ศูนย์ข่าวศรีราชา- จังหวัดชลบุรี จัดเสวนาประชาธิปไตยกับสังคมไทย ตามโครงการประชาสัมพันธ์การส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
นายวีระพัฒน์ จันทร์ชุม ประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี เผยว่า วานนี้ จังหวัดได้จัดให้มีการจัดเสวนา หัวข้อ ประชาธิปไตยกับสังคมไทย ตามโครงการประชาสัมพันธ์การส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยมี นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มาเป็นประธาน กล่าวเปิดงาน ท่ามกลาง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นิสิต นักศึกษา และประชาชนที่สนใจ ประมาณกว่า 100 คน เข้าร่วมฟังการเสวนาในครั้งนี้
โดยมีวิทยากรรับเชิญมาเสวนาในครั้ง 3 คน คือ นายสุภาพ คลี่ขจาย พระอาจารย์มนัส กิติเมธี พระธรรมทูตสายที่ 7 พระนักเผยแผ่ จากวัดใหญ่อินทาราม อ.เมือง จ.ชลบุรี อาจารย์ โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์คณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ มหาวิทยาบูรพา จ.ชลบุรี
นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ศึกระหว่างพันธมิตรฯ กับรัฐบาล ที่มีความคิดแตกต่างด้านประชาธิปไตย ถึงแม้จะด่า สาดโคลนใส่กันก็ไม่เป็นไร ขอทุกฝ่ายอย่าได้ใช้อาวุธทำลายล้างกัน ถึงแม้จะมีการตอบโต้ ในด้านคิด ถ้าทุกฝ่ายไม่ใช้ความรุนแรงและอาวุธ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วน นายสุภาพ คลี่ขจาย กล่าวว่า การต่อสู้ทางการเมืองที่เกิดการปฏิวัติ หรือรัฐประหารเกือบทุกครั้ง เกิดจากทั้ง 2 ฝ่าย อ่อนล้า และหมดความอดทน จากการต่อสู้ทางการเมืองนานเกินไป ทำให้รัฐบาลสั่งการให้ตำรวจต่อสู้กับประชาชน โดยใช้ความรุนแรงเข้าหากัน และสุดท้าย ประชาชนก็จะเรียกร้องขอให้ทหารออกมา ทำการปฏิวัติรัฐประหารกับรัฐบาลเกือบทุกครั้ง ฉะนั้น จึงอยากขอร้องให้ทหาร จงมีความอดทน และไม่ออกมาปฏิวัติบ้านเมืองวุ่นวาย ในระบอบประชาธิปไตย ดีกว่าสงบในระบอบเผด็จการ
ด้าน นายโอฬาร กล่าวว่า ประชาธิปไตยที่เปลี่ยนแปลง จากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เมื่อ 24 มิ.ย.2475 มาเป็นระบอบประชาธิปไตย จนถึงทุกวันนี้ เป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ เพราะมีกลุ่มทุนหรือนักธุรกิจ เข้ามาเล่นการเมือง เพื่อหาประโยชน์ส่วนตนและ พรรคพวก
ทางด้าน พระภิกษุ กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายเดินสายกลาง เดินไปด้วยกันอย่างมีเหตุผล และอย่าใช้ความรุนแรง พร้อมกับใช้สติเป็นที่ตั้ง ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน
นายวีระพัฒน์ จันทร์ชุม ประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี เผยว่า วานนี้ จังหวัดได้จัดให้มีการจัดเสวนา หัวข้อ ประชาธิปไตยกับสังคมไทย ตามโครงการประชาสัมพันธ์การส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยมี นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มาเป็นประธาน กล่าวเปิดงาน ท่ามกลาง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นิสิต นักศึกษา และประชาชนที่สนใจ ประมาณกว่า 100 คน เข้าร่วมฟังการเสวนาในครั้งนี้
โดยมีวิทยากรรับเชิญมาเสวนาในครั้ง 3 คน คือ นายสุภาพ คลี่ขจาย พระอาจารย์มนัส กิติเมธี พระธรรมทูตสายที่ 7 พระนักเผยแผ่ จากวัดใหญ่อินทาราม อ.เมือง จ.ชลบุรี อาจารย์ โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์คณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ มหาวิทยาบูรพา จ.ชลบุรี
นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ศึกระหว่างพันธมิตรฯ กับรัฐบาล ที่มีความคิดแตกต่างด้านประชาธิปไตย ถึงแม้จะด่า สาดโคลนใส่กันก็ไม่เป็นไร ขอทุกฝ่ายอย่าได้ใช้อาวุธทำลายล้างกัน ถึงแม้จะมีการตอบโต้ ในด้านคิด ถ้าทุกฝ่ายไม่ใช้ความรุนแรงและอาวุธ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วน นายสุภาพ คลี่ขจาย กล่าวว่า การต่อสู้ทางการเมืองที่เกิดการปฏิวัติ หรือรัฐประหารเกือบทุกครั้ง เกิดจากทั้ง 2 ฝ่าย อ่อนล้า และหมดความอดทน จากการต่อสู้ทางการเมืองนานเกินไป ทำให้รัฐบาลสั่งการให้ตำรวจต่อสู้กับประชาชน โดยใช้ความรุนแรงเข้าหากัน และสุดท้าย ประชาชนก็จะเรียกร้องขอให้ทหารออกมา ทำการปฏิวัติรัฐประหารกับรัฐบาลเกือบทุกครั้ง ฉะนั้น จึงอยากขอร้องให้ทหาร จงมีความอดทน และไม่ออกมาปฏิวัติบ้านเมืองวุ่นวาย ในระบอบประชาธิปไตย ดีกว่าสงบในระบอบเผด็จการ
ด้าน นายโอฬาร กล่าวว่า ประชาธิปไตยที่เปลี่ยนแปลง จากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เมื่อ 24 มิ.ย.2475 มาเป็นระบอบประชาธิปไตย จนถึงทุกวันนี้ เป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ เพราะมีกลุ่มทุนหรือนักธุรกิจ เข้ามาเล่นการเมือง เพื่อหาประโยชน์ส่วนตนและ พรรคพวก
ทางด้าน พระภิกษุ กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายเดินสายกลาง เดินไปด้วยกันอย่างมีเหตุผล และอย่าใช้ความรุนแรง พร้อมกับใช้สติเป็นที่ตั้ง ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน