เชียงราย – รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย สนองนโยบายประกาศสงครามยาเสพติดของรัฐบาล จัดติวเข้มมือปราบยาเสพติด พร้อมระบุมีคดียาเสพติดอย่างน้อย 10 คดีจาก 17 คดีที่ถูกจับกุมได้ในพื้นที่ที่น่าจะยึดทรัพย์ได้
วันนี้ (22 เม.ย.) พ.ต.อ.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายเปิดโครงการอบรม พนักงานสอบสวน การดำเนินการตาม มาตรา 6 และมาตรา 8 พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)2543 ณ ห้องประชุมดุรงควิบูลย์ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย โดยมีการระดมพนักงานสอบสวนทุกสถานี ที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนคดียาเสพติด กว่า 50 นาย
ทั้งนี้ เนื่องจากในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา ตำรวจมีการจับกุมยาเสพติดในพื้นที่รายใหญ่บ่อยครั้ง แต่ไม่ค่อยมีการสืบสวนยึดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติดแบบในอดีตที่มีการประกาศสงครายาเสพติดที่ยึดทรัพย์ได้ปีละหลายร้อยล้านบาทเฉพาะ จ.เชียงราย
สาเหตุอาจจะขาดการเร่งรัด จึงมีการจัดอบรม เพื่อที่จะเร่งรัดการดำเนินการ ดำเนินการตาม มาตรา 6,มาตรา 8 พรบ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) 2543 ให้ได้สนองแนวนโยบายประกาศสงครามยาเสพติดของรัฐบาลใหม่ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อต้นเดือน เม.ย.2551 นี้
ขณะนี้พบว่า มีคดียาเสพติด รายใหญ่ 17 คดี ที่มีการจับกุมในหลายพื้นที่ และรอที่จะมีการใช้กฎหมายเข้ายึดทรัพย์ เช่น คดีที่ ทหาร และ ตำรวจ สภ.แม่สาย จับกุม นายซาราโมน่า ชาวอิตาลี พร้อมด้วยคนไทย อีก 2 คน และ ผงขาว 2 ก.ก.ขณะลำเลียงจากชายแดนเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งเป็นขบวนการยาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งในจำนวน 17 คดี น่าจะยึดทรัพย์ได้อย่างน้อย 10 คดี และ คดีการค้ายาบ้าตั้งแต่ 10,000 เม็ด ขึ้นไป ตำรวจจะใช้กฎหมายเข้าไปหาทางยึดทรัพย์เพื่อสกัดกั้นปัญหายาเสพติดให้ลดลงให้ได้ แต่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นอกจากนี้ ยังมีโครงการส่งเสริมตำรวจสายสืบในการปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยโดยจะเร่งจัดสรรกำลังและงบประมาณเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานเพราะถือว่า ตำรวจนักสืบเป็นหัวใจสำคัญในการทำคดีให้มีความสำเร็จ ไม่น้อยกว่าสายงานอื่นๆ
วันนี้ (22 เม.ย.) พ.ต.อ.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายเปิดโครงการอบรม พนักงานสอบสวน การดำเนินการตาม มาตรา 6 และมาตรา 8 พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)2543 ณ ห้องประชุมดุรงควิบูลย์ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย โดยมีการระดมพนักงานสอบสวนทุกสถานี ที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนคดียาเสพติด กว่า 50 นาย
ทั้งนี้ เนื่องจากในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา ตำรวจมีการจับกุมยาเสพติดในพื้นที่รายใหญ่บ่อยครั้ง แต่ไม่ค่อยมีการสืบสวนยึดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติดแบบในอดีตที่มีการประกาศสงครายาเสพติดที่ยึดทรัพย์ได้ปีละหลายร้อยล้านบาทเฉพาะ จ.เชียงราย
สาเหตุอาจจะขาดการเร่งรัด จึงมีการจัดอบรม เพื่อที่จะเร่งรัดการดำเนินการ ดำเนินการตาม มาตรา 6,มาตรา 8 พรบ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) 2543 ให้ได้สนองแนวนโยบายประกาศสงครามยาเสพติดของรัฐบาลใหม่ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อต้นเดือน เม.ย.2551 นี้
ขณะนี้พบว่า มีคดียาเสพติด รายใหญ่ 17 คดี ที่มีการจับกุมในหลายพื้นที่ และรอที่จะมีการใช้กฎหมายเข้ายึดทรัพย์ เช่น คดีที่ ทหาร และ ตำรวจ สภ.แม่สาย จับกุม นายซาราโมน่า ชาวอิตาลี พร้อมด้วยคนไทย อีก 2 คน และ ผงขาว 2 ก.ก.ขณะลำเลียงจากชายแดนเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งเป็นขบวนการยาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งในจำนวน 17 คดี น่าจะยึดทรัพย์ได้อย่างน้อย 10 คดี และ คดีการค้ายาบ้าตั้งแต่ 10,000 เม็ด ขึ้นไป ตำรวจจะใช้กฎหมายเข้าไปหาทางยึดทรัพย์เพื่อสกัดกั้นปัญหายาเสพติดให้ลดลงให้ได้ แต่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นอกจากนี้ ยังมีโครงการส่งเสริมตำรวจสายสืบในการปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยโดยจะเร่งจัดสรรกำลังและงบประมาณเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานเพราะถือว่า ตำรวจนักสืบเป็นหัวใจสำคัญในการทำคดีให้มีความสำเร็จ ไม่น้อยกว่าสายงานอื่นๆ
