มหาสารคาม - ตำรวจมหาสารคาม คุมเข้มโทรไม่ขับขณะขับรถ เผยระยะเริ่มต้นจะยังไม่มีการปรับไปจนถึง 20 พฤษภาคมนี้ เผยผู้ขับขี่เกิดความตื่นตัวสูงต่อการบังคับใช้กฎหมาย
พ.ต.ท.ณัฏฐพล ดำรงวัชรศักดิ์ รองผู้กำกับฝ่ายจราจรสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า ตามที่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับที่ 8 พ.ศ.2551 ตามมาตรา 43 (9) ที่มีเนื้อหาห้ามผู้ขับรถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในขณะขับรถ เว้นแต่ใช้อุปกรณ์เสริมในการสนทนา เช่น แฮนด์ฟรี หรือ บูลทูธ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (8 พ.ค.) เป็นต้นไปนั้น
โดยวันนี้เป็นวันแรกที่จะมีการบังคับใช้กฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายได้คำนึงถึงการขับขี่ปลอดภัยของประชาชนในการใช้รถใช้ถนน จึงต้องดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด เว้นแต่จะใช้อุปกรณ์เสริมในการโทรศัพท์ขณะขับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมถึงรถจักรยาน จากข้อมูลการศึกษาพบว่า การพูดคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุเทียบเท่ากับผู้ดื่มสุราปริมาณ 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะผ่อนผันก่อน ยังไม่มีการเสียค่าปรับ ซึ่งตามกฎหมายตั้งปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท โดยให้คำแนะนำ และว่ากล่าวตักเตือนผู้กระทำผิดไปจนถึงวันที่ 20 พ.ค.นี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังกฎหมายบังคับใช้ ผู้ใช้รถส่วนใหญ่ต่างตื่นตัวไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถและใช้อุปกรณ์เสริมขณะขับรถ แต่ก็ผู้ขับขี่บางส่วนที่ยังโทรศัพท์ขณะขับรถอยู่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตักเตือนให้หาอุปกรณ์เสริมมาใช้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนน
พ.ต.ท.ณัฏฐพล ดำรงวัชรศักดิ์ รองผู้กำกับฝ่ายจราจรสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า ตามที่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับที่ 8 พ.ศ.2551 ตามมาตรา 43 (9) ที่มีเนื้อหาห้ามผู้ขับรถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในขณะขับรถ เว้นแต่ใช้อุปกรณ์เสริมในการสนทนา เช่น แฮนด์ฟรี หรือ บูลทูธ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (8 พ.ค.) เป็นต้นไปนั้น
โดยวันนี้เป็นวันแรกที่จะมีการบังคับใช้กฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายได้คำนึงถึงการขับขี่ปลอดภัยของประชาชนในการใช้รถใช้ถนน จึงต้องดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด เว้นแต่จะใช้อุปกรณ์เสริมในการโทรศัพท์ขณะขับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมถึงรถจักรยาน จากข้อมูลการศึกษาพบว่า การพูดคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุเทียบเท่ากับผู้ดื่มสุราปริมาณ 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะผ่อนผันก่อน ยังไม่มีการเสียค่าปรับ ซึ่งตามกฎหมายตั้งปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท โดยให้คำแนะนำ และว่ากล่าวตักเตือนผู้กระทำผิดไปจนถึงวันที่ 20 พ.ค.นี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังกฎหมายบังคับใช้ ผู้ใช้รถส่วนใหญ่ต่างตื่นตัวไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถและใช้อุปกรณ์เสริมขณะขับรถ แต่ก็ผู้ขับขี่บางส่วนที่ยังโทรศัพท์ขณะขับรถอยู่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตักเตือนให้หาอุปกรณ์เสริมมาใช้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนน
