xs
xsm
sm
md
lg

พบแม่เฒ่าวัย 78 อาศัยข้าวก้นบาตรเลี้ยงลูกสาวแฝดพิการมากว่า 30 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปราจีนบุรี - พบสุดยอดแม่ชราวัย 78 ปีเฝ้าดูแล 2 ลูกสาวฝาแฝดพิการทั้งคู่ คนแรกได้แต่นอนกับที่ไปไหนไม่ได้ อีกคนนั่งไม่ได้รวม 33 ปีตั้งแต่ป้อนข้าว ป้อนน้ำ อาบน้ำ ฉี่ อุจจาระ อาศัยข้าวก้นบาตรอาหารจากพระที่เมตตา โดยแม่คอยเฝ้าดูแลเก็บกวาด หุงหาข้าว-อาหาร ทำความสะอาดกุฏิ ศาลาการเปรียญวัดเพื่อช่วยเหลือตอบแทน

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนอยากให้ช่วยกระจายข่าวผู้ใจบุญ หรือหน่วยงานภาครัฐบาลได้ดูแลครอบหญิงชราภาพวัยใกล้ 80 ปีที่ทำหน้าที่แม่ดูแลลูกสาวฝาแฝด 2 คนที่พิการมาตั้งแต่เด็ก คนแรกต้องนอนนิ่งที่เตียงได้อย่างเดียว อีกคนยืนได้อย่างเดียวไม่สามารถนั่งได้ ตลอด 33 ปีอย่างใกล้ชิดเป็นที่น่าเวทนา ผู้เป็นแม่ไม่สามารถประกอบอาชีพอื่นได้อาศัยยังชีพเลี้ยงครอบครัวโดยข้าวก้นบาตรพระที่เมตตาให้เลี้ยงชีพ โดยคอยช่วยเหลือวัดทำความสะอาดถ้วยจาน หุงหาอาหารการกินให้พระ ทำความสะอาดศาลาการเปรียญ เก็บข้าวของ โดยเฉพาะความเป็นห่วงที่หากแม่ผู้สูงวัยที่หากเสียชีวิตจะทำให้ 2 สาวฝาแฝดไร้ที่พึงพาเนื่องจากหน่วยภาครัฐขาดการดูแลอย่างจริงจัง จึงได้เดินทางมาพิสูจน์ข้อเท็จจริง

แยกจากถนนสายปราจีนตคาม เยื้องฝั่งตรงข้ามก่อนถึงที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดงพระราม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เป็นทางลูกรังเล็กๆ เลยเข้ามาเกือบ 200 เมตรเศษพบบ้านเดี่ยวปูนชั้นเดียวปลูกติดพื้นพบนางจ้อย จิตพินิจ อายุ 78 ปี บ้านเลขที่ 1 หมู่ 7 ต.ดงพระราม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี กำลังนั่งพัดวีพูดคุยกับลูกสาวฝาแฝดพิการมี น.ส.กัลยา จิตพินิจ อายุ 38 ปี (พี่สาว) สภาพแขนขาลีบเล็กผ่ายผอมยืนถือไม้เท้าอยู่ใกล้ๆ และ น.ส.ธิดา จิตพินิจ อายุ 38 ปี (น้องสาว) นอนบนเตียงหวายถักสภาพแขนขาลีบเล็กไม่สามารถขยับได้อยู่บริเวณชานหน้าบ้านที่เปิดโล่ง

นางจ้อย เผยว่า ตนมีลูกทั้งหมด 7 คนเป็นชาย 3 คน หญิง 4 คน โดยลูกสาวพิการทั้งคู่เป็นคนเล็กสุดท้อง ปัจจุบันต่างแยกย้ายไปอยู่กับครอบครัวกันหมดแล้ว ตนเป็นคอยดูแลลูกพิการตามลำพัง

“ฉันมีสามีชื่อนายจำนง จิตพินิจ เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.ดงพระราม เสียชีวิตตั้งแต่ลูกแฝดทั้งคู่อยู่ในท้องประมาณ 3 เดือน ส่วนลูกสาวฝาแฝดพิการขณะเมื่ออายุได้ 6 ปี น.ส.กัลยา มีอาการหลังแข็ง หลับนิทรานาน 11 วันได้พาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โดย น.ส.กัลยา นอนหลังฟื้นข้นมาแขนขาไม่มีแรงเริ่มลีบเล็กไม่มีแรง ต้องยืนอย่างเดียวนั่งไม่ได้ ไล่ๆ กัน น.ส.ธิดา ด้านหลังเกิดมีกระดูกโค้งงอออกมาลุกเดินหรือนั่งไม่ได้ต้องนอนอย่างเดียวในคราวเดียวกันทั้งคู่”

