บุรีรัมย์ - นายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ลงพื้นที่เจรจากับชาวบ้าน ที่เข้าครอบครองทำกินในที่ดินสาธารณประโยชน์ป่าหนองใหญ่กว่า 2,500 ไร่ ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนไม่ยอมรับข้อเสนอและเงื่อนไข ยกเหตุผลเข้าทำกินพร้อมเสียภาษีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ทางอำเภอขู่ดำเนินคดีเอาผิดตาม กม.หากยังฝ่าฝืนบุกรุกที่ดินของรัฐสนองนโยบาย “หมักหุ่นเชิด”
วันนี้ (15 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทธินันท์ บุญมี นายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่เจรจากับชาวบ้าน ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คน หลังได้มารวมตัวกันที่ศาลากลางหมู่บ้าน บ.หนองพลวง ต.สวายจีก เพื่อคัดค้านเจ้าหน้าที่ที่ดินอำเภอเมืองบุรีรัมย์ และ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สวายจีก ที่จะเข้าไปทำรังวัดสอบเขตที่ดินสาธารณะประโยชน์ป่าหนองใหญ่กว่า 2,500 ไร่ ซึ่งถูกชาวบ้านกว่า 40 ราย เข้าไปบุกรุกครอบครองทำกินอย่างไม่ถูกต้องมานานหลายปี
การเจรจาเป็นไปอย่างเคร่งเครียด โดยชาวบ้านไม่ยอมรับข้อเสนอและเงื่อนไขของทางอำเภอ ที่จะจัดสรรพื้นที่ป่าดังกล่าวให้ชาวบ้านเข้าไปเช่าทำกิน โดยทำสัญญาเช่ากับรัฐคนละไม่เกิน 15 ไร่ ทำให้หลายคนที่ครอบครองที่ดินเกิน 15 ไร่ ไม่ยอมรับเงื่อนไข เพราะเกรงจะเสียผลประโยชน์ ต่างผลัดเปลี่ยนกันลุกขึ้นมาตอบโต้คัดค้าน โดยยกเหตุผลโต้แย้งว่า ที่ดินดังกล่าวได้ทำกิน และเสียภาษี มาตั้งแต่บรรพบุรุษ สมัยปู่ ย่า ตา ยาย
ขณะที่ นายสุทธินันท์ บุญมี นายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ยืนยันว่า หากกลุ่มผู้บุกรุกไม่ยอมออกจากพื้นที่ หรือทำตามเงื่อนไขก็จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย เนื่องจากที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของรัฐ ผู้ใดจะเข้าไปยึดครองไม่ได้ ทั้งนี้จะได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการรังวัดสอบเขตที่ดินสาธารณประโยชน์ดังกล่าวให้ถูกต้องต่อไป
อนึ่ง วานนี้ (14 พ.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมมอบนโยบายเรื่อง “การบูรณาการแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ดินของรัฐ และการทำลายทรัพยากรป่าไม้” แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พร้อมประกาศให้เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ ในการดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับผู้บุกรุกที่ดินของรัฐ และการเอาที่ดินของรัฐกลับคืนมา
