ศูนย์ข่าวศรีราชา - กลุ่มเอ็นจีโอภาคตะวันออก 8 จังหวัด เปิดเวทีประเมินสถานการณ์บ้านเมือง สังคมและชุมชนท้องถิ่น เพื่อกำหนดทิศทางการทำงานเคลื่อนไหวเป็นทีม และเปิดแถลง ข่าวกรณี โรงไฟฟ้า ไออาร์พีซี เลิกใช้น้ำมันเตา มาใช้ก๊าซ มีหลักประกันอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดระยองว่า กลุ่มเอ็นจีโอภาคตะวันออก 8 จังหวัด ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา นครนายก สระแก้ว และปราจีนบุรี จัดเวทีปรึกษาหารือและประเมินสถานการณ์บ้านเมือง เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการทำงานเป็นทีม มีองค์กรเครือข่ายเข้าร่วมประชุมจำนวน 54 คน เช่น นายธีระพันธ์ เจริญสิทธิ์ องค์กรคนพิการจ.จันทบุรี นายเสมา สืบตระกูล องค์กรสหภาพแรงงานภาคตะวันออก นายวิโรจน์ สังข์สุวรรณ กลุ่มสายลมแสงแดด จ.ระยอง นายจำรูญ สงบดี องค์กรชุมชนภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา นายไชยยนต์ ประดิษฐ์สินเครือ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกเมื่อเย็นวานนี้ (17 พ.ค.)
นายสุทธิ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมปรึกษา และประเมินสถานการณ์บ้านเมืองด้วยความเป็นห่วง ความขัดแย้งทางการเมืองเกี่ยวกับกรณีเรื่องการแก้ไข รัฐธรรมนูญ รัฐบาลควรให้ความสำคัญปัญหาการแตกแยก โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังไม่ถึงเวลาควรปล่อยให้ขบวนการรัฐธรรมนูญผ่านไปสักระยะก่อน รัฐต้องเร่งส่งเสริมภาคเอกชนเดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เร่งสภาให้พัฒนาการเมืองที่อยู่ในรัฐธรรมนูญนั้นมีประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างจริงจัง สร้างมิติใหม่องค์กรอิสระทางรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นจริงมากขึ้น
รวมถึงกฎหมายอีกหลายฉบับที่เป็นเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญสมควรเร่งออกให้เป็นรูปธรรม เมื่อมีองค์ประกอบเหล่านี้ครบแล้ว เข้าสู่ขบวนการแก้ไขอย่างมีส่วนร่วม สังคมจะมองรัฐบาลในภาพรวมลดความขัดแย้ง สร้างความสมานฉันท์ การประชุมในวันนี้จะเรียกร้องรัฐบาลให้ลดความแตกแยก แต่ถ้ายังมีการยื่นสภาให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะมีการระดมมวลชนไปที่หน้ารัฐสภาเพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมติของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศและเป็นจุดยืนที่กลุ่มเรารับมตินี้ทั่วภูมิภาคของประเทศ
นายสุทธิ กล่าวถึงกรณี บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) มีความคิดที่จะเปลี่ยนจากการผลิตกระแสไฟฟ้าจากน้ำมันเตาหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติ เห็นด้วยอย่างยิ่งเพราะก๊าซถือว่าเป็นพลังงานธรรมชาติที่สะอาดที่สุด แต่ที่ตั้งข้อสังเกตของเครือข่ายชาวระยองรักสิ่งแวดล้อมและผืนแผ่นดินมาตุภูมิ ทำไมกำลังการผลิตจึงสูงขึ้น เพราะแต่เดิมใช้น้ำมันเตามีกำลังการผลิต 100 กว่าเมกกะวัตต์ พอหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติ ทำไมมีกำลังการผลิตกระแสไฟถึง 228 เมกกะวัตต์ นั่นหมายถึง ไออาร์พีซี มีแผนขยายโรงงานเพิ่มเติมในอนาคตหรือไม่ เพื่อเป็นการสำรองไฟฟ้าไว้ใช้
อีกข้อหนึ่งจะการันตีได้อย่างไรว่า เมื่อโรงไฟฟ้าใช้ก๊าซธรรมชาติเสร็จแล้ว จะยกเลิกการใช้น้ำมันเตาจริง และโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินบีทูมินัสที่ใช้อยู่ในปัจจุบันไว้เป็นโรงไฟฟ้าสำรอง และในที่สุดไออาร์พีซี ก็จะมี โรงไฟฟ้าถึง 3 โรงด้วยกัน คือใช้น้ำมันเตา ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ไออาร์พีซีน่าจะทำหลักประกันให้กับประชาชนเมื่อเปลี่ยนจากน้ำมันเตา มาใช้ก๊าซจะยกเลิกน้ำมันเตาทันที จะยกการใช้ถ่านหินทันทีโดยที่ไม่ต้องใช้ในการสำรองอีกต่อไป และที่สำคัญต้องรับพี่น้องชาว ต.บ้านแลง ต.นาตาขวัญ ต.ตะพง ต.เชิงเนิน และในเขตเทศบาลนครระยอง ให้ชัดเจนว่าจะไม่มีแผนการขยายโรงงานอุตสาหกรรมอีก ถ้ามีกระแสไฟฟ้าสำรองเพียงพอ มิฉะนั้นอาจจะเกิดการรวมพลครั้งใหม่