ศูนย์ข่าวศรีราชา - LG Electronics รุกตลาดภาคตะวันออกครั้งใหญ่ หลังพบการเติบโตของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในพื้นที่มีสูง และยังเป็นผู้นำตลาดในระยะ 3-5 ปีที่ผ่านมา โดยภาคตะวันออกเป็นพื้นที่ที่มียอดจำหน่ายสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ล่าสุดได้เปิดตัว Service Center สาขา 4 ของประเทศในเมืองพัทยาเพื่อดูแลลูกค้าในโซนภาคตะวันออก ขณะเดียวกันยังช่วยส่งเสริมการตลาดให้กับดีลเลอร์ในพื้นที่ที่มีมากถึง 104 ราย มั่นใจอนาคตตลาดจะเติบโตต่อเนื่อง
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด สาขาพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้ทำพิธีเปิดศูนย์ Service Center สาขาเมืองพัทยา ซึ่งเป็นสาขาแห่งที่ 4 ของประเทศ เพื่อทำหน้าที่ดูแลกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ภาคตะวันออก และช่วยกำหนดแผนส่งเสริมการตลาดให้กับดีลเลอร์ ที่มีมากถึง 104 ราย โดยมีนายเฮียน วู ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นประธานในพิธีและมีนายอลงกรณ์ ชูจิต ผู้จัดการประเทศไทยและนายวิฑูรย์ ปานพูนทรัพย์ ผู้จัดการสาขา ให้การต้อนรับ โดยศูนย์แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณริมถนนสุขุมวิทย่านพัทยากลาง
นายอลงกรณ์ ชูจิต ผู้จัดการประเทศไทย เผยถึงตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในจังหวัดภาคตะวันออกว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย LG ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง มีการออกแบบที่ทันสมัย รวมถึงเทคโนโลยีล้ำอนาคต จึงเป็นโจทย์สำคัญให้ LG มีความเติบโตขึ้นอย่าง สำหรับศูนย์ Service Center เป็นการดำเนินงานภายใต้นโยบายการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นแบบระบบสาขา
สำหรับสาขาแห่งนี้นับเป็นสาขาที่ 4 ของศูนย์บริการ LG หลังจากที่ผ่านมาได้เปิดตัวไปแล้วที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัดเชียงใหม่ และนครราชสีมา โดยสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างครอบคลุมในทุกภูมิภาค และภายในปี 2551 บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายสาขาของศูนย์เพิ่มอีก 2-3 แห่งที่จังหวัดอุดรธานี ภูเก็ต และเพชรบุรี
ขณะที่ นายเฮียน วู ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการตั้งเป้ายอดจำหน่ายในปี 2551 ว่ากำหนดไว้ทั้งสิ้น 35,000 ล้านบาท หลังจากปี 2550 มียอดจำหน่ายเติบโตถึง 30,000 ล้านบาท และเมื่อตีเป็นค่าเฉลี่ยแล้วพบการเติบโตอยู่ที่ 20-30% ต่อปี
“นับเป็นตัวเลขที่สวยงามมากสำหรับยอดจำหน่ายที่มีในทั่วประเทศ สำหรับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในจังหวัดทางภาคตะวันออกนั้นก็มีการเติบโตเป็นอันดับ 3 เช่นกัน และสาเหตุที่เลือกเป็นศูนย์ที่เมืองพัทยา เพราะเห็นถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยว และเมืองเศรษฐกิจที่มีกลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราในวงกว้าง”
ศูนย์บริการดังกล่าวจะเน้นรูปแบบการบริหารแบบเบ็ดเสร็จ ทั้งในส่วนของงานขาย กิจกรรมส่งเสริมการตลาด บริการหลังการขาย และระบบ CRM ซึ่งสามารถรับรู้ข้อมูลความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี และสามารถที่จะพัฒนาระบบการ ตลาดให้เติบโตได้ในอนาคตอันใกล้ และยังสามารถกระจายสินค้าในเครือ LG ได้คล่องตัวมากขึ้น นับเป็นการตอบรับกลยุทธ์การตลาดแบบ Customer Insight ของบริษัทแม่ได้อย่างถูกวัตถุประสงค์
“เมืองพัทยาค่อนข้างมีศักยภาพด้านการตลาด โดยสามารถทำรายได้คิดเป็นร้อยละ 6 ของยอดขายรวมทั้งประเทศ โดยศูนย์บริการนี้จะดำเนินธุรกิจร่วมกับตัวแทนจำหน่ายในโซนภาคตะวันออกจำนวน 104 แห่ง และยังเชื่ออีกว่ายอดขายของ LG ในประเทศไทยจะประสบความสำเร็จด้านยอดขายภายใน 3-5 ปีนี้อย่างแน่นอน” นายเฮียน ระบุ