เจ้าของตลาดปัฐวิกรณ์ เตรียมยื่นฟ้อง ตร.บึงกุ่ม ตั้งแต่ ผบ.หมู่ ยัน ผกก.ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เปิดช่องให้ชายฉกรรจ์คุกคามตนเอง และจับเมียไป สน.โดยไม่มีความผิด ยันเอาเรื่องถึงที่สุด พร้อมแจงเหตุถูกฟ้องไล่ที่เกิดเมื่อปี 2539 น้องสาวเป็นผู้รับมอบอำนาจจาก “โชคชัยทรัพย์ทวี” ฟ้องร้องกล่าวหาเจ้าตัวบุกรุกที่ดิน ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาลฎีกา
วันนี้ (12 พ.ค.) นายภูเทพ สิทธิถาวร กรรมการผู้จัดการบริษัท ปัฐวิกรณ์ จำกัด เจ้าของตลาดปัฐวิกรณ์ ตั้งอยู่ที่ซอยนวมินทร์ 70 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังจากที่มีปัญหาเรื่องฟ้องร้องไล่ที่มานานหลายปีว่า ก่อนจะมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ตนเป็นผู้เริ่มทำตลาดปัฐวิกรณ์บนเนื้อที่ 70 ไร่ โดยที่แห่งนี้ตนได้มาจากแม่ ซึ่งแม่ได้นำพื้นที่แห่งนี้ไปจำนองไว้มีหนี้สิน 50 ล้านบาท โดยปี 2534 ตนได้นำเงินให้แม่ไปไถ่ถอนคืนมา และที่ดินดังกล่าวก็ตกเป็นของตน จากนั้นตนก็สร้างตลาดปัฐวิกรณ์ขึ้น จนกระทั่งปี 2538 นางวาสนา ธารวานิช น้องสาวตนได้ขอยืมที่ดินดังกล่าวไปค้ำประกันหนี้สินเพื่อไปสร้างโรงกลั่นน้ำมัน ชื่อสุโขทัยปิโตรเลียม ตนจึงทำสัญญายืมโดยได้เซ็นชื่อยินยอมทั้งสองฝ่าย ก่อนจะโอนให้น้องสาว
นายภูเทพ กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อปี 2539 ตนก็ถูกน้องสาวซึ่งรับมอบอำนาจจากบริษัท โชคชัยทรัพย์ทวี จำกัด ฟ้องร้องไล่ที่กล่าวหาว่าตนบุกรุกที่ดิน ตนจึงตกเป็นจำเลยทั้งที่ทำธุรกิจอยู่บนที่ดินของตัวเอง ขณะนี้การฟ้องร้องไล่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา เนื่องจากตนแพ้คดีจากชั้นต้นและอุทธรณ์ ตนจึงยื่นสู้ในชั้นฎีกาต่อ เนื่องจากตนเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ไม่เป็นธรรม เพราะมีการเปลี่ยนคณะพิจารณาคดีถึง 4 ชุด โดยแต่ละชุดไม่ได้อ่านหนังสือสัญญายืมที่ดินดังกล่าวที่ตนยื่นไป
นายภูเทพ กล่าวต่อไปว่า ในระหว่างที่มีการฟ้องคดีแพ่งไล่ยึดที่จากตนอยู่นั้น บริษัท โชคชัยทรัพย์ทวี จำกัด ได้ยื่นเรื่องต่อศาลขอเก็บค่าเช่าพื้นที่ในตลาดปัฐวิกรณ์ โดยอ้างว่าหากตนแพ้คดีจะไม่มีเงินจ่ายค่าเสียหาย แต่เรื่องนี้ตนชนะถึงศาลอุทธรณ์ก็ยืนตามศาลชั้นต้น เนื่องจากศาลพิจารณาว่าการฟ้องร้องเอาที่ดินไม่เกี่ยกับการทำธุรกิจ ตนจึงได้เก็บค่าเช่าตามเดิม
“การฟ้องร้องเรื่องที่ดินได้ยืดเยื้อมาจนถึงทุกวันนี้ และอยู่ในชั้นฎีกา แต่ยังไม่มีการนัดไต่สวน ผมมีโครงการขยายตลาดเพิ่มเติมโดยได้ทำลานจอดรถเนื้อที่ 12 ไร่ บนพื้นที่ที่มีปัญหากันอยู่ ทำให้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางบริษัท โชคชัยทรัพย์ทวี จำกัด ได้เข้าแจ้งความที่ สน.บึงกุ่ม ว่าตนบุกรุกที่ดิน โดยมี พ.ต.ท.สุชัย พุ่มไพศาลชัย รอง ผกก.สส.สน.บึงกุ่ม เป็นผู้รับเรื่อง หลังจากนั้นก็มีชายฉกรรจ์ประมาณ 80 คนมายึดพื้นที่ 12 ไร่ไว้ ผมจึงแจ้งความกลับฐานบุกรุกที่ สน.บึงกุ่มเช่นกัน แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ กระทั่งกลุ่มคนที่มายึดพื้นที่ลดลงเรื่อยๆ และปักหลักอยู่เหลือประมาณ 5-6 คน” นายภูเทพ กล่าว
นายภูเทพ กล่าวต่อว่า ในช่วงเช้าวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา กลุ่มชายที่ปักหลักยึดพื้นที่อยู่นั้นได้ไปรื้อสังกะสีซึ่งเป็นที่พักของคนงานก่อสร้างมาทำห้องน้ำ ทำให้ตนไม่พอใจจึงเข้าไปต่อว่า ขณะเดียวกัน จุดที่กินข้าวของกลุ่มชายดังกล่าวมีมีดอีโต้วางอยู่ เกรงว่าจะมีเรื่องรุนแรง อีกทั้งตนไปตัวเปล่าจึงคว้าเอามีดนั้นมาถือไว้แล้วไล่ให้กลุ่มคนดังกล่าวออกนอกพื้นที่ แต่มีหนึ่งในกลุ่มชายดังกล่าวอ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ซึ่งตนไม่เคยทราบมาก่อน จนกระทั่งในช่วงบ่าย พ.ต.ท.สุชัย ก็นำกำลังตำรวจประมาณ 20 นาย รถ 6 ล้อสำหรับขนผู้ต้องหา พร้อมด้วยกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เคยมายึดพื้นที่ประมาณ 80 คน เข้ามาในพื้นที่และรื้อประตูเหล็กที่ตนสั่งให้ลูกน้องกั้นปิดตายเอาไว้ ไม่ให้ใครมาบุกรุก ซึ่งหลังจากที่พังรั้วเข้ามาแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามาแจ้งฝ่ายตนว่าบุกรุกจะจับทุกคนไปสอบสวนที่ สน. ซึ่งในขณะนั้น นางนุชนภา สิทธิถาวร ภรรยาตนก็อยู่ในที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาจับกุมภรรยาตน แต่ภรรยาตนไม่ยอมเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด และตำรวจไม่มีหมายจับ จึงบอกกับตำรวจว่าถ้าจะจับให้ทำบันทึกจับกุม ทำให้ทางตำรวจทำบันทึกจับกุมในที่เกิดเหตุโดยอ้างชื่อในบันทึกตั้งแต่ ผกก.เป็นต้นมา จากนั้นก็พาตัวภรรยาตนไปที่ สน.แต่ก็ไม่สามารถแจ้งข้อหาได้ โดยอ้างว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอจึงไม่มีการแจ้งข้อหา ในจุดนี้ตนรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำไม่ถูกต้อง วางตัวไม่เป็นกลาง
“หลังเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้าดังกล่าว ในวันรุ่งขึ้น 18 เม.ย.ก็มีหมายจับมาถึงผม บอกว่าผมพยามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแค่หยิบมีดของพวกเขาที่วางอยู่บนโต๊ะมาถือไว้ เพราะเกรงว่าเขาจะทำร้ายผมก่อน และผมก็เอามาถือไว้เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร ขณะเดียวกัน ผมก็ไม่รู้ด้วยว่าคนที่มาปักหลักยึดพื้นที่อยู่นั้นเป็นตำรวจ” นายภูเทพกล่าว
นายภูเทพ บอกด้วยว่า ขณะนี้กำลังให้ทนายจัดเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อยื่นฟ้องนายตำรวจหลายนายในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ ผกก.สน.บึงกุ่ม พ.ต.ท.สุชัย พุ่มไพศาลชัย รอง ผกก.สส.สน.บึงกุ่ม และ จ.ส.ต.สันติธรรม ศิริกุล ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สน.บึงกุ่ม พร้อมพวก และจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อฟ้องในข้อหาอื่นๆ ด้วย แต่ในเบื้องต้นจะยื่นฟ้องในเรื่องปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นายภูเทพให้ข้อมูลถึงเรื่องดังกล่าวได้นำภาพถ่ายซึ่งเป็นหลักฐานในวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้ามาในพื้นที่ให้กับผู้สื่อข่าวดูด้วย และยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
