สกลนคร - เพิ่งต้นฤดูฝน ราคาตลาดผักสดเมืองสกลนครคึกคัก เร่งปรับราคาขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยผักบางอย่างขึ้นกว่า 2 เท่าตัว และมีบางชนิดแพงสุดๆ เช่นต้นหอมปรับราคาสูงขึ้นถึง 5 เท่า ผู้บริโภคต้องจำใจซื้อแม้จะเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์ตลาดผักสดเมืองสกลนคร ณ วันนี้ (14 พ.ค.) เวลา 02.30 น.ที่มีพ่อค้าแม่ค้า นำใส่รถบรรทุกมาจอดขายแก่ พ่อค้าแม่ค้าที่จะมาซื้อไปประกอบอาหาร หรือนำไปจำหน่ายต่อ ซึ่งในแต่ละวันที่บริเวณริมถนนหน้า สำนักงานเทศบาลเมืองสกลนคร จะมีรถบรรทุกผักมาจอดคืนละกว่า 30 คัน โดยจะมีผักสดทุกๆชนิด ซึ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัด เช่น จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดเลย บรรทุกผักเต็มคันรถมาจำหน่ายแก่ชาวสกลนคร
โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่จะมารับซื้อไปประกอบอาหารขาย ซึ่งการขายจะดำเนินเป็นประจำทุกวันตั้งแต่เวลา 1 ทุ่ม จนถึงตี 5 ของวันต่อไป
นางสาวรัตนา ศรีสุโพธิ์ อายุ 21 ปี แม่ค้ารายหนึ่ง จากอำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร บอกว่า ราคาผักตอนนี้ถือว่าปรับตัวขึ้นราคามาก เช่น ต้นหอมขายส่ง 50-60 บาทต่อ 1 กิโลกรัมถ้าขายปลีก กิโลกรัมละ 70 บาท ผักชีขายส่งกิโลกรัมละ 60 บาท มะละกอ 10 กิโลกรัม ขายส่ง 60 บาท ขายปลีก 70-80 บาท มะเขือเทศเมื่อก่อนกิโลละ 5 บาท ตอนนี้กิโลกรัมละ 20 -25 บาท พริกแห้งกิโลกรัมละ 100 บาท
พริกสดขายส่งกิโลกรัมละ 60 บาท มะนาวลูกละ 2-3 บาทตามเกรด ส่วนแตงกวาขายตามเกรด ลูกใหญ่สภาพดี ขายส่งกิโลกรัมละ 10 บาท
ในขณะที่ นายมานิตย์ นุชิตภาพ อายุ 26 ปี อำเภอเมืองสกลนคร พ่อค้าอีกราย บอกว่าตนไปรับผักมาจากจังหวัดอุดรธานี ราคากระหล่ำปลีแต่ก่อนราคาขายส่งถุงละ 80 บาท (10 กก.) ตอนนี้ราคาถุงละ 170-180 บาท ส่วนขายปลีกกิโลกรัมละ 30-40 บาท พริกสดเมื่อก่อน 12 กิโลต่อ 450 บาท ตอนนี้ 12 กิโลขาย 650 บาท ผักกาดขาวราคาเท่ากันกับกระหล่ำปลี ซึ่งถือว่าราคาแพงขึ้นกว่า 1 เท่าตัว
ผักคะน้า 1 ถุงน้ำหนัก 5 กิโล ราคาขายส่ง ถุงละ 120 บาท หัวไช้เท้าถุง 5 กก.ราคา 110 บาท ต้นหอมขายกิโลละ 65 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 12 บาท ซึ่งถือว่าราคาแพงขึ้นประมาณ 5 เท่า
นายมานิตย์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับผักดังกล่าว กะหล่ำ และผักกาดขาว หลักๆ จะมาจากอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ คะน้าจะมาจากโคราช และขอนแก่น ส่วนพืชผักที่มาจากกรุงเทพก็มี เช่น หอมใหญ่ แครอท มะนาว มะละกอดำเนิน มันต่างๆ ต้นหอมมาจากจังหวัดอุดรธานี ส่วนสาเหตุที่ทำให้ราคาผักแพงขึ้น สาเหตุมาจากพ่อค้าคนกลางต้องแบกภาระเพิ่มขึ้น เช่น ราคาน้ำมันที่ปรับราคาขึ้นไปอยู่ตลอด
ทำให้มีต้นทุนการผลิตสูงเนื่องจากราคาหน้าสวนก็แพงตามไปด้วย โดยเฉพาะปุ๋ยและยาปราบศัตรูพืชก็แพงขึ้น เกษตรกรจึงต้องปรับราคาไม่เช่นนั้นก็อยู่ไม่ได้ ทำให้ต้องขายกันและบริโภคกันแบบแพงๆเช่นนี้ต่อไป แต่ถ้าหากทางราชการจะยื่นมือเข้าช่วย ก็น่าจะเป็นปุ๋ยและยาฆ่าแมลง เพราะตอนนี้กำไรก็น้อยอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคที่มาเดนเลือกซื้อผัก ต่างก็พากันโอดครวญที่ต้องมีภาระเพิ่ม แต่ก็ต้องจำใจซื้อไปประกอบอาชีพ เช่นแม่ค้าขายกับข้าว ส่วนแม่บ้านต้องรัดเข็มขัดประหยัดลงกว่าเดิม