xs
xsm
sm
md
lg

ชัยภูมิชงแผนงบฯ ปี 52 กว่า 663 ล้าน - เน้นพัฒนาแหล่งน้ำ 70%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ
ชัยภูมิ- ชัยภูมิตั้งงบฯ พัฒนาจังหวัดปี 52 ผ่านเวทีประชาคม “ชัยภูมิโฮมแลง แปงบ้าน แปงเมือง” เผยหน่วยงานต่างๆ จัดทำแผนพัฒนาโครงการผ่านจังหวัดเสนอต่อรัฐบาล 376 โครงการ รวมวงเงินกว่า 663 ล้านบาท ส่วนใหญ่เน้นพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร 226 โครงการ คิดเป็น 70% ของเงินงบประมาณทั้งหมด

วันนี้ (1 พ.ค.) นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยถึงแผนงบประมาณพัฒนาจังหวัดชัยภูมิ ปี 2552 ว่า จังหวัดชัยภูมิได้จัดทำแผนพัฒนาจังหวัดระยะเวลา 4 ปี ระหว่างปี 2552-2555 โดยกำหนดวิสัยทัศน์ว่า “เกษตรกรรมยั่งยืน อุตสาหกรรมก้าวหน้า แหล่งท่องเที่ยวชั้นนำ สังคมมีสุข ” ซึ่งมีสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วน หรือ ยุทธศาสตร์ 5 ด้าน คือ การพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถด้านการเกษตร, การพัฒนาอุตสาหกรรม, การพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต, การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

สำหรับงบประมาณปี 2552 ซึ่งเป็นปีแรกนี้ได้จัดทำงบประมาณผ่านเวทีประชาคม “ชัยภูมิโฮมแลง แปงบ้าน แปงเมือง” และให้หน่วยงานต่าง ๆ จัดทำแผนผ่านจังหวัดเพื่อเสนอขอความเห็นชอบจากรัฐบาลรวมทั้งสิ้น 376 โครงการ วงเงินกว่า 663 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร 226 โครงการ วงเงิน 383 ล้านบาท คิดเป็น 70% ของวงเงินงบประมาณ

รองลงมาเป็นงบพัฒนาด้านอุตสาหกรรม 17 โครงการ รวมวงเงิน 49 ล้านบาท, ด้านการท่องเที่ยว 28 โครงการ รวมวงเงิน 78 ล้านบาท ด้านการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต 67 โครงการ รวมวงเงิน 111 ล้านบาท และ ด้านสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี 29 โครงการ รวมวงเงิน 55 ล้านบาท

โดยคาดว่า จากแผนพัฒนาจังหวัด 4 ปี จังหวัดชัยภูมิจะเกิดการขยายตัวด้านเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3.0 ต่อปี และ มีการใช้จ่ายของครัวเรือนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 3.0 ต่อปี มีการลงทุนของภาคเอกชนขยายตัวในพื้นที่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 3.0 ต่อปี

นอกจากนี้ จะมีพื้นที่เกษตรได้รับประโยชน์จากแหล่งน้ำ 270,222 ไร่ มีความจุของปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 510 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ขณะที่จากการสำรวจ จ.ชัยภูมิ มีความต้องการใช้น้ำในพื้นที่สูงถึง 1,416.52 ล้านลบ.ม. ใน 4 ปีข้างหน้า


ทั้งนี้ จ.ชัยภูมิ มีพื้นที่มากเป็นอันดับ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ เป็นอันดับ 8 ของประเทศ มีผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัว 33,973 บาท คิดเป็นอันดับ 7 ของภาค และ เป็นอันดับที่ 64 ของประเทศ โดยประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี 40,457 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ร้อยละ 62 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวธรรมชาติ และเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมของประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น