ชัยภูมิ - พสกนิกรชาวชัยภูมิ ทุกหมู่เหล่าร่วมทำบุญตักบาตรพระภิกษุ สามเณร 10,500 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และนำข้าวสาร อาหารแห้ง ถวายคณะสงฆ์จำนวน 266 วัด ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งเป็นการร่วมสืบทอด ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ยืนยาว เผยถือเป็นการทำบุญตักบาตรพระภิกษุจำนวนมากที่สุดและเป็นครั้งแรกในภาคอีสาน
วันนี้ (25 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนหลังอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญา สี่แยกหนองบ่อ ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภุมิ, พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ, นายสุริยน ภูมิรัตนประพิณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชัยภูมิ พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชน พสกนิกรชาวชัยภูมิทุกหมู่เหล่าจำนวนมาก ร่วมกันทำบุตรตักบาตร พระภิกษุ สามเณร 3,500 รูป จากทุกวัดทุกหมู่บ้านของ จ.ชัยภูมิ ภายใต้โครงการตักบาตรพระภิกษุ สามเณร จำนวน 10,500 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และนำข้าวสาร อาหารแห้ง ถวายคณะสงฆ์จำนวน 266 วัด ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้
น.ส.เพชราภรณ์ ภูมิรัตนประพิณ ประธานกรรมการจัดงาน กล่าวว่า ศูนย์ประสานงานเครือข่ายโครงการตักบาตรพระภิกษุสามเณร 10,500 รูป จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับภาคีเครือข่ายจังหวัดชัยภูมิ ส่วนราชการจังหวัดชัยภูมิไดร่วมกันจัดขึ้น เพื่อสืบสานประเพณีทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และเพื่อถวายเป็นราชกุศล แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยความเห็นชอบของพระราชชัยมุนีเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ
โดยข้าวสารอาหารแห้งส่วนหนึ่ง จะนำไปสมทบถวายคณะสงฆ์ จำนวน 266 วัด ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุความไม่สงบ ส่วนปัจจัยจะนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานครั้งต่อไป และจัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อให้การจัดงานตักบาตรพระภิกษุสามเณร 10,500 รูป ถือเป็นประเพณีจัดติดต่อกันทุกปี
ทั้งนี้ ในปีนี้จัดให้มีการทำบุญตักบาตร 3 ครั้ง ติดต่อกัน 3 เดือน ครั้งละ 3,500 รูป รวมทั้งสิ้น 10,500 รูป โดยครั้งต่อไป จะจัดในวันที่ 22 มิ.ย.2551 นี้ที่ อ.แก้งคร้อ และ ในวันที่ 10 ส.ค. 2551 ที่ อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ ซึ่งนับว่ามีจำนวนมากที่สุด และเป็นครั้งแรกของจังหวัดชัยภูมิและภาคอีสานที่พระสงฆ์มารวมกันเดินบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชน เพื่อร่วมสืบทอด ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ยืนยาว อีกทั้งยังเป็นต้นแบบให้ชาวพุทธรุ่นหลังได้เจริญรอยตามอย่างถูกต้องในอนาคตสืบไป
