้าเสรีให้กับชาวนากาฬสินธุ์ ขณะที่แกนนำชาวนายังไม่พอใจ เตรียมเคลื่อนไหวใหญ่กดดันของพบ"เจ๊มิ่ง"เอาผิดนายทุน

วันนี้ (6 พ.ค.) เวลา 09.00 น.ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสำรอง โพธิ์ซก ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตยคนอีสาน พร้อมด้วยตัวแทนชาวนากาฬสินธุ์ จำนวน 100 คน เดินทางเข้ามาปักหลักชุมนุมประท้วง และเรียกร้องผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ถึงรัฐบาล ให้เข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกที่ตกต่ำ

ทั้งนี้ เนื่องจากผลการรับซื้อข้าวเปลือกในฤดูการผลิต 2551 โรงสีทุกแห่งในจังหวัด ทำการรับซื้อข้าวเปลือกเพียงตันละ 6,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สวนทางกับรัฐบาลที่ได้ตั้งราคาซื้อขายข้าวเปลือกในปีนี้ไว้สูงถึงตันละ 17,000 บาท ในการรับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ ขณะที่ราคาข้าวเปลือกเหนียวจะรับซื้อสูงถึงตันละ 12,000 บาท ที่ถือว่าราคาดังกล่าวมีราคาที่ต่ำที่สุดในประเทศ

จนทำให้เกษตรกรประสบกับปัญหาความเดือดร้อนจากปัญหาราคาตกต่ำ กระทบต่อค่าครองชีพ จนทำให้ชาวนาต้องนำข้าวเปลือกไปขายยังต่างจังหวัดที่ให้ราคาที่ดีกว่า จนทำให้เชื่อว่าราคาที่ตกต่ำเกิดจากปัญหา นายทุน และโรงสีรวมตัวกันกำหนดราคาอย่างไม่เป็นธรรม

บรรยากาศการชุมนุม บรรดาแกนนำรวมถึงชาวนาได้ผลัดกันขึ้นปราศรัยโจมตีการทำงานของการค้าภายในจังหวัดกาฬสินธุ์ กับกลโกงทุจริตจากโรงสีและตลาดกลางข้าวรวมถึงนายทุน ที่กำหนดราคาให้ต่ำจนได้มีการเทข้าเปลือกประจาน

ล่าสุดมีรายงานว่า การรับซื้อข้าวจากโรงสีขณะนี้ โรงสีใหญ่ยังได้ปิดการรับซื้อข้าวเปลือกชาวนา โดยอ้างถึงผลผลิตที่ล้นตลาด แต่ในขณะนี้พบว่า โรงสีรายเล็กรวมถึงโรงสีขนาดกลาง กลับทำการรับซื้อเปลือกแทน ซ้ำยังได้ปั่นราคาให้รับซื้อข้าวเปลือกที่มีราคาต่ำเพียงตันละ 5,000 บาท

นายสำรอง โพธิ์ซก ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตยคนอีสาน ยังระบุว่า การรับซื้อล่าสุดถือว่าโรงสีในจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ร่วมกันฮั้วราคาซื้อขายข้าวเปลือกอย่างชัดเจน ซึ่งในขณะนี้โรงสีใหญ่ได้ปิดการรับซื้อโดยอ้างว่าข้าวล้นตลาด แต่ในทางกลับกันโรงสีรายย่อยกลับเปิดรับซื้ออย่างน่าตกใจ เนื่องจากสิ่งที่ผิดปกติ

สำหรับการรับซื้อในลักษณะข้าวเกี่ยวสดนาปรังทุกชนิด โรงสีรายย่อยจะไม่สามารถรับซื้อได้เพราะจะต้องใช้กำลังในการอบข้าวเพื่อป้องกันปัญหาข้าวขึ้นรา ที่โรงสีรายย่อยจะต้องส่งข้าวไปอบที่โรงสีใหญ่เท่านั้น

ดังนั้น จึงถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ซึ่งสำหรับข้อเรียกร้องนั้นจึงต้องการให้ นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้ามาแก้ไขปัญหา โดยให้ การค้าภายในจังหวัด ได้ออกมาชี้แจงปัญหาราคาข้าวตกต่ำ และชี้แจงวิธีการหักค่าความชื้น อีกทั้งให้ทางจังหวัด ได้ทบทวนรายชื่อเกษตรกรที่ไปขายข้าวให้กับทางโรงสี เพื่อคืนเงินให้กับเกษตรกร

