แพร่ – ชาวบ้านในเขตภัยพิบัติเด่นชัยเรียกร้องให้ อ.อ.ป.ยุติการทำไม้เพื่ออุตสาหกรรมในพื้นที่ หวั่นเป็นต้นเหตุให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มหนักซ้ำรอยปี 2549 โดยเสนอให้อนุรักษ์สภาพและฟื้นฟูเป็นป่าต้นน้ำ
รายงาจากจังหวัดแพร่แจ้งว่า ขณะนี้ทางกลุ่มชาวบ้านในอำเภอเด่นชัย รวมทั้งจังหวัดอุตรดิตถ์ บางส่วนที่อยู่ในเขตติดต่อกัน ซึ่งประสบภัยจากการเกิดน้ำป่าและดินถล่มเมื่อปี 2549 ที่ผ่านมา ได้พยายามที่จะเรียกร้องให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ยุติการทำไม้ในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงอย่างเช่นตำบลห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย เป็นต้น เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะทำให้พื้นที่ป่าลดน้อยลงและจะเกิดความเสียหายรุนแรงยิ่งขึ้นหามีเหตุภัยพิบัติเกิดขึ้นอีก
ทั้งนี้ นายมานิตย์ ศรีมูล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านห้วยลากปืน ตำบลห้วยไร่ อำเด่นชัย จังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า ป่าในเขตตำบลห้วยไร่ เป็นป่าดงดิบ และเป็นเขตต้นน้ำสำคัญของจังหวัดแพร่ โดยปัจจุบันพบว่าป่ามีการเสื่อมสภาพ ซึ่ง อ.อ.ป.เป็นหน่วยงานแรกที่เข้าไปปรับสภาพจากป่าดงดิบให้กลายเป็นสวนป่าไม้สักแล้วหลังจากนั้นก็มีโครงการส่งเสริมการเกษตรที่มากับโครงการของรัฐ เช่น การส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจเชิงเดี่ยว เป็นต้น เข้ามาทำลายเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งชาวบ้านเห็นว่าทางออกที่ดีที่สุดในการรักษาสภาพป่าก็คือการให้ ออป.หยุดการตัดไม้ออกไปจำหน่ายโดยเด็ดขาด และไม่ให้มีการขยายพื้นที่ทำการเกษตรเพิ่ม
ขณะที่ นางกรรณิการ์ ชุมภูศรี ฝ่ายข้อมูลศูนย์พัฒนาองค์กรชาวบ้านเพื่อการพึ่งตนเองอย่างยั่งยืนจังหวัดแพร่ กล่าวว่า การจัดการในพื้นที่ประสบภัย มีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องในการฟื้นฟูและวางแผนการป้องกันไม่ให้ประวัติซ้ำรอยขึ้นมาอีก แต่พบว่าพฤติกรรมของหน่วยงานที่ทำลายป่าไม่เปลี่ยนแปลงยังคงเข้าทำลายป่าอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะ อ.อ.ป.ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ที่เข้ามาปลูกป่าแล้วตัดออกไปจำหน่าย ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมเลย ทั้งนี้ทางออกที่ดีที่สุดคือการหยุดและคืนพื้นที่ป่าเศรษฐกิจให้กับป่าธรรมชาติ
โดยเห็นว่าในพื้นที่ตำบลห้วยไร่นั้น เหมาะที่จะอนุรักษ์ไว้ให้เป็นป่าต้นน้ำ และแหล่งที่มีความหลากหลายทางทรัพยากร ซึ่งกระแสการจัดการป่าโดยประชาชนเป็นกระแสที่เกิดจากความวิตกกังวลในปัญหาภัยพิบัติที่จะประมาทไม่ได้ในพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ต้องหันกลับมามองและหาทางออก โดยเฉพาะการหยุดสภาวะโลกร้อนและภัยพิบัติ ที่มีทางออกที่ดีคือการคืนพื้นที่ให้ธรรมชาติเท่านั้น
รายงาจากจังหวัดแพร่แจ้งว่า ขณะนี้ทางกลุ่มชาวบ้านในอำเภอเด่นชัย รวมทั้งจังหวัดอุตรดิตถ์ บางส่วนที่อยู่ในเขตติดต่อกัน ซึ่งประสบภัยจากการเกิดน้ำป่าและดินถล่มเมื่อปี 2549 ที่ผ่านมา ได้พยายามที่จะเรียกร้องให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ยุติการทำไม้ในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงอย่างเช่นตำบลห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย เป็นต้น เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะทำให้พื้นที่ป่าลดน้อยลงและจะเกิดความเสียหายรุนแรงยิ่งขึ้นหามีเหตุภัยพิบัติเกิดขึ้นอีก
ทั้งนี้ นายมานิตย์ ศรีมูล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านห้วยลากปืน ตำบลห้วยไร่ อำเด่นชัย จังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า ป่าในเขตตำบลห้วยไร่ เป็นป่าดงดิบ และเป็นเขตต้นน้ำสำคัญของจังหวัดแพร่ โดยปัจจุบันพบว่าป่ามีการเสื่อมสภาพ ซึ่ง อ.อ.ป.เป็นหน่วยงานแรกที่เข้าไปปรับสภาพจากป่าดงดิบให้กลายเป็นสวนป่าไม้สักแล้วหลังจากนั้นก็มีโครงการส่งเสริมการเกษตรที่มากับโครงการของรัฐ เช่น การส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจเชิงเดี่ยว เป็นต้น เข้ามาทำลายเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งชาวบ้านเห็นว่าทางออกที่ดีที่สุดในการรักษาสภาพป่าก็คือการให้ ออป.หยุดการตัดไม้ออกไปจำหน่ายโดยเด็ดขาด และไม่ให้มีการขยายพื้นที่ทำการเกษตรเพิ่ม
ขณะที่ นางกรรณิการ์ ชุมภูศรี ฝ่ายข้อมูลศูนย์พัฒนาองค์กรชาวบ้านเพื่อการพึ่งตนเองอย่างยั่งยืนจังหวัดแพร่ กล่าวว่า การจัดการในพื้นที่ประสบภัย มีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องในการฟื้นฟูและวางแผนการป้องกันไม่ให้ประวัติซ้ำรอยขึ้นมาอีก แต่พบว่าพฤติกรรมของหน่วยงานที่ทำลายป่าไม่เปลี่ยนแปลงยังคงเข้าทำลายป่าอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะ อ.อ.ป.ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ที่เข้ามาปลูกป่าแล้วตัดออกไปจำหน่าย ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมเลย ทั้งนี้ทางออกที่ดีที่สุดคือการหยุดและคืนพื้นที่ป่าเศรษฐกิจให้กับป่าธรรมชาติ
โดยเห็นว่าในพื้นที่ตำบลห้วยไร่นั้น เหมาะที่จะอนุรักษ์ไว้ให้เป็นป่าต้นน้ำ และแหล่งที่มีความหลากหลายทางทรัพยากร ซึ่งกระแสการจัดการป่าโดยประชาชนเป็นกระแสที่เกิดจากความวิตกกังวลในปัญหาภัยพิบัติที่จะประมาทไม่ได้ในพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ต้องหันกลับมามองและหาทางออก โดยเฉพาะการหยุดสภาวะโลกร้อนและภัยพิบัติ ที่มีทางออกที่ดีคือการคืนพื้นที่ให้ธรรมชาติเท่านั้น