สกลนคร - ชาวสกลนคร วอนช่วยครอบครัวพิการ พ่อวัย 71 ปี ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ต้องนอนซมนาน 11 ปี ส่วนลูกสาววัย 27 ปียิ่งหนักกว่า ต้องนอนนิ่งกับที่ช่วยตัวเองไม่ได้นาน 22 ปี ภาระหนักตกกับแม่วัย 71 ปี ต้องดูแลไม่ห่างทั้งที่ตัวเองตาพร่ามัวและเป็นโรคปวดหลัง
ผู้สื่อข่าว จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจาก นายวิศักดิ์ แก้วศิริ หัวหน้าชุดกู้ภัย เมตตาธรรมมูลนิธิ จ.สกลนคร ว่ามีครอบครัวคนพิการมีสภาพชีวิตน่าสงสาร และมีฐานะยากจน โดยผู้ป่วยต้องนอนซมอยู่กับที่มาเป็นเวลายาวนาน เนื่องจากช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ภาระการดูแลจึงต้องตกอยู่กับหญิงชรา อายุ 71 ปี คอยช่วยเหลือในเวลาขับถ่าย ชำระล้าง และป้อนข้าวน้ำ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 12 บ้านหนองไผ่ ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร พบเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง บนบ้านติดบันได พบชายชราสภาพร่างกายผอมเกร็งนอนอยู่บนที่นอนเก่า โดยที่ปลายเท้ามีเชือกไนลอนผู้ติดกับผนังห้อง ทราบชื่อ นายควง งอยภูธร อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน สอบถามทราบว่า เมื่อ 11 ปีที่ผ่านมา ขณะที่กำลังหิ้วถังน้ำไปให้วัว เกิดความรู้สึกปวดเสียวที่สันหลังจึงเข้ารับการรักษาที่ รพ.สกลนคร
แต่อาการไม่ดีขึ้น ต่อมาได้กลายเป็นอัมพฤกษ์ท่อนล่างครึ่งตัวและต้องนอนอยู่กับที่ ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ส่วนเชือกที่เห็นผูกติดกับผนังห้อง เพื่อใช้ในการดึงโยงตัวขึ้นนั่ง แต่กว่าจะโยงลุกขึ้นนั่งได้ต้องใช้เวลาครั้งละ 20-30 นาที ดังนั้น นางบุญ งอยภูธร อายุ 71 ปี ผู้เป็นภรรยา ต้องคอยเฝ้าอยู่ไม่ห่าง
เช่น หาข้าวน้ำมาให้รับประทาน ส่วนการขับถ่ายหรือชำระล้างร่างกาย นางบุญภรรยาซึ่งอายุมากแล้ว และสายตาพร่ามัวแถมยังเป็นโรคปวดหลัง จะเป็นผู้ที่คอยลากและหามไปขับถ่าย แต่ละครั้งสร้างความลำบากเป็นอย่างมาก บางครั้งถึงกับต้องขับถ่ายบนที่นอนก็มี
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า บนบ้านหลังเดียวกันยังมีร่างของหญิงสาวที่มีสภาพร่างกายผ่ายผอมนอนอยู่กับที่ โดยมีผู้เป็นแม่ คือนางบุญ งอยภูธร นั่งเฝ้าเพื่อคอยเช็ดตัวให้ ทราบชื่อหญิงสาวคือ นส.ชัยชนะ งอยภูธร อายุ 27 ปี นางบุญเล่าว่า บุตรสาวของตนไม่แข็งแรง เดินไม่ได้ตั้งแต่อายุ 5-6 ขวบ ดังนั้นจึงต้องนอนอยู่กับที่ โดยสภาพร่างกายแล้วจะมีอาการหนักกว่านายควงผู้เป็นพ่อ เพราะบุตรสาวจะนอนนิ่งคล้ายไม่รับรู้ แต่บางครั้งก็จะยกแขนสองข้างมาบิดม้วนพันกัน ไม่ทราบว่าสื่อความหมายอะไร นอกจากนี้ ตนยังต้องดูแลในด้านการกินข้าวน้ำต้องคอยป้อนวันละ 3 เวลา อาหารที่รับประทานก็คือยำแตงกวาแล้วคลุกกับน้ำปลา ซึ่งบางครั้งก็กินได้บางครั้งก็ไม่ได้ โดยข้าวและน้ำจะไหลออกจากปากอยู่ตลอด
