ศูนย์ข่าวศรีราชา – คนรักภาพยนตร์เซ็ง กระทรวงพาณิชย์ แก้ปัญหาปลายเหตุ เตรียมหารือเจ้าของโรงหนัง ห้ามพกมือถือเข้าโรง เหตุมีผู้ลักลอบถ่ายวิดีโอ โยนความผิดให้ผู้ชม นักศึกษาโวยละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
จากกรณีที่ทางกระทรวงพาณิชย์เตรียมเรียกผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์และเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาการนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปลักลอบถ่ายภาพยนตร์ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในกลุ่มของผู้ชื่นชอบภาพยนตร์ ว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไปหรือไม่
นายนคร ชิตเจริญ ผู้ที่สนใจการทำหนังสั้น ให้สัมภาษณ์ว่า การห้ามนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในโรงภาพยนตร์ เพื่อป้องกันการลักลอบซูมนั้น ตนไม่เห็นด้วย เพราะนอกจากกล้องโทรศัพท์มือถือโดยส่วนใหญ่จะไม่มีความละเอียดของภาพมากพอแล้วยังเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ที่เข้าชมภาพยนตร์อีกด้วย
ทั้งนี้ ตนคิดว่า ปัญหาเรื่องนี้อาจมาจากพนักงานที่ทำงานในโรงภาพยนตร์นั้นๆ เพราะจากการที่ตนได้ตรวจสอบไฟล์จากแผ่นผี ส่วนใหญ่เป็นการถ่ายภาพจากกล้องวิดีโอ ไม่ใช่จากโทรศัพท์ การลักลอบอาจมีการวางแผนกันเองในกลุ่มของพนักก็เป็นได้ ทางโรงภาพยนตร์ควรที่จะตรวจสอบพนักงานบ้าง อีกทั้งการตรวจกระเป๋าก่อนเข้าโรง พนักงานก็ทำเป็นพิธีเท่านั้น ตนเคยพบบางคนยังนำกล้องถ่ายรูปดิจิตอลที่สามารถถ่ายวิดีโอเข้าไปในโรงภาพยนตร์ได้
ส่วนการแก้ปัญหานั้นตนอยากแนะนำให้ทางบริษัทที่จัดส่งฟิล์มภาพยนตร์นั้น ระบุชื่อโรงภาพยนตร์ที่นำไปฉายไว้ที่มุมของฟิล์มด้วย เวลาที่ขึ้นฉายจะได้เห็นบนจอ หากมีการก๊อปปี้จะสามารถรู้ได้ว่ามาจากโรงใด นอกจากนี้ การเพิ่มบทลงโทษกับผู้ที่กระทำผิด ตนอยากให้ทำจริงและการขายแผ่นผีตามตลาดนัดก็ควรตรวจสอบด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้ขายกันจนถึงวันนี้
นางสาวทิตยา วิษณุรัก พนักงานบริษัท หนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบการดูภาพยนตร์ กล่าวว่า หากมีการห้ามไม่ให้นำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในโรงภาพยนตร์จริง ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะนอกจากจะป้องกันการถ่ายภาพจากกล้องวิดีโอแล้ว ยังสามารถลดปัญหาการขาดมารยาทในการดูภาพยนตร์ด้วย แต่ทั้งนี้หากห้ามนำโทรศัพท์มือถือเข้าไป ทางโรงภาพยนตร์ก็ควรมีการวางระบบจัดเก็บ ดูแลรักษาให้ดี เพราะราคาโทรศัพท์มือถือไม่ได้เครื่องละบาทสองบาท ถ้ามีการสูญหายแล้วทางโรงภาพยนตร์จะรับผิดชอบได้หรือไม่
ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยกับการที่จะมีกฎหมายมาบังคับใช้ แต่ต้องอย่าลืมว่าผู้ที่ตั้งใจจะลักลอบถ่าย ไม่ว่าจะมีการตรวจสอบอย่างไร เขาเหล่านั้นก็ต้องหาทางหลีกเลี่ยงได้ อยากให้เน้นไปที่การเพิ่มบทลงโทษมากกว่า โดยต้องลงโทษให้หนักกับผู้ที่ลักลอบถ่ายวิดีโอในโรงภาพยนตร์ เพราะเป็นต้นตอที่หาตัวจับยาก อยากให้รัฐบาลแก้กฎหมายให้มันหนักขึ้นในการละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนเรื่องที่มีผู้มีอิทธิพลเข้าเกี่ยวข้องในการขายซีดี วีซีดีผีนั้น ควรต้องมีการตรวจสอบให้มากขึ้น อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล
ด้าน นายจิรายุ ภู่ประสงค์ นักศึกษามหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี ให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าวว่า คุณภาพจากกล้องโทรศัพท์มือถือไม่สามารถเอาไปแปลงไฟล์แล้วนำมาทำหนังแผ่นได้ เพราะคุณภาพมันต่ำมาก โดยส่วนตัวแล้วตนคิดว่าผู้ที่นำแผ่นผีมาขายนั้นต้องมีผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง หรือคอยบงการอยู่ แล้วก็โยนให้กับผู้ที่มาชมภาพยนตร์ในโรง การแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวนั้นทำได้ยาก เนื่องจากเทคโนโลยีก้าวหน้าเร็วมากและโทรศัพท์มือถือก็เป็นเรื่องจำเป็น ควรเน้นไปที่ผู้ซื้อแผ่นผี เพราะหากมีผู้ซื้อ ผู้ขายก็ยังคงต้องมีต่อไป เรื่องนี้อยู่ที่จิตสำนึกความเป็นคนมากกว่า
ส่วนการเพิ่มบทลงโทษตนเห็นว่า กฎหมายไทยยังมีจุดอ่อนมาก ควรแก้ไขให้ผู้ที่ทำผิดเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์นั้น รับโทษหนักขึ้น อย่าไปแก้ปัญหาที่ปลายเหตุและใช้วิธีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของคนอื่นมาเป็นเครื่องแก้ไข
จากกรณีที่ทางกระทรวงพาณิชย์เตรียมเรียกผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์และเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาการนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปลักลอบถ่ายภาพยนตร์ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในกลุ่มของผู้ชื่นชอบภาพยนตร์ ว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไปหรือไม่
นายนคร ชิตเจริญ ผู้ที่สนใจการทำหนังสั้น ให้สัมภาษณ์ว่า การห้ามนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในโรงภาพยนตร์ เพื่อป้องกันการลักลอบซูมนั้น ตนไม่เห็นด้วย เพราะนอกจากกล้องโทรศัพท์มือถือโดยส่วนใหญ่จะไม่มีความละเอียดของภาพมากพอแล้วยังเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ที่เข้าชมภาพยนตร์อีกด้วย
ทั้งนี้ ตนคิดว่า ปัญหาเรื่องนี้อาจมาจากพนักงานที่ทำงานในโรงภาพยนตร์นั้นๆ เพราะจากการที่ตนได้ตรวจสอบไฟล์จากแผ่นผี ส่วนใหญ่เป็นการถ่ายภาพจากกล้องวิดีโอ ไม่ใช่จากโทรศัพท์ การลักลอบอาจมีการวางแผนกันเองในกลุ่มของพนักก็เป็นได้ ทางโรงภาพยนตร์ควรที่จะตรวจสอบพนักงานบ้าง อีกทั้งการตรวจกระเป๋าก่อนเข้าโรง พนักงานก็ทำเป็นพิธีเท่านั้น ตนเคยพบบางคนยังนำกล้องถ่ายรูปดิจิตอลที่สามารถถ่ายวิดีโอเข้าไปในโรงภาพยนตร์ได้
