พะเยา – ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพะเยาประกาศเดินหน้าสนองนโยบายสงครามยาเสพติด เผยขึ้นบัญชีทั้งผู้ค้าและเสพในพื้นที่ไว้แล้วกว่า 100 ราย ย้ำชัดเน้นการจับกุมขยายผลยึดทรัพย์ ไม่ฆ่าตัดตอน
พล.ต.ต.ปราศรัย สังขะทรัพย์ ผบก.ภ.จว.พะเยา เปิดเผยว่า จากนโยบายการประกาศสงครามยาเสพติดของรัฐบาล ซึ่งในเชิงปฏิบัติพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ในเขตภูธรภาค 5 ได้มีการตั้งด่านถาวรและชั่วคราว ด่านถาวรมีจำนวน 2 จุด ส่วนด่านชั่วคราวจะมีประมาณ 400 จุด โดยแต่ละจุดจะตั้งด่านประมาณ 3 ชั่วโมง เชื่อมต่อกันเป็นโครงข่ายใยแมงมุมทั่วภาค 5 ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางสกัดทุกระยะเพื่อเข้มงวดในการตรวจสอบรถที่ต้องสงสัยไม่ให้หลุดรอดมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ สำหรับพื้นที่จังหวัดพะเยาทางตำรวจได้เน้นนโยบายการจับกุมรายเล็กขยายผลไปสู่การยึดทรัพย์ โดยไม่เน้นการฆ่าตัดตอน การขยายผลเพื่อยึดทรัพย์ทำให้เป็นการปราบได้ยกขบวนการซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
สำหรับในพื้นที่จังหวัดพะเยานั้น ผบก.ภ.จว.พะเยา กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดเก็บข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายขึ้นบัญชีไว้แล้ว คือ กลุ่มผู้ค้ารายย่อยประมาณ 30 ราย และกลุ่มผู้เสพ ประมาณ 80-90 ราย จากการเอ็กซ์เรย์ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปในทุกพื้นที่อย่างละเอียด พร้อมกันนี้จัดส่งชุดมวลชนสัมพันธ์ไปในหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ รณรงค์ประชาชนร่วมกันแจ้งเบาะแสขบวนการยาเสพติดให้กับทางภาครัฐร่วมกันดำเนินการถอนรากถอนโคนให้หมดสิ้น
พล.ต.ต.ปราศรัย สังขะทรัพย์ ผบก.ภ.จว.พะเยา เปิดเผยว่า จากนโยบายการประกาศสงครามยาเสพติดของรัฐบาล ซึ่งในเชิงปฏิบัติพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ในเขตภูธรภาค 5 ได้มีการตั้งด่านถาวรและชั่วคราว ด่านถาวรมีจำนวน 2 จุด ส่วนด่านชั่วคราวจะมีประมาณ 400 จุด โดยแต่ละจุดจะตั้งด่านประมาณ 3 ชั่วโมง เชื่อมต่อกันเป็นโครงข่ายใยแมงมุมทั่วภาค 5 ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางสกัดทุกระยะเพื่อเข้มงวดในการตรวจสอบรถที่ต้องสงสัยไม่ให้หลุดรอดมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ สำหรับพื้นที่จังหวัดพะเยาทางตำรวจได้เน้นนโยบายการจับกุมรายเล็กขยายผลไปสู่การยึดทรัพย์ โดยไม่เน้นการฆ่าตัดตอน การขยายผลเพื่อยึดทรัพย์ทำให้เป็นการปราบได้ยกขบวนการซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
สำหรับในพื้นที่จังหวัดพะเยานั้น ผบก.ภ.จว.พะเยา กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดเก็บข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายขึ้นบัญชีไว้แล้ว คือ กลุ่มผู้ค้ารายย่อยประมาณ 30 ราย และกลุ่มผู้เสพ ประมาณ 80-90 ราย จากการเอ็กซ์เรย์ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปในทุกพื้นที่อย่างละเอียด พร้อมกันนี้จัดส่งชุดมวลชนสัมพันธ์ไปในหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ รณรงค์ประชาชนร่วมกันแจ้งเบาะแสขบวนการยาเสพติดให้กับทางภาครัฐร่วมกันดำเนินการถอนรากถอนโคนให้หมดสิ้น
