พะเยา - ผู้บริหาร อปท.ชี้การแก้รัฐธรรมนูญยังไม่จำเป็น วอนรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาปากท้องให้รากหญ้าก่อนวิกฤตหนัก ย้ำปัญหาเศรษฐกิจและสังคมต้องได้รับการเยียวยาด่วน
นายประสิทธิ์ สมัคร นายกเทศมนตรีตำบล (ท.ต.) เชียงม่วน อ.เชียงม่วน จ.พะเยา กล่าวถึงการดำเนินการเร่งแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองต่างๆ ในรัฐบาลว่า โดยภาพรวมตนเห็นด้วยในหลักการ แต่ต้องมุ่งไปที่เป้าประสงค์หลักว่าต้องเป็นการกระทำเพื่อผลประโยชน์โดยรวมของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่แก้ไข เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
แต่ส่วนตัวจริงๆ ตนคิดว่าเวลานี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะต้องเร่งรีบแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะหากสังเกตจากการออกเสียงประชามติของประชาชนทั่วประเทศ ในการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ผ่านมา พบว่าประชามติเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีมากกว่าการไม่เห็นชอบ
นายก ท.ต.เชียงม่วน กล่าวต่อว่า เนื่องจากประชาชนต้องการให้มีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมโดยเร็วที่สุด ที่ผ่านมาประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ในสังคมต่างบอบช้ำกับการปฏิวัติมามากแล้ว
หลายคนคาดหวังเมื่อครั้งปฏิวัติว่า จะทำให้มีการแก้ไขปัญหาของประเทศในหลายๆ ด้านให้ดีขึ้นหลังการปฏิวัติแต่ปรากฏว่ารัฐบาลในครั้งนั้น ไม่ได้ทำให้ความคาดหวังของประชาชนเป็นจริงแต่อย่างใด ดังนั้นความหวังในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จึงเป็นเจตนารมณ์ตกทอดมาที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา
ดังนั้น จากสภาพปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นและจะเข้าขั้นวิกฤตสำหรับประชาชนในระดับชุมชนอันเป็นรากหญ้าทั่วประเทศในขณะนี้ คือ ปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคม สำคัญที่สุดก็คือเรื่องปากท้อง แต่ปรากฏว่ารัฐบาลกำลังให้ความสำคัญเรื่องการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญมากพอเท่าๆ กับปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของชาติ
สำหรับเรื่องรัฐธรรมนูญแล้ว จะแก้ในขณะนี้หรือในอนาคต ต่างก็ไม่อยู่ในความสนใจของประชาชนระดับรากหญ้า เพราะกำลังประสบปัญหาวิกฤติเรื่องอาหาร เงินที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละวัน ตรงนี้คือปัญหาเร่งด่วนของรัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไข หากพรรคการเมืองมัวแต่ให้ความสนใจเรื่องรัฐธรรมนูญแต่ปัญหาปากท้องของประชาชนไม่ดีขึ้น ต่อให้มีกฎหมายที่แสนวิเศษเพียงใดแต่ไม่สามารถทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้นมาได้ ก็คงไม่มีประชาชนชื่นชมรัฐบาลอย่างแน่นอน
นายประสิทธิ์ สมัคร นายกเทศมนตรีตำบล (ท.ต.) เชียงม่วน อ.เชียงม่วน จ.พะเยา กล่าวถึงการดำเนินการเร่งแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองต่างๆ ในรัฐบาลว่า โดยภาพรวมตนเห็นด้วยในหลักการ แต่ต้องมุ่งไปที่เป้าประสงค์หลักว่าต้องเป็นการกระทำเพื่อผลประโยชน์โดยรวมของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่แก้ไข เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
แต่ส่วนตัวจริงๆ ตนคิดว่าเวลานี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะต้องเร่งรีบแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะหากสังเกตจากการออกเสียงประชามติของประชาชนทั่วประเทศ ในการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ผ่านมา พบว่าประชามติเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีมากกว่าการไม่เห็นชอบ
นายก ท.ต.เชียงม่วน กล่าวต่อว่า เนื่องจากประชาชนต้องการให้มีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมโดยเร็วที่สุด ที่ผ่านมาประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ในสังคมต่างบอบช้ำกับการปฏิวัติมามากแล้ว
หลายคนคาดหวังเมื่อครั้งปฏิวัติว่า จะทำให้มีการแก้ไขปัญหาของประเทศในหลายๆ ด้านให้ดีขึ้นหลังการปฏิวัติแต่ปรากฏว่ารัฐบาลในครั้งนั้น ไม่ได้ทำให้ความคาดหวังของประชาชนเป็นจริงแต่อย่างใด ดังนั้นความหวังในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จึงเป็นเจตนารมณ์ตกทอดมาที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา
ดังนั้น จากสภาพปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นและจะเข้าขั้นวิกฤตสำหรับประชาชนในระดับชุมชนอันเป็นรากหญ้าทั่วประเทศในขณะนี้ คือ ปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคม สำคัญที่สุดก็คือเรื่องปากท้อง แต่ปรากฏว่ารัฐบาลกำลังให้ความสำคัญเรื่องการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญมากพอเท่าๆ กับปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของชาติ
สำหรับเรื่องรัฐธรรมนูญแล้ว จะแก้ในขณะนี้หรือในอนาคต ต่างก็ไม่อยู่ในความสนใจของประชาชนระดับรากหญ้า เพราะกำลังประสบปัญหาวิกฤติเรื่องอาหาร เงินที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละวัน ตรงนี้คือปัญหาเร่งด่วนของรัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไข หากพรรคการเมืองมัวแต่ให้ความสนใจเรื่องรัฐธรรมนูญแต่ปัญหาปากท้องของประชาชนไม่ดีขึ้น ต่อให้มีกฎหมายที่แสนวิเศษเพียงใดแต่ไม่สามารถทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้นมาได้ ก็คงไม่มีประชาชนชื่นชมรัฐบาลอย่างแน่นอน