ต่อมาระหว่างการชุมนุม เจ้าหน้าที่จากจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เชิญกลุ่มตัวแทนเกษตรกรจำนวน 10 คนนำโดย นายสำรอง โพธิ์ซก ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตยคนอีสาน เข้าพบเพื่อรับฟังปัญหา โดยมี นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธาน การค้าภายในจังหวัดและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

การประชุมตัวแทนเกษตรกร ได้ทำการซักถามถึงปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำ พร้อมกับได้นำเสนอปัญหาข้อเรียกร้องเป็น 5 ประเด็น คือ 1.ให้ทำการเปิดการค้าเสรีในพื้นที่เพื่อให้เกิดการแข่งขัน 2.ให้ชี้แจงกรณีหักค่าความชื้นที่ไม่เป็นธรรม 3.ให้ตรวจสอบปัญหาการฮั้วราคาระหว่างโรงสีและตลาดกลาง 4.ให้การค้าภายในชี้แจงปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำรวมไปถึงจำนวนข้าวที่โรงสีรับซื้อไปแล้วว่าไปอยู่ที่ไหน 5.ให้ทบทวนระบบการซื้อขายที่ต้องการให้โรงสี ที่รับซื้อจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรที่ขายข้าวขาดทุนอย่างไม่เป็นธรรม

นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในข้อเรียกร้องที่เสนอมา จังหวัดมีหน้าที่ในการพิจารณาและส่งสารไปยัง ส่วนกลางโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ ที่สามารถดำเนินการได้เพียง 2 กรณี คือ กระบวนการชี้แจงวิธีการหักค่าความชื้น ของโรงสีกับแนวทางการแก้ไข โดยจะเสนอเรื่องในการแก้ไขปัญหาไปยังกระทรวงพาณิชย์

ทั้งนี้ เพื่อขออนุญาตให้โรงสีข้าวในต่างจังหวัด ที่สนใจเข้ามารับซื้อข้าวเปลือกของเกษตรกรในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้เกิดการแข่งขันในการรับซื้อข้าวเปลือก และเกษตรกรมีทางเลือกในการขายข้าวเปลือก หรือเลือกขายแบบเสรี ซึ่งจะทำให้ราคาข้าวสูงขึ้นและป้องกันการกดราคาของโรงสีในพื้นที่

ส่วนข้อเรียกร้องของเกษตรกร ที่ต้องการให้ทางรัฐบาลประกันราคาข้าวเปลือกเหนียวตันละ 9,000 บาท ข้าวเปลือกมะลิตันละ 12,000 บาทนั้น ทางจังหวัดจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอไปยังส่วนกลาง เพื่อพิจารณาในการให้ความช่วยเหลือต่อไป

นายสำรอง กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้องที่ทางจังหวัดรับไป ยังไม่เป็นที่พอใจต่อเกษตรกร เพราะในขณะนี้ส่วนต่างจากการค้าข้าวที่เอาเปรียบเกษตรกรได้ไปสร้างผลกำไรอย่างมหาศาลให้กับนายทุนไปแล้ว การประชุมดังกล่าวจึงไม่เป็นผลอะไร แต่เนื่องจากมีการเจรจาและรับทราบปัญหาก็ถือว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ได้รับรู้ปัญหาอย่างแท้จริงแล้ว

แต่จังหวัดไม่สามารถจะดำเนินการแก้ไขปัญหาใดๆ ได้ ชาวนาจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงมีมติที่จะทำการเคลื่อนไหวให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาต่อไป ส่วนที่จะดำเนินการเช่นใดต่อไปนั้นสิ่งที่ต้องการที่สุด ก็ต้องการให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงมารับทราบปัญหาแล้วดำเนินการเอาผิดกับการฮั้วราคาข้าวเปลือก ซึ่งเป็นไปได้ ควรที่จะให้บทเรียนด้วยการ ไม่รับซื้อข้าวจาก กลุ่มนายทุนที่มีพฤติกรรมฉ้อโกงข้าวเปลือกชาวนาด้วย