วันนี้ (12 พ.ค.) นายภูเทพ สิทธิถาวร กรรมการผู้จัดการบริษัท ปัฐวิกรณ์ จำกัด เจ้าของตลาดปัฐวิกรณ์ ตั้งอยู่ที่ซอยนวมินทร์ 70 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังจากที่มีปัญหาเรื่องฟ้องร้องไล่ที่มานานหลายปีว่า ก่อนจะมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ตนเป็นผู้เริ่มทำตลาดปัฐวิกรณ์บนเนื้อที่ 70 ไร่ โดยที่แห่งนี้ตนได้มาจากแม่ ซึ่งแม่ได้นำพื้นที่แห่งนี้ไปจำนองไว้มีหนี้สิน 50 ล้านบาท โดยปี 2534 ตนได้นำเงินให้แม่ไปไถ่ถอนคืนมา และที่ดินดังกล่าวก็ตกเป็นของตน จากนั้นตนก็สร้างตลาดปัฐวิกรณ์ขึ้น จนกระทั่งปี 2538 นางวาสนา ธารวานิช น้องสาวตนได้ขอยืมที่ดินดังกล่าวไปค้ำประกันหนี้สินเพื่อไปสร้างโรงกลั่นน้ำมัน ชื่อสุโขทัยปิโตรเลียม ตนจึงทำสัญญายืมโดยได้เซ็นชื่อยินยอมทั้งสองฝ่าย ก่อนจะโอนให้น้องสาว
นายภูเทพ กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อปี 2539 ตนก็ถูกน้องสาวซึ่งรับมอบอำนาจจากบริษัท โชคชัยทรัพย์ทวี จำกัด ฟ้องร้องไล่ที่กล่าวหาว่าตนบุกรุกที่ดิน ตนจึงตกเป็นจำเลยทั้งที่ทำธุรกิจอยู่บนที่ดินของตัวเอง ขณะนี้การฟ้องร้องไล่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา เนื่องจากตนแพ้คดีจากชั้นต้นและอุทธรณ์ ตนจึงยื่นสู้ในชั้นฎีกาต่อ เนื่องจากตนเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ไม่เป็นธรรม เพราะมีการเปลี่ยนคณะพิจารณาคดีถึง 4 ชุด โดยแต่ละชุดไม่ได้อ่านหนังสือสัญญายืมที่ดินดังกล่าวที่ตนยื่นไป
นายภูเทพ กล่าวต่อไปว่า ในระหว่างที่มีการฟ้องคดีแพ่งไล่ยึดที่จากตนอยู่นั้น บริษัท โชคชัยทรัพย์ทวี จำกัด ได้ยื่นเรื่องต่อศาลขอเก็บค่าเช่าพื้นที่ในตลาดปัฐวิกรณ์ โดยอ้างว่าหากตนแพ้คดีจะไม่มีเงินจ่ายค่าเสียหาย แต่เรื่องนี้ตนชนะถึงศาลอุทธรณ์ก็ยืนตามศาลชั้นต้น เนื่องจากศาลพิจารณาว่าการฟ้องร้องเอาที่ดินไม่เกี่ยกับการทำธุรกิจ ตนจึงได้เก็บค่าเช่าตามเดิม
“การฟ้องร้องเรื่องที่ดินได้ยืดเยื้อมาจนถึงทุกวันนี้ และอยู่ในชั้นฎีกา แต่ยังไม่มีการนัดไต่สวน ผมมีโครงการขยายตลาดเพิ่มเติมโดยได้ทำลานจอดรถเนื้อที่ 12 ไร่ บนพื้นที่ที่มีปัญหากันอยู่ ทำให้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางบริษัท โชคชัยทรัพย์ทวี จำกัด ได้เข้าแจ้งความที่ สน.บึงกุ่ม ว่าตนบุกรุกที่ดิน โดยมี พ.ต.ท.สุชัย พุ่มไพศาลชัย รอง ผกก.สส.สน.บึงกุ่ม เป็นผู้รับเรื่อง หลังจากนั้นก็มีชายฉกรรจ์ประมาณ 80 คนมายึดพื้นที่ 12 ไร่ไว้ ผมจึงแจ้งความกลับฐานบุกรุกที่ สน.บึงกุ่มเช่นกัน แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ กระทั่งกลุ่มคนที่มายึดพื้นที่ลดลงเรื่อยๆ และปักหลักอยู่เหลือประมาณ 5-6 คน” นายภูเทพ กล่าว
