ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – ชัยภูมิระดมซ้อมแผนรับมือ “ไฟป่า” เผยสถิติย้อนหลัง 6 เดือนเกิดกว่า 200 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหายกว่า 6,000 ไร่ เหตุหลักจากชาวบ้านลักลอบเผาเพื่อจับสัตว์ป่า-เห็ดงอก -ผักหวานแทงยอด เผยเร่งรณรงค์สร้างสำนึกต่อผืนป่า พร้อมขู่ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่ลักลอบเผาป่า
วันนี้ (9 มี.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดชัยภูมิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร ร่วมฝึกซ้อมแผนรับมือไฟป่า ที่บริเวณชายป่า ติดกับน้ำตกผาเอียง เขตอุทยานแห่งชาติตาดโตน ต.ห้วยต้อน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยการซ้อมแผนรับมือไฟป่าครั้งนี้ ได้จำลองเกิดเหตุราษฎร เข้าไปหาของป่า แล้วจุดไฟทิ้งเอาไว้ เกิดไฟไหม้ป่าอย่างรุนแรง ที่บริเวณชายป่า ติดกับน้ำตกผาเอียง ต.ห้วยต้อน อ.เมืองชัยภูมิ ในเขตอุทยานแห่งชาติตาดโตน
ภายหลังรับแจ้งเหตุได้ประสาน ขอรับการสนับสนุนกำลังคน พร้อมเครื่องมือ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนแพทย์พยาบาล มูลนิธิสว่างคุณธรรม และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ทั้งนี้เพื่อสร้างความคุ้นเคย และเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนในท้องถิ่น มีส่วนร่วมฝึกซ้อมด้วย เพื่อเป็นกำลังหลักสำคัญในการเฝ้าระวัง แจ้งเหตุ และควบคุมไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายนิมิต จันทน์วิมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดการฝึกซ้อมแผนรับมือไฟป่า ว่า ชัยภูมิเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่าไม้มากที่สุด เป็นอันดับ2 ของภาคอีสานและอันดับ 5 ของประเทศ อีกทั้งเป็นพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวที่อุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่ามากที่สุด 1 ใน 5 ของประเทศ
แต่ปัจจุบันพบว่าปัญหาไฟป่าได้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ เนื่องจากปีนี้เกิดภาวะอากาศแห้งแล้ง ติดต่อกันมานาน ประกอบกับชาวบ้านบางคนลักลอบเผาเพื่อไล่จับสัตว์ป่า และเผาป่าเพื่อให้เห็ดงอก ผักหวานแทงยอดมากขึ้น แล้วเก็บมาขาย ซึ่งการกระทำเช่นนี้ก่อให้เกิดการสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ ของผืนป่าที่มีอยู่ ซึ่งจากสถิติ 6 เดือนย้อนหลังพบว่า ได้เกิดไฟป่าเกิดขึ้นแล้วถึง 210 ครั้ง มีพื้นที่เสียหาย 6,141 ไร่ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ไม่ได้เกิดตามธรรมชาติแต่อย่างใด
ดังนั้นเพื่อให้พื้นที่จ.ชัยภูมิปลอดจากไฟป่า จังหวัดจึงได้เร่งรณรงค์ สร้างความสำนึกต่อผืนป่า ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชน ช่วยกันดูแลและป้องกันไฟป่า แจ้งข้อมูลข่าวสารแก่เจ้าหน้าที่ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน เข้มงวดในการป้องกันและป้องปรามกับทุกพื้นที่ หากพบว่ามีการลักลอบเผาป่าให้ลงโทษขั้นเด็ดขาด เพื่อให้สภาพป่าคงความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เกิดประโยชน์ต่อชุมชนอย่างยั่งยืนชั่วลูกชั่วหลานสืบไป