ส่วนการแก้ปัญหานั้นตนอยากแนะนำให้ทางบริษัทที่จัดส่งฟิล์มภาพยนตร์นั้น ระบุชื่อโรงภาพยนตร์ที่นำไปฉายไว้ที่มุมของฟิล์มด้วย เวลาที่ขึ้นฉายจะได้เห็นบนจอ หากมีการก๊อปปี้จะสามารถรู้ได้ว่ามาจากโรงใด นอกจากนี้ การเพิ่มบทลงโทษกับผู้ที่กระทำผิด ตนอยากให้ทำจริงและการขายแผ่นผีตามตลาดนัดก็ควรตรวจสอบด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้ขายกันจนถึงวันนี้
นางสาวทิตยา วิษณุรัก พนักงานบริษัท หนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบการดูภาพยนตร์ กล่าวว่า หากมีการห้ามไม่ให้นำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในโรงภาพยนตร์จริง ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะนอกจากจะป้องกันการถ่ายภาพจากกล้องวิดีโอแล้ว ยังสามารถลดปัญหาการขาดมารยาทในการดูภาพยนตร์ด้วย แต่ทั้งนี้หากห้ามนำโทรศัพท์มือถือเข้าไป ทางโรงภาพยนตร์ก็ควรมีการวางระบบจัดเก็บ ดูแลรักษาให้ดี เพราะราคาโทรศัพท์มือถือไม่ได้เครื่องละบาทสองบาท ถ้ามีการสูญหายแล้วทางโรงภาพยนตร์จะรับผิดชอบได้หรือไม่
ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยกับการที่จะมีกฎหมายมาบังคับใช้ แต่ต้องอย่าลืมว่าผู้ที่ตั้งใจจะลักลอบถ่าย ไม่ว่าจะมีการตรวจสอบอย่างไร เขาเหล่านั้นก็ต้องหาทางหลีกเลี่ยงได้ อยากให้เน้นไปที่การเพิ่มบทลงโทษมากกว่า โดยต้องลงโทษให้หนักกับผู้ที่ลักลอบถ่ายวิดีโอในโรงภาพยนตร์ เพราะเป็นต้นตอที่หาตัวจับยาก อยากให้รัฐบาลแก้กฎหมายให้มันหนักขึ้นในการละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนเรื่องที่มีผู้มีอิทธิพลเข้าเกี่ยวข้องในการขายซีดี วีซีดีผีนั้น ควรต้องมีการตรวจสอบให้มากขึ้น อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล
ด้าน นายจิรายุ ภู่ประสงค์ นักศึกษามหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี ให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าวว่า คุณภาพจากกล้องโทรศัพท์มือถือไม่สามารถเอาไปแปลงไฟล์แล้วนำมาทำหนังแผ่นได้ เพราะคุณภาพมันต่ำมาก โดยส่วนตัวแล้วตนคิดว่าผู้ที่นำแผ่นผีมาขายนั้นต้องมีผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง หรือคอยบงการอยู่ แล้วก็โยนให้กับผู้ที่มาชมภาพยนตร์ในโรง การแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวนั้นทำได้ยาก เนื่องจากเทคโนโลยีก้าวหน้าเร็วมากและโทรศัพท์มือถือก็เป็นเรื่องจำเป็น ควรเน้นไปที่ผู้ซื้อแผ่นผี เพราะหากมีผู้ซื้อ ผู้ขายก็ยังคงต้องมีต่อไป เรื่องนี้อยู่ที่จิตสำนึกความเป็นคนมากกว่า
ส่วนการเพิ่มบทลงโทษตนเห็นว่า กฎหมายไทยยังมีจุดอ่อนมาก ควรแก้ไขให้ผู้ที่ทำผิดเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์นั้น รับโทษหนักขึ้น อย่าไปแก้ปัญหาที่ปลายเหตุและใช้วิธีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของคนอื่นมาเป็นเครื่องแก้ไข