“เบื้องต้นได้นำไปรักษาอาการ แพทย์นำไปทำกายภาพบำบัดแต่ไม่ได้ผล จึงต้องนำกับมารักษาเป็นภาระเลี้ยงดูตั้งแต่เล็กตลอดถึงปัจจุบันรวมเวลากว่า 33 ปี ที่ต้องคอยป้อนข้าว ป้อนน้ำ อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย เก็บอุจจาระ ปัสสาวะพาเข้าที่นอน ให้ลูกพิการทั้ง 2 นี้ ทั้งนี้ ลูกทั้งคู่แขนไม่มีแรงยกตักอาหารหรือช่วยเหลือตัวเองใดๆ ได้เลย โดยกันยาต้องยืนตลอดจะนั่งไม่ได้เวลาอุจจาระ หรือปัสสาวะต้องยืนฉี่ต้องถังเมล์รอง เวลานอนต้องแบกขึ้นเตียงเอาหัวลงก่อนและตามส่วนขา ส่วน น.ส.ธิดา นั้นต้องนอนอย่างเดียวขยับลุกนั่งหรือยืนใดๆ ไม่ได้เลยอุจจาระ หรือปัสสาวะต้องยืนฉี่ต้องถังเมล์รอง ช่วยเหลือเช่นกันตลอด ช่วงรับประทานอาหารจะเคี้ยวลำบากเนื่องจากกรามกล้ามเนื้อยึดขยับได้ช้า เวลานอนโดยลากเตียงหวายมานอนใกล้ๆ กัน”

“จากที่มีลูกมากและต้องรับภาระดูแลลูกพิการฝาแฝดนี้ทำให้ไม่มีอาชีพใดๆ ต้องอาศัยความเมตตารอรับเศษอาหารข้าวก้นบาตรจากพระสงฆ์วัดแก้วสามัคคี (วัดสะเดาโด่) หมู่ที่ 7 ต.ดงพระราม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เลี้ยงชีวิตลูกๆ ทั้งหมดเติบโตขึ้นมาได้พร้อมๆ ลูกฝาแฝดพิการนี้

ทั้งนี้ ดิฉันได้ช่วยดูแลตอบแทนพระคุณโดยการทำความสะอาดบาตร ปิ่นโต หุงหาอาหาร ความสะอาดศาลาการเปรียญ เก็บข้าวของจัดการดูแลให้เรียบร้อยตอบแทน โดยก่อน 08.00 น.หลังป้อนข้าว น้ำลูกแฝดแล้วจะไปวัดช่วยพระ หลังเพลจะรีบกลับมาป้อนข้าว น้ำดูแลลูกอีกหมุนเวียนตลอดช่วงไปวัดจะคอยอาศัยนางจอย แจ่มศรี อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวดิฉันบ้านใกล้ๆ กันคอยดูแล ในบางเวลาพระบรรจง พี่ชายของ 2 ลูกสาวพิการจะมาคอยช่วยดูแลอีกคน”

“ความแร้นแค้นยากจนนี้ลูกๆ ที่แยกย้ายไปมีครอบครัวก็ล้วนยากจนต้องดิ้นรนไปทำงานที่อื่นไม่สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลใดๆ ได้จึงอาศัยข้าวก้นบาตรจากพระมาตลอดถึงทุกวันนี้เลี้ยงชีพ รวมถึงผู้คนที่เมตตาบริจาคเป็นทานเวลามีงานใดๆ ที่มาจัดที่วัดครั้งละ 100-200 บาท และก่อนหน้านี้ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุพอเลี้ยงปากท้องได้บ้าง รวมถึงเบี้ยสวัสดิการผู้พิการทุพลภาพที่องค์การบริหารส่วนตำบลดงพระรามจัดให้ลูกสาวฝาแฝดพิการ ได้รับเพียง 1 คนอีกตนไม่ได้รับ แต่ขณะนี้หลังจากอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลดงพระราม (อบต.) ลาออก และมีการเลือกตั้งใหม่ รวม 7 เดือนแล้วที่ผู้สูงอายุและพิการไม่ได้รับสวัสดิการช่วยเหลือดังกล่าว

“ในน้ำใจผู้ใจบุญมีคนมาเยี่ยมดูลูกสาวทั้งคู่และเมตตาให้เงินช่วยเหลือให้ประทังชีวิตบ้างโดยส่วนมากเป็นคนที่เคยไปทำบุญที่วัดแล้วรู้เรื่องราว อยากวิงวอนผู้ที่สามารถช่วยเหลือสวัสดิการแก่ผู้ชรา คนพิการที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ให้มาช่วยลูกสาวด้วย เพราะในชีวิตดิฉันนี้ลำบากมาตลอด หลังที่ไปไหนลำบากทำกินไม่ได้ นับจากสมัยก่อนต้องคอยเก็บข้าวตกที่หลังเก็บเกี่ยวไปแลกข้าวสารจากโรงสีกิน นำมาหุงรวมกับเศษมันเทศที่หลงจากเจ้าของเก็บเหลือๆ เศษ และแม้ต้องทำงานแลกเศษข้าวก้นบาตรที่พระสงฆ์เมตตาทุกวัน” นางจ้อย กล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น