ส่วนการขับถ่ายหรือชำระล้าง ตนก็เป็นผู้ดูแลด้วยการลากไปที่ชานบ้าน แล้วให้นอนอุจจาระและปัสสาวะ ยังดีที่ช่วงนี้มีบุตรสาวอีกคนมาคอยช่วยเหลือ แต่บุตรสาวก็ต้องไปทำงานภาระหนักจึงต้องตกอยู่กับตน ทั้งๆที่สุขภาพร่างกายของตนก็ไม่ดี สายตามองไม่เห็นชัดและยังมีอาการปวดหลังตามประสาคนชรา
ไม่ทราบว่าจะดูแลทั้งสองคนได้อีกนานแค่ไหน เพราะรายได้ก็ไม่มีเนื่องจากไม่มีอาชีพ ในแต่ละเดือนมีเพียงเงินเบี้ยยังชีพคนพิการ คนละ 500 บาทต่อเดือน รวมเพียงแค่ 1 พันบาทเท่านั้น จึงต้องประหยัดหากเงินหมดก็หมดเลย
นางบุญ เล่าอีกว่า รู้สึกสงสารสามีที่เคยเป็นเสาหลักของครอบครัว เคยมีอาชีพทำนาและเลี้ยงวัว แต่หลังจากล้มป่วยลง รายได้ที่เคยมีก็หายไป ไหนจะต้องคอยดูแลสามีไหนจะดูแลลูก ไม่มีเวลาที่จะไปไหนเช่นคนอื่นๆ บางครั้งก็รู้สึกท้อแท้ แต่ก็ทิ้งไปไม่ได้คนหนึ่งก็สามี อีกคนหนึ่งก็ลูก ถึงอย่างไรก็ได้ดูแลมานานแล้วจึงต้องอดทนต่อสู้ต่อไป เคยทุกข์ยากลำบากมาด้วยกัน ตอนนี้นาข้าวก็กำลังจะเก็บเกี่ยว โดยที่นามีทั้งหมด 8 ไร่ ก็วานญาติพี่น้องเพื่อนบ้านมาช่วย แต่ที่นาก็ไม่ทราบว่าเขาจะยึดเมื่อไหร่ เพราะได้ติดจำนองอยู่กับ ธกส. จำนวน 30,000 บาท แต่เมื่อล้มป่วยลง จึงไม่ได้ส่งทั้งต้นทั้งดอกเบี้ย มานานนับสิบปีแล้ว
จนขณะนี้ได้รับแจ้งหนี้ เป็นเงิน 86,000 บาท ซึ่งถ้าหากที่นาถูกยึดไป ตนไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร เพราะเป็นมรดกเพียงชิ้นเดียวที่มีอยู่ ยังดีที่เพื่อนบ้านหยิบยื่นให้จึงมีชีวิตรอดมาได้ ต้องขอบคุณเพื่อนบ้านที่คอยช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม นางบุญบอกว่า อยากขอวิงวอนถึงสังคมและผู้ใจบุญ หากสงสารครอบครัวของตน สามารถที่จะช่วยเหลือบริจาคเงิน ได้ที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาสกลนคร (ธ.ก.ส.) ชื่อบัญชี เพื่อนายควง งอยภูธร บัญชีเลขที่ 037-2-18642-2 และอีกบัญชี ธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาสกลนคร เช่นกัน ชื่อบัญชี นางเพชร มุงคุณ เพื่อ นส.ชัยชนะ งอยภูธร เลขบัญชี 037-2-66734-1 ซึ่งก็ต้องขอขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสนี้
