ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เครือข่ายพันธมิตรชัยภูมิพร้อมเคลื่อนขบวน “คนไม่กลัวการเสียสละ” ร่วมเวที “ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ” 28 มี.ค.ที่ มธ.และอีกส่วนปักหลักรวมตัวชมถ่ายทอดสดผ่าน “ASTV” ในที่ตั้ง พร้อมจัดกองผ้าป่าระดมทุนช่วยเหลือการจัดงานและ “ASTV” ที่กำลังโดนมรสุมเศรษฐกิจจากทุนนิยมสามานย์ วอนรัฐบาลลาออกทั้งคณะหากคิดแต่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง เอาประเทศชาติมาขึ้นกับพรรคการเมือง
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่ทำการกลุ่ม เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดชัยภูมิ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดชัยภูมิ และรองประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด กล่าวว่า หลังจากได้มีการประชุมปรึกษาหารือกับบรรดาแกนนำของกลุ่มองค์กร เครือข่ายต่างๆ ที่รวมตัวกันเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดชัยภูมิ, กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินจังหวัดชัยภูมิ ได้ตกลงที่จะเดินทางไปร่วมงานของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการจัด “ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ” ในวันที่ 28 มี.ค.51 ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรุงเทพฯ อย่างแน่นอน
โดยจะแบ่งการเคลื่อนไหวเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเพื่อความสะดวกในการเดินทาง แกนนำขององค์กรเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฯ และกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินจังหวัดชัยภูมิ ประมาณ 30 กว่าองค์กร จะส่งตัวแทนองค์กรละ 3-4 คน เข้างานที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยตัวแทนส่วนนี้จะมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะ คือ มีความอดทนต่อการยั่วยุ ทนต่อการเจ็บปวด และที่สำคัญคือเป็นคนที่ไม่กลัวการเสียสละ หรือ “คนที่ไม่กลัวตาย”
ส่วนที่ 2 คณะกรรมการและสมาชิกในแต่ละพื้นที่ทั่วจังหวัดชัยภูมิจะจัดตั้งทีวีจอใหญ่ในบริเวณที่ตั้งของตนเพื่อรวมตัวกันชมการถ่ายทอดสด การจัดงาน “ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ” ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV โดยการร่วมชมการถ่ายทอดดังกล่าวจะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยน ประเด็นต่างๆ ที่ได้จากเวทีร่วมกันด้วย
หลังจากนั้นจะนำสิ่งได้จากการชม “ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ” กลับมาคุยร่วมกับแกนนำที่ไปร่วมที่งานมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อีกครั้ง เพื่อนำไปปรับเป็นยุทธศาสตร์ในพื้นที่ โดยจะเคลื่อนไหวคู่ขนาน ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดเลย ที่ให้คำมั่นสัญญาต่อกันในการทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง
นายนพสณฑ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดชัยภูมิ, กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินจังหวัดชัยภูมิ และสมัชชาประชาชนภาคอีสานจังหวัดชัยภูมิ ได้ร่วมจัดตั้งกองผ้าป่า เพื่อระดมเงินบริจาคไปช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงาน “ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ” ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ และทุนส่วนหนึ่งจะมอบให้แก่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ที่กำลังโดนมรสุมเศรษฐกิจจากทุนนิยมสามานย์
“ขณะนี้ต้นผ้าป่าของเราได้งอกงาม ผลิดอกออกผลสวยงาม ตามแรงศรัทธาของพันธมิตรฯในพื้นที่ ที่ต่างทยอยมาต่อยอดต้นผ้าป่า ซึ่งขณะนี้ต้นผ้าป่าของเราแตกยอดแทงหน่อ เจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ” นายนพสณฑ์ กล่าว
จากกรณีที่จะรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช จะแก้ไขรัฐธรรมนูญภายใน 1 เดือน โดยเฉพาะมาตรา 237 นั้น นายนพสณฑ์ กล่าวว่า ทำให้รู้สึกสงสารประเทศไทย ที่มีนักการเมืองที่ห่วยแตกอย่างนี้ ขอให้ลาออกซะเถิด ลาออกทั้งคณะเลย ไม่อย่างนั้นจะอายหมาที่บ้านผม ที่เมื่อขโมยเข้าบ้านมันจะเห่าสร้างคุณให้แก่เจ้าของบ้าน แต่วันนี้เศรษฐกิจแย่ การเมืองก็แย่ แต่คิดได้แค่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง เอาประเทศชาติมาขึ้นกับพรรคการเมือง โดยกล่าวอ้างว่าตัวเองได้เสียงส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ในสภา และอ้างว่ามาอย่างถูกต้องชอบธรรม ถามหน่อยว่าถูกต้องชอบธรรมแค่ไหน และอย่าลืมว่าตัวเองก็มาจากรัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังจะแก้ ฉบับที่ คมช.ใจกว้างเปิดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่มี คมช.คนไหนมาร่างเอง มาจากการทำประชาพิจารณ์ ลงประชามติด้วยเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ
ในส่วนของเครือข่ายพันธมิตรฯ ชัยภูมิ ไม่เห็นด้วย และจะขอต่อต้านการกระทำนี้แน่นอนซึ่งคนที่ต้านก็ไม่กลัวการเสียสละซักคน รัฐธรรมนูญ ปี 2540 ก็ดี ปี 2550 ก็ดี ยังมีเรื่องของการเมืองภาคประชาชนที่เด่นชัด เพราะฉะนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะมอบให้เขาทำอะไรได้ตามใจชอบ การเมืองภาคประชาชนจะเป็นตัวถ่วงดุลอำนาจรัฐที่ไม่ชอบธรรม จะร่วมกันตรวจสอบอำนาจรัฐตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงระดับประเทศ
ตนและพี่น้องพันธมิตรฯ ทั้งหมดเป็นผู้เสียภาษี ไม่ใช่พวกที่พยายามเลี่ยงภาษีอยู่ คุณกินเงินเดือนวันนี้จะมาดูถูกประชาชนผู้เสียภาษีได้อย่างไร เลือกตั้งเสร็จก็จะมาผูกขาดว่าประชาชนมอบอำนาจให้หมดหรือ การเลือกตั้งไม่ได้บอกว่าเป็นประชาธิปไตยเสมอไป ประเทศเยอรมันเป็นเผด็จการแต่ก็มีการเลือกตั้ง อย่าไปหลงพูดคำว่าประชาธิปไตยจนพร่ำเพรื่อ จนตัวเองหลงผิดไป และไม่เข้าใจว่าประชาธิปไตยคืออะไร
“บรรยากาศแห่งประชาธิปไตยจะต้องถือเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ไม่ใช่เอาประชาชนเป็นใหญ่ เพราะประชาชนบ้าบอก็มี ทุกคนต้องช่วยกันปกป้องผลประโยชน์ และกระจายผลประโยชน์เหล่านั้นไปสู่ประชาชนให้มากที่สุด ดังที่ท่านพุทธทาสท่านได้กล่าวไว้” นายนพสณฑ์ กล่าว