ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- พันธมิตรฯ ชัยภูมิ- จ.เลย จับมือประกาศเจตนารณ์และเรียกร้องรัฐบาล “นอมินีหมัก” หยุดลุแก่อำนาจแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เช็กบิลบิ๊กขรก.รายวันทั้งอธิบดี ดีเอสไอ-ผบ.ตร. เอื้อประโยชน์ด้านคดีทั้งทางตรงและทางอ้อมกับ “จำเลยแม้ว” พร้อมให้หยุดแทรกแซงสื่อมวลชนทุกแขนง-รวมทั้งการฟื้นชีพระบอบทักษิณและส่งสัญญาณฆ่าตัดตอน หวั่นประเทศชาติหายนะ-เกิดกุลียุค ลั่นพร้อมลุกขึ้นสู้กับอำนาจอธรรมในทุกรูปแบบ
วันนี้ (29 ก.พ.) ที่บริเวณลานสวนสาธารณกาญจนาภิเษกฯ หน้าศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับ สมัชชาประชาชนภาคอีสานจังหวัดเลย นำโดย นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดชัยภูมิ เปิดแถลงข่าว พร้อมออกแถลงการณ์ชัยภูมิ-เมืองเลย ฉบับที่ 1/2551 ขอให้รัฐบาลหยุดการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ในทันที
นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ก่อนการกลับมาประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เกิดเหตุการณ์หลายอย่างขึ้นจากการกระทำของรัฐบาล โดยการนำของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เช่น การย้ายฟ้าผ่าอธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ หรือ DSI สังเวยการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามมาด้วยการย้ายเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่มีบทบาทสูงในการทำซีแอลยาทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาในราคาถูกได้ ทั้งผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยโรคเอดส์ โรคหัวใจ รวมถึงการย้ายอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ไปทำงานที่ยังไม่มีองค์กรรองรับตามกฎหมาย
ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (29 ก.พ.) ได้มีคำสั่งย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ต่อมาช่วงบ่ายมีคำสั่งย้าย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย และมีกระแสข่าวจะย้ายข้าราชการระดับสูงอีกหลายตำแหน่ง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นบุคคลที่นำคดีสำคัญของอดีตนายกฯ ทักษิณกว่า 20 คดี ขึ้นมาพิจารณา
“หากการแทรกแซงเช่นนี้ลุกลามต่อไปย่อมทำให้กระบวนการยุติธรรมไทยอ่อนเปลี้ยลงตามลำดับ การที่อดีตนายกฯ อ้างว่ากลับมาเพื่อพิสูจน์ตนเองนั้น ก็จะได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมทันที ดังนั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดชัยภูมิ-เลย รวมทั้งภาคีเครือข่ายทั้ง 2 จังหวัดต่างเห็นหายนะที่กำลังเกิดขึ้น จึงขอแสดงจุดยืนและเจตนารมณ์ของประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยจังหวัดชัยภูมิ-เลย ว่า ต่อไปนี้พวกเราจะลุกขึ้นสู้กับอำนาจอธรรมในทุกรูปแบบ ภายใต้การคุ้มครองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย 2550 ที่พวกเรามีส่วนร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมร่างกันมา จะไม่ยอมให้ใครมาทำลายสังคมไทยให้แตกแยกอีกต่อไป” นายนพสณฑ์ กล่าว
นายนพสณฑ์ กล่าวอีกว่า พันธมิตรฯ จังหวัดชัยภูมิ-เลยขอเรียกร้องให้ 1.นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แสดงจุดยืนอันชัดเจนของการเป็นผู้นำรัฐนาวาเพียงคนเดียวในการบริหารประเทศ ด้วยความโปร่งใส สุจริต ยุติธรรม สง่างาม เพื่อลบคำครหา และความเข้าใจของประชาชนว่า เป็น 1 รัฐบาล 2 นายกรัฐมนตรี เพื่อยืนยันกับประชาชนไทยว่าท่านไม่ได้บริหารประเทศตามใบสั่งของคนนอกรัฐบาล หรือระบอบทักษิณ 2. หยุดแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและทบทวนคำสั่ง กรณีการปลดอธิบดี DSI , ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , และ เลขาธิการ อย.
3.หยุดแทรกแซงสื่อมวลชนทุกแขนง 4.หยุดแทรกแซงการทำงานของข้าราชการประจำ เช่น ปลัดกระทรวง , อธิบดี, ผู้ว่าราชการจังหวัด, ผู้บังคับการ ฯลฯ เพื่อนำคนของระบอบทักษิณกลับเข้ามากินบ้านกินเมืองอีก 5.หยุดกระบวนการแก้ปัญหายาเสพติดด้วยการส่งสัญญาณให้มีการฆ่าตัดตอน และ 6. หยุดกระบวนการฟื้นฟูระบอบทักษิณ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดชัยภูมิ-เลย หวังว่า จะได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ด้วยดีโดยวิถีสันติ เพื่อป้องกันกลียุคที่กำลังเกิดขึ้นในเร็ววัน
ทางด้าน นายจำปี วงษ์ศึก แกนนำพันธมิตรฯ จ. เลย กล่าวว่า พวกเราชาวอีสานมีความเสียใจที่ปลดคนอันเป็นที่รักของเราคือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส หรือ “วีรบุรุษนาแก” ของคนอีสาน ออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร. อย่างไม่มีเหตุผล และไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งกระทบกับคนอีสานเหมือนวีรบุรุษของเราถูกรังแก และไม่ได้รับความยุติธรรม จากรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งหลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาได้สร้างความปั่นป่วนสับสนกับประชาชนทั่วประเทศ จึงขอให้จับตาดูว่าการมาของ พ.ต.ท.ทักษิณจะมาในมาทางที่ดี หรือมาสร้างสถานการณ์ให้เลวร้ายขึ้น
“พวกเราพร้อมให้ความร่วมมือกับเครือข่ายผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยทุกองค์กรในภาคอีสาน เพื่อปราบคนโกง พวกคอร์รัปชั่นให้หมดไปจากประเทศไทย นำความถูกต้องและความสงบสุขกลับคืนมาเหมือนเดิม” นายจำปี กล่าว