นายภูเทพ กล่าวต่อว่า ในช่วงเช้าวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา กลุ่มชายที่ปักหลักยึดพื้นที่อยู่นั้นได้ไปรื้อสังกะสีซึ่งเป็นที่พักของคนงานก่อสร้างมาทำห้องน้ำ ทำให้ตนไม่พอใจจึงเข้าไปต่อว่า ขณะเดียวกัน จุดที่กินข้าวของกลุ่มชายดังกล่าวมีมีดอีโต้วางอยู่ เกรงว่าจะมีเรื่องรุนแรง อีกทั้งตนไปตัวเปล่าจึงคว้าเอามีดนั้นมาถือไว้แล้วไล่ให้กลุ่มคนดังกล่าวออกนอกพื้นที่ แต่มีหนึ่งในกลุ่มชายดังกล่าวอ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ซึ่งตนไม่เคยทราบมาก่อน จนกระทั่งในช่วงบ่าย พ.ต.ท.สุชัย ก็นำกำลังตำรวจประมาณ 20 นาย รถ 6 ล้อสำหรับขนผู้ต้องหา พร้อมด้วยกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เคยมายึดพื้นที่ประมาณ 80 คน เข้ามาในพื้นที่และรื้อประตูเหล็กที่ตนสั่งให้ลูกน้องกั้นปิดตายเอาไว้ ไม่ให้ใครมาบุกรุก ซึ่งหลังจากที่พังรั้วเข้ามาแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามาแจ้งฝ่ายตนว่าบุกรุกจะจับทุกคนไปสอบสวนที่ สน. ซึ่งในขณะนั้น นางนุชนภา สิทธิถาวร ภรรยาตนก็อยู่ในที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาจับกุมภรรยาตน แต่ภรรยาตนไม่ยอมเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด และตำรวจไม่มีหมายจับ จึงบอกกับตำรวจว่าถ้าจะจับให้ทำบันทึกจับกุม ทำให้ทางตำรวจทำบันทึกจับกุมในที่เกิดเหตุโดยอ้างชื่อในบันทึกตั้งแต่ ผกก.เป็นต้นมา จากนั้นก็พาตัวภรรยาตนไปที่ สน.แต่ก็ไม่สามารถแจ้งข้อหาได้ โดยอ้างว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอจึงไม่มีการแจ้งข้อหา ในจุดนี้ตนรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำไม่ถูกต้อง วางตัวไม่เป็นกลาง
“หลังเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้าดังกล่าว ในวันรุ่งขึ้น 18 เม.ย.ก็มีหมายจับมาถึงผม บอกว่าผมพยามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแค่หยิบมีดของพวกเขาที่วางอยู่บนโต๊ะมาถือไว้ เพราะเกรงว่าเขาจะทำร้ายผมก่อน และผมก็เอามาถือไว้เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร ขณะเดียวกัน ผมก็ไม่รู้ด้วยว่าคนที่มาปักหลักยึดพื้นที่อยู่นั้นเป็นตำรวจ” นายภูเทพกล่าว
นายภูเทพ บอกด้วยว่า ขณะนี้กำลังให้ทนายจัดเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อยื่นฟ้องนายตำรวจหลายนายในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ ผกก.สน.บึงกุ่ม พ.ต.ท.สุชัย พุ่มไพศาลชัย รอง ผกก.สส.สน.บึงกุ่ม และ จ.ส.ต.สันติธรรม ศิริกุล ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สน.บึงกุ่ม พร้อมพวก และจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อฟ้องในข้อหาอื่นๆ ด้วย แต่ในเบื้องต้นจะยื่นฟ้องในเรื่องปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นายภูเทพให้ข้อมูลถึงเรื่องดังกล่าวได้นำภาพถ่ายซึ่งเป็นหลักฐานในวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้ามาในพื้นที่ให้กับผู้สื่อข่าวดูด้วย และยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด