มหาสารคาม - ผู้ประกอบการร้านขนมไทยยืนยันยังไม่ปรับราคาขนม แม้ต้องทนแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งน้ำตาล แป้ง และไข่ไก่ เรียกร้องรัฐบาลควบคุมราคาสินค้า แต่อาจปรับปริมาณลงบ้าง หากต้นทุนยังเพิ่มไม่หยุด
รายงานแจ้งว่าขณะนี้ เจ้าของร้านขนมไทยกว่า 20 แห่ง ทั้งในและรอบนอกเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม ต่างประสบปัญหาต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างหนัก จากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางสาวลั่นทม เฟื่องขจร เจ้าของร้านแม่ล้วนขนมไทย ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม เล่าว่า ปัจจุบันสภาวะต้นทุนสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น จากความผันผวนของราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ปรับตัวขึ้นอีก 50 สตางค์ รวมถึงราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ต้นทุนการทำขนมไทยเพิ่มสูงขึ้นเกือบเท่าตัว โดยเฉพาะราคาแป้งที่ใช้ทำขนม น้ำตาลทราย และไข่ไก่ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยหลักในการทำขนมของทางร้าน ทำให้ร้านต้องรับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
อีกทั้งยังต้องจ้างแรงงานอีก 4-5 คน และล่าสุดผลจากราคาน้ำตาลที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีก ทำให้ตามร้านค้าส่งต่างๆ จำกัดปริมาณการซื้อ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อทางร้าน แต่ยังยืนยันที่จะขายขนมไทยในราคาเดิม โดยขนมชั้นขายราคาถาดละ 20 บาท ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด ถุงละ 20 บาท ขนมหม้อแกง 25 บาท ขนมปุยฝ้ายและวุ้นกะทิก็ 20 บาทเช่นเดียวกัน เนื่องจากเศรษฐกิจขณะนี้อยู่ในช่วงชะลอตัว ผู้คนจำกัดการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
หากขึ้นราคาขนม กลัวว่าจะขายของไม่ได้ คงต้องยืนยันขายราคาเดิม แต่อาจลดปริมาณลงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ลูกค้าได้รับผลกระทบ และเพื่อความอยู่รอด ถึงแม้ว่าจะต้องรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นเกือบเท่าตัวก็ตาม อยากเรียกร้องให้ทางรัฐบาลควบคุมราคาสินค้า ไม่ให้สูงขึ้นไปมากกว่านี้ หรือมีมาตรการอื่นๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชน
อย่างไรก็ตาม สำนักงานการค้าภายในจังหวัดมหาสารคาม ได้แจ้งผู้ประกอบการทุกรายห้ามไม่ให้มีการกักตุนน้ำตาล เพื่อหวังกำไร หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